×

อยู่รอด อยู่ร่วม อยู่อย่างมีความหมาย ‘คัมภีร์’ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ในแบบ ‘สมหวัง เดชศิริอุดม’ ทายาทรุ่น 3 ของ ‘เล้งเส็ง กรุ๊ป’ [ADVERTORIAL]

20.10.2021
  • LOADING...
สมหวัง เดชศิริอุดม

เมื่อพูดถึง ‘เล้งเส็ง กรุ๊ป’ แน่นอนว่าคนจังหวัดสกลนครและจังหวัดใกล้เคียงย่อมรู้จักกัน เพราะนี่คือชื่อของ ‘ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกขายส่ง’ ที่ทำธุรกิจมานานกว่า 6 ทศวรรษ (ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2500) และปัจจุบันมี ‘สมหวัง เดชศิริอุดม’ ทายาทรุ่น 3 มารับตำแหน่งแม่ทัพเพื่อนำพาธุรกิจให้เติบโตแข็งเกร่งต่อไปในอนาคต 

 

ปัจจุบันอาณาจักรเล้งเส็ง กรุ๊ป ที่มีรายได้มากถึง 2,400 ล้านบาท ในปี พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา ประกอบไปด้วยธุรกิจ 4 ส่วน ได้แก่ 

  • ค้าส่ง ซึ่งมีสินค้าหลักเป็นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป (FMCG) ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้กว่า 50% 
  • ค้าปลีก มีซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อ ‘เล้งเส็ง’ จำนวน 1 แห่ง และร้านโชห่วยภายใต้ชื่อ LS21 (แอลเอส ทเวนทีวัน) จำนวน 3 สาขา ธุรกิจนี้มีสัดส่วนรายได้ 10%
  • ผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) ซึ่งครอบคลุมถึง 14 จังหวัด ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีสัดส่วนรายได้ 40%
  • ธุรกิจ Entertainment ในเชิง CSR ให้กับคนในพื้นที่: สปอร์ตคลับ ฟิตเนส สนามฟุตบอลหญ้าเทียม และสระว่ายน้ำ

 

ถึงจะเป็นธุรกิจที่ทำมาอย่างยาวนานจนเป็นที่รู้จัก แต่ ‘สมหวัง’ รู้ดีว่า ธุรกิจค้าปลีกแบบดั้งเดิมจำต้องมีการพัฒนา เพื่อทำให้ธุรกิจสามารถต่อสู้กับ ‘โมเดิร์นเทรด’ ที่กำลังรุกคืบเข้ามาเรื่อยๆ หลังจากเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจ สมหวังจึงหยิบเรื่องการเก็บข้อมูลและการนำดิจิทัลมาช่วยเพื่อให้การทำงานนั้นง่ายขึ้น

 

ที่น่าสนใจคือ สมหวังได้ก่อตั้ง Retail Lab เพื่อเป็นต้นแบบของร้านค้ารายย่อย รวมทั้งศึกษาตลาด ความต้องการของลูกค้า และนำ Know-how ที่เกิดขึ้นมาอุดช่องว่างของร้านค้าขนาดเล็ก เพื่อให้สามารถต่อสู้กับโมเดิร์นเทรด โดย Retail Lab ถูกตั้งชื่อว่า LS21 ซึ่งปัจจุบันมี 3 สาขา ซึ่งแต่ละสาขาจะมีขนาดที่แตกต่างกันสำหรับศึกษาตลาดในรูปแบบที่ไม่เหมือนกัน โดยสมหวังระบุว่า ร้าน LS21 จะเป็น ‘ร้านต้นแบบ’ เพื่อให้ร้านค้าคู่ค้าของเราได้มาศึกษาและนำไปใช้ปรับปรุงร้านค้าของตนเอง และเป็นเหมือนส่วนทดลองความรู้ใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตนเองและร้านคู่ค้า 

 

สำหรับการระบาดของโรคโควิด-19 หลายธุรกิจอาจเป็นวิกฤต แต่สมหวังกลับมองว่า “พอโควิดมาปุ๊บ เราเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสครับ” แต่จะสร้างโอกาสไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้เพื่อนคู่คิดที่พร้อมจะ #เคียงข้างเพื่อต่อยอด อย่างสถาบันการเงินที่น่าเชื่อถือ ดังเช่น SCB SME ที่อยู่เคียงข้างมาตั้งแต่การขยายธุรกิจ Distributor ให้ครอบคลุม 14 จังหวัด และยังดูแลมาจนถึงทุกวันนี้

 

สมหวังฉายภาพธุรกิจให้ชัดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 โดยช่วงแรกนั้นธุรกิจยังไม่ได้รับผลกระทบมากนักจากการที่สมหวังเตรียมความพร้อมไว้อยู่แล้ว และยังได้รับอานิสงส์จากบัตรประชารัฐ ทำให้ร้านค้าในอำเภอต่างๆ ขายดีขึ้น ส่วนการระบาดเฟสสอง ธุรกิจขายดีขึ้นเพราะคนกลับภูมิลำเนาที่มาพร้อมกับกำลังซื้อ ขณะที่เฟสสาม ธุรกิจเริ่มได้รับผลกระทบ เพราะคนที่กลับบ้านรอบนี้ไม่ได้มีกำลังซื้อที่เหลือเฟืออีกแล้ว

 

สำหรับสมหวังหาก ‘ผู้ขายรายย่อยรอด ผู้ค้าส่งก็จะรอดด้วย’ จึงกลายมาเป็นโจทย์สำคัญให้กับการรับมือโควิด-19 ที่จะต้องพาทุกคนที่อยู่ในเครือข่ายให้รอดด้วย ซึ่งสิ่งที่สมหวังทำประกอบไปด้วย 5 เรื่อง คือ 

 

  1. เพิ่มความถี่ในการเข้าถึงร้านค้ารายย่อยให้มากขึ้น เพื่อให้ร้านค้าซื้อของและคงสินค้าจำนวนน้อยลงแต่ความถี่มากขึ้น ทำให้กระแสเงินสดคงอยู่มากที่สุด
  2. บริหารสินค้าคงคลัง โดยเน้นที่สินค้าที่ขายได้เป็นหลัก อย่างสินค้า Top 50 โดยการบริหารสินค้าคงคลังให้น้อยลงแต่ต้องไม่ขาด
  3. เส้นทางในการขนส่งสินค้าใหม่เพื่อลดค่าใช้จ่ายจากการขนส่ง เนื่องจากธุรกิจค้าส่งมีประเภทสินค้าที่ส่งหลากหลายและลดปริมาณลงแต่เพิ่มความถี่ในการส่ง ดังนั้นการรวมสินค้าในการส่งและวางเส้นทางในการส่งพื้นที่ใกล้เคียงกันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้ แต่ยังคงประสิทธิภาพในการบริการได้อยู่
  4. แตกไลน์ธุรกิจใหม่จาก Asset ที่ตนเองมีอยู่ ในส่วนของรถในการส่งสินค้าที่ไม่จำเป็นต้องใช้เท่าเดิม รวมถึงศักยภาพของจำนวนรถที่มีอยู่ จึงทำให้กลายเป็นธุรกิจขนส่งสินค้าเกิดขึ้น
  5. เพิ่มช่องทางออนไลน์ให้กับลูกค้าที่เป็นร้านค้ารายย่อย เพื่อช่วยในการสั่งของต่างๆ และยังเป็นการปูทางให้กับร้านค้าได้เรียนรู้และปรับตัวไปกับระบบที่จะสร้างต่อไปในอนาคต

 

“มี 3 เรื่องที่ผมยึดถือคือ ‘อยู่รอด’ เมื่อเจอปัญหาเราต้องแก้ในช่วงระยะสั้น เพื่อทำให้ธุรกิจยังมีกำไร เรื่องที่ 2 คือ ‘อยู่ร่วม’ คือทำอย่างไรก็ได้เพื่อให้เพื่อนร่วมธุรกิจของเราอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเออร์หรือลูกค้า เรื่องสุดท้ายคือ ‘อยู่อย่างมีความหมาย’ คือช่วยดูแลสังคมและรักษาความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง”

 

สมหวังยังได้บอกอีกว่า วิกฤตนี้ไม่ได้มีตัวเขาที่อยู่คนเดียว แต่ยังมี SCB SME ที่เข้ามาเป็น ‘คู่หู คู่คิด คู่ใจ’ ซึ่งจะมีอะไรบ้างนั้นสามารถไปติดตามเพิ่มเติมได้ที่ https://www.scb.co.th/th/sme-banking/articles/success-story-and-inspiration-case/lengseng-Success-Stories-SCB-Branding-Campaign.html 

 

 

ภาพประกอบ: กริน วสุรัฐกร

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising