×

สมศักดิ์แจงไม่มีการปิดข่าว หลังพบผู้ต้องขังติดโควิด-19 ในเรือนจำเกือบ 3,000 คน

โดย THE STANDARD TEAM
13.05.2021
  • LOADING...
ผู้ต้องขังติดโควิด-19

วันนี้ (13 พฤษภาคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม แถลงข่าวกรณีผู้ต้องขังในเรือนจำทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ติดโควิด-19 จำนวน 2,835 ราย ว่าการตรวจหาเชื้อในเรือนจำทำได้อย่างรวดเร็ว เพราะได้รถพระราชทานตรวจโควิด-19 ทำให้ตรวจได้เร็ว ซึ่งเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้น และได้ส่งข่าวให้ญาติทั้งหมดทราบ แต่มีจำนวนมากจึงต้องใช้เวลา ซึ่งตามมาตรฐานสากล ผู้คุม 1 คนจะดูแลผู้ต้องขัง 6 คน แต่สำหรับประเทศไทย อัตราส่วนคือ 1 ต่อ 33 เพราะมีบุคลากรน้อยแต่เราทำงานเต็มที่ ซึ่งปัจจุบันทุกคนเริ่มเข้าใจการทำงานของข้าราชการว่าเราทำงานเต็มที่ ซึ่งทุกเรือนจำข้างในเข้มงวดมาก แต่ 2 เรือนจำที่ติดเชื้อเป็นเรือนจำที่รับผู้ต้องขังใหม่อยู่ตลอด ต่างจากเรือนจำอื่นๆ ส่วนการออกไปศาลได้ประสานกับศาลแต่ละจังหวัดแล้ว ขอให้งดไปในระยะนี้ก่อน เชื่อว่าศาลท่านจะเข้าใจ และสถานการณ์จะคลี่คลายได้ 

 

“ผมขอยืนยัน รัฐบาลโดยท่านนายกฯ สั่งกำชับ ประสานงานมาตลอด ให้ดูแลผู้ต้องขังทุกคนอย่างดี หากยาที่ได้จากสาธารณสุขไม่พอ ทางกรมราชทัณฑ์จะจัดซื้อเองเพื่อรักษาทุกคน ขอให้ญาติผู้ต้องขังทุกคนสบายใจได้ นอกจากนี้ยังมีการประสานจากแพทย์แผนไทย เรื่องการใช้ฟ้าทลายโจรด้วย ยืนยันเราเตรียมพร้อมป้องกันเบื้องต้นมาตลอด” สมศักดิ์กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการปิดข่าวว่ามีผู้ต้องขังติดเชื้อมาก่อนหน้านี้หรือไม่ สมศักดิ์กล่าวว่า “เราไม่มีการปิดข่าว เปิดเผยข้อมูลทุกอย่างมาตลอด”

 

ด้าน นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ไม่เคยมีการปิดบังข้อมูล โรงพยาบาลราชทัณฑ์มีการตรวจตลอด ซึ่งต้องกรอกเลขบัตรประชาชน สามารถตรวจสอบได้ โดยในเดือนเมษายนที่ผ่านมาตรวจพบเพียงหลักร้อยเท่านั้น ซึ่งโรงพยาบาลสามารถรองรับการตรวจเชื้อได้ทั้ง 2 เรือนจำ แต่อาจจะตรวจได้ช้า แต่เมื่อเราได้รถพระราชทานจึงตรวจได้เร็วขึ้น และดำเนินการตามหลักการตรวจเชิงรุก 100% เพื่อแยกคนติดเชื้อออก 

 

นพ.วีระกิตติ์กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้มีที่เรือนจำนราธิวาส แต่ตอนนี้ควบคุมได้แล้ว ส่วนที่อื่นๆ ดำเนินการตามสาธารณสุขยังไม่พบ ซึ่งเราได้มีการปรับเพิ่มการกักตัวใหม่เป็น 21 วัน และตรวจเชื้อ 2 ช่วง คือตอนเข้าและหลังกักตัว และใช้ Rapid Test จะได้รวดเร็วในการคัดกรองมากขึ้น ส่วนการหาวัคซีนให้ผู้ต้องขัง ขณะนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ลงนามอนุมัติจัดหาวัคซีนฉีดให้ผู้ต้องขังทั่วประเทศแล้ว คาดว่าจะได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้ และเริ่มจากกลุ่มเสี่ยงสูง ผู้ที่มีโรคประจำตัวก่อน โดยตอนนี้ฉีดให้ข้าราชการที่ต้องทำงานในกลุ่มเสี่ยงไปบ้างแล้ว เรื่องเหล่านี้เราได้เตรียมความพร้อมไปแล้ว 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ต้นตอจากการติดเชื้อมาจากไหน มีการสืบสวนโรคได้อย่างไรบ้าง อายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ในส่วนของทัณฑสถานหญิงกลางมาจากผู้ต้องขังเข้าใหม่ ส่วนเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มาจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งทุกคนที่ตรวจพบเชื้อได้ส่งรักษาแล้ว มีการจำแนกผู้ต้องขังที่ติดเชื้อทั้งหมด มีสีแดง 4 ราย มี 1 รายใช้เครื่องช่วยหายใจเนื่องจากโรคประจำตัว ซึ่งเรายังใช้แนวทางบับเบิลแอนด์ซีล และมีห้องกักโรคแยกชัดเจน ส่วนเรื่องของวัคซีนได้ประสานอธิบดีกรมควบคุมโรคในการจัดหาแล้ว ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขทำงานได้ทันเหตุการณ์ และได้แจ้งไปยังเรือนจำทั่วประเทศให้ควบคุมให้ดี 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising