วันนี้ (30 ธันวาคม) สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาอนุมัติการเยียวยาเหตุอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสแล้ว หลังจากจังหวัดนราธิวาสได้มีหนังสือแจ้งมายังกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยว่าในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยจำนวน 13 อำเภอ, 75 ตำบล, 523 หมู่บ้าน และ 62,613 ครัวเรือน จึงขอสนับสนุนถุงยังชีพจำนวน 53,810 ชุด
สมศักดิ์กล่าวอีกว่า เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ กองทุนเงินช่วยเหลือฯ จึงเห็นสมควรอนุมัติให้ความช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยในจังหวัดนราธิวาส โดยเบื้องต้นให้จัดหาถุงยังชีพจำนวน 53,810 ชุด ในราคาชุดละ 700 บาท เป็นจำนวนเงิน 37,667,000 บาท เพื่อความรวดเร็ว สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีจะโอนเงินให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเพื่อดำเนินการจัดถุงยังชีพเป็นการเร่งด่วนต่อไป
อนุมัติกองทุนเงินช่วยเหลือฯ เยียวยาเหตุน้ำท่วม
“ผมในฐานะประธานกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย ได้อนุมัติเงินกองทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือกรณีเร่งด่วนแทนคณะกรรมการฯ เพราะผมเข้าใจถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นอย่างดี รวมถึงรัฐบาลภายใต้การนำของท่านเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาเป็นอย่างมาก จึงรีบดำเนินการให้ทันที หลังจากจังหวัดส่งความต้องการมา ดังนั้น หากจังหวัดใดที่ได้รับผลกระทบก็ขอให้รีบส่งหนังสือขอรับการสนับสนุน เพื่อจะได้เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทัน เพราะน้ำท่วมภาคใต้มาเร็ว แต่ก็จะแห้งเร็ว ทำให้ภาครัฐต้องเร่งช่วยเหลือ เพื่อให้ทันต่อเหตุการณ์ ซึ่งหลังจากเหตุการณ์กลับเข้าสู่ปกติ ผมก็ขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสำรวจความเสียหาย ทั้งผู้เสียชีวิตและบ้านเรือนของประชาชน เพื่อจะได้ช่วยเหลือเยียวยาต่อไป” สมศักดิ์กล่าว
เยียวยาเสียชีวิต 80,000 บาท บ้านพัง 15,000-230,000 บาท
สมศักดิ์กล่าวอีกว่า สำหรับหลักเกณฑ์การช่วยเหลือของกองทุนเงินช่วยเหลือฯ ในกรณีเสียชีวิตจะได้รับค่าจัดการศพรายละ 50,000 บาท พร้อมเงินทุนเลี้ยงชีพแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอีก 30,000 บาท รวมเป็น 80,000 บาท ส่วนกรณีบ้านเรือนเสียหายจะได้รับเงินเยียวยา แบ่งเป็นเสียหายน้อย (เสียหายน้อยกว่า 30%) ไม่เกินหลังละ 15,000 บาท, เสียหายมาก (เสียหาย 30-70%) ไม่เกินหลังละ 70,000 บาท และเสียหายทั้งหลัง (เสียหายเกิน 70%) ไม่เกินหลังละ 220,000-230,000 บาท