×

ส.ว. สมชาย ระบุ กกต. ควรยื่นศาล รธน. วินิจฉัยหุ้นสื่อพิธาตั้งนานแล้ว ยันไม่มี ส.ว. คนไหนถูกข่มขู่ห้ามโหวตพิธา

โดย THE STANDARD TEAM
12.07.2023
  • LOADING...
สมชาย แสวงการ

วันนี้ (12 กรกฎาคม) สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องถึงศาลรัฐธรรมนูญ (รธน.) กรณี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ถือครองหุ้นบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน)

 

เมื่อถามว่า พิธาจะสามารถถูกเสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่ สมชายกล่าวว่า ในที่ประชุม ส.ว. มีการพูดคุยกันแค่เรื่องเวลาที่ได้รับจัดสรรให้อภิปรายในสภาว่า ส.ว. ได้เวลากี่ชั่วโมง และเราจะจัดสรรอย่างไรให้สมาชิกได้สื่อสารกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และประชาชนว่า การตัดสินใจของ ส.ว. แต่ละคนใช้วุฒิภาวะ ใช้ข้อพิจารณาอย่างไร 

 

ส่วนเรื่องที่ กกต. ส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตนคิดว่าต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ คาดว่าน่าจะใช้เวลาถึงสัปดาห์หน้า ซึ่งพิธายังสามารถมาแสดงวิสัยทัศน์ได้ ไม่เหมือนกับกรณีของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ 

 

เมื่อถามว่า การที่ กกต. ยื่นเรื่องในวันนี้มีผลต่อการตัดสินใจเลือกพิธาของ ส.ว. หรือไม่ สมชายระบุว่าเป็นเรื่องปกติ ที่จริงควรทำตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งทำวันนี้ เนื่องจากมีผู้ร้องตั้งแต่พิธายังเป็นผู้สมัคร ส.ส. ซึ่งเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับที่ธนาธรถูกยื่น ซึ่งตนก็เคยถูกยื่นในอดีต มีคำวินิจฉัยมาถึง 4 คดีแล้ว ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร ทั้งนี้ ต้องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตนยังไม่เห็นคำร้อง ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องเกมการเมือง เนื่องจากไม่มีใครเอาหุ้นไปให้พิธาถือ พิธาเป็นคนถือเอง เหมือนที่ตนก็เคยถือและศาลมีคำวินิจฉัย

 

“ไม่มีนิติสงครามใดๆ อย่างที่เขาพูดกัน ทำอะไรก็ให้ศาลวินิจฉัย แล้วศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยถึงที่สุด อย่าไปกังวลอะไร” สมชายกล่าว

 

ส่วนที่ก่อนหน้านี้ ส.ว. เคยออกมาระบุว่าจะพิจารณาไม่เลือกคนที่มีประวัติ มีคดี โดยจะมีผลต่อการโหวต สมชายกล่าวว่า ก็แล้วแต่คน ในการวินิจฉัยตนไปก้าวล่วงไม่ได้ แต่จะดูในหลักการว่าสิ่งที่พิธาต้องมี 4 ข้อคือ มีความซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ มีวิสัยทัศน์หรือไม่ มีความรอบรู้หรือไม่ และสามารถสร้างแรงบันดาลใจได้หรือไม่ ส่วนหลักการสำคัญในการเป็นคณะรัฐมนตรีก็เคยพูดแล้วว่าต้องดูความมั่นคงของประเทศ ซึ่งไม่ใช่ความมั่นคงทางทหาร แต่คือความเป็นชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 

 

“เราก็เคยทักท้วงแล้วว่าหลายเรื่องเป็นการขับเครื่องบินชนเพดาน อะไรที่มันสุดโต่งก็ขอให้ลดเพดานลง นโยบายบางเรื่องอาจเป็นการพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน ต้องรอฟังแถลงว่าเขาจะลดเพดานได้หรือไม่ ไม่ใช่เฉพาะแค่มาตรา 112 โดยมาตรา 112 เราเห็นอยู่แล้วว่าเขียนจนกระทั่งโทษต่ำกว่าคดีหมิ่นประมาทชาวบ้านทั่วไปอีก ในฐานะประมุขของประเทศ ไม่มีประมุขประเทศไทย ไม่มีกฎหมายคุ้มกัน ยิ่งพระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย ตกลงกันตั้งแต่ปี 2475 แล้ว ยิ่งไปเขียนแบบนั้นไม่ได้ แต่หากจะบอกว่ามาศึกษาต้องไปดูว่าเจตนารมณ์ตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันเปลี่ยนจริงหรือไม่ คุณพิธาคนเดียว หรือ ส.ส. ทั้งพรรคจะเลิกเลย หรือมวลชน องค์กรเครือข่าย อันนี้เป็นปัจจัยหนึ่ง แล้วยังมีปัจจัยเรื่องอื่นๆ อีก” สมชายกล่าว

 

สมชายตั้งคำถามว่า ความมั่นคงในเรื่องราชอาณาจักรเป็นหนึ่งเดียว หรือความคิดเรื่องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ รวมถึงโครงสร้างการเมืองในหลายแบบที่นำเสนอจะเป็นอย่างไร ตนเห็นว่าคนหนุ่มสาวควรจะเป็นผู้นำในการเดินหน้าต่อ แต่หลายเรื่องหากเดินต่อไปแล้วมีความเสี่ยง ตนคิดว่า ส.ว. ก็จะเอาตรงนี้มาพิจารณามากกว่า ส่วนคนอื่นอาจพิจารณาคุณสมบัติประกอบด้วยก็สามารถเกิดขึ้นได้ 

 

สมชายยังระบุอีกว่า ตนได้รับข้อความมาสองวันแล้วจากผู้ใหญ่ในแวดวงการเมือง เตือนให้ระมัดระวังว่ามีขบวนการที่พยายามจากพรรคก้าวไกล ซึ่งตนคิดว่าพิธาและแกนนำพรรคอาจไม่เห็นด้วยที่มีผลประโยชน์ มีการติดต่อทาบทามให้ได้ผลประโยชน์ จากการเลือกแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล แต่กรณีที่ ส.ว. บางคนออกมาเปิดเผยว่าถูกทาบทามไม่ให้โหวตพิธา เรื่องนี้ตนไม่ได้ข่าว มองว่าเป็นตรรกะที่ประหลาด ไม่น่าเป็นไปได้

 

“เมื่อเช้าก็เห็นออกรายการวิทยุโทรทัศน์หลายที่ว่ามีไลน์หลุดจาก ส.ว. ว่ามาทาบทามจะจ่ายเงิน ให้กล้วย แลกกับการไม่โหวตให้คุณพิธา ผมถามว่าแบบนี้ใครได้ประโยชน์ ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ถ้าจะโหวตให้คุณพิธาผมก็ไม่เชื่อว่าคุณพิธาจะทำได้ แต่อาจมีกลุ่มไม่หวังดีพยายามทำให้วุ่นวาย ถามว่ามีหรือไม่ ก็เรียนตรงๆ ว่ามีข้อมูลที่สมาชิกมาเล่าให้ฟัง” สมชายกล่าว

 

สมชายกล่าวต่อว่า ตนเชื่อมั่นใน ส.ว. 250 คนที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ โดยมาจากการสรรหา ยืนยันว่าทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีเรื่องอามิสสินจ้าง ส.ว. จะไม่รับสินบนใดๆ ใครจะปฏิเสธจริงจังหรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่า ส.ว. ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่จะไปรับผลประโยชน์แบบนี้ ถ้าไปทำเช่นนั้นมันขายชาติ สาเหตุที่ออกมาเปิดเผยขบวนการข้างต้นเพราะเชื่อว่ามีกลุ่มที่ไม่หวังดี 

 

เมื่อถามว่าคนที่ได้รับติดต่อล็อบบี้มีจำนวนเท่าไร สมชายกล่าวว่าตนไม่ทราบ แต่บอกได้คร่าวๆ ว่า 7+15 กล้วย 7 หวีมัดจำ ถ้าสำเร็จมี 15 หวี จริงเท็จไม่ทราบ แต่ตัวเลขที่ส่งมาเท่าที่เห็นก็มี 30-50 อยู่ ตนก็ยังไม่เชื่อว่าจะมีใครทำเพราะอาชญากรรมทิ้งร่องรอย 

 

เมื่อถามว่าภาพลักษณ์ของ ส.ว. ที่ออกมานั้นมีคนบอกว่ามีการวิ่งเต้นจากหลายฝั่ง สมชายกล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากมีคนอยากได้เสียง ก็มีทั้งไปพบที่บ้าน ติดต่อทางโทรศัพท์ ขอพบผ่านครอบครัว คนสนิท แม้แต่งานศพก็ยังไปล็อบบี้ ยังใช้วิธีแบบเดิม ใช้มวลชนบวกกับโซเชียล ตนคิดว่าเรื่องนี้ ส.ว. ก็คงทำตามหน้าที่ ตามภาระตัวเอง อดทนหนักแน่น ไม่หวั่นไหวใดๆ ทั้งสิ้น อาจจะยากลำบากหน่อย แต่ก็มีประชาชนมอบคะแนนเสียงให้ ส.ว. ลงประชามติ 15 ล้านเสียง ถ้าปิดสวิตช์ได้คงปิดสวิตช์ตัวเองไปแล้ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising