“ในปัจจุบันถึงแม้ไอศกรีมจะไม่ใช่อาหารหลักที่ต้องกินทุกมื้อ แต่ก็เป็นของกินเล่นที่สามารถรับประทานได้ทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเมืองไทยที่เป็นเมืองร้อน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ธุรกิจไอศกรีมในบ้านเรามีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง”
นี่เป็นสิ่งที่ ปิยะพงศ์ จิตต์จำนงค์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด หรือ ซีอาร์จี มองเห็นในตลาดไอศกรีมของไทย ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อว่า ถ้าหากกล่าวถึงไอศกรีมในประเทศไทยเราคงเห็นกันอย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น แบบไม่มีแบรนด์ที่ขายทั่วไป, แบบ Local Brand, แบบแบรนด์ที่อยู่ในห้างแบบ Mass และแบบพรีเมียมแบรนด์
“ทั้งหมดนั้นมีมูลค่ารวมมากกว่า 13,000 ล้านบาท หรือเติบโต 8% ต่อปี และมีอัตราเติบโตเฉลี่ย Single Digit ทุกๆ ปี จึงทำให้มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในการต่อยอดตลาดไอศกรีมให้มีมูลค่ามากยิ่งขึ้น”
ข้อความข้างต้นกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ‘ซีอาร์จี’ อยากบุกตลาดไอศกรีมเพิ่มขึ้นอีก แม้ว่าจริงๆ แล้วในพอร์ตจะมี Cold Stone อยู่ราว 20 กว่าสาขาก็ตาม หาก Cold Stone ถูกจัดวางอยู่ในตลาดพรีเมียม ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนตลาด 20% และมีคู่แข่งสำคัญอย่าง Swensen’s, Baskin-Robbins และ Ben & Jerry’s
เซกเมนต์ที่ซีอาร์จีกำลังสนใจในขณะนี้คือ ไอศกรีมประเภท Soft Serve มูลค่าประมาณ 2,500-3,000 ล้านบาท ทำไมเซ็นทรัลถึงสนใจตลาดนี้? เพราะเมื่อมองเข้าไปในตลาดจะพบว่า Soft Serve มีคู่แข่งที่ไม่เยอะมากเมื่อเทียบกับเซกเมนต์อื่นๆ เพียงแต่โจทย์ใหญ่คือมีเจ้าตลาดเป็น Dairy Queen ในเครือไมเนอร์ฟู้ด กินสัดส่วนตลาดไปเกือบ 80% ในขณะที่เหลือเป็นเชนฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonald’s และ KFC แต่ก็ไม่ถือเป็นธุรกิจหลักของทั้งคู่
ซีอาร์จีมองว่าตัวเองสามารถเจาะได้ เพราะมีโรงงานผลิตไอศกรีมเป็นของตัวเอง จึงสามารถคิดค้นสูตรไปจนถึงควบคุมต้นทุนต่างๆ จึงได้ปั้นร้านไอศกรีม Soft Serve ภายใต้ชื่อ ‘ซอฟท์แอร์ (Soft Air)’ ขึ้นมา โดยใช้เวลาพัฒนาแบรนด์คิดสูตรและปรับอุปกรณ์เครื่องมือในการผลิตประมาณปีกว่าๆ และเป็นแบรนด์ที่ 13 ภายใต้เครือซีอาร์จีที่มีร้านอาหารอื่นๆ อย่างเช่น KFC, Mister Donut และ Auntie Anne’s เป็นต้น
‘ซอฟท์แอร์’ รู้อยู่แล้วว่า เมื่อเข้ามาในตลาดนี้จะต้องเจอกับ Dairy Queen อย่างแน่นอน จึงสร้างความแตกต่างด้วยการให้ไอศกรีม 1 โคน สามารถใช้ไอศกรีมทั้ง 6 รสชาติ ได้แก่ Normandie Milk, California Strawberry, Brussels Choco, Shizuoka Matcha, Okinawa Purple Potato และ Chanthaburi Mhonthong เข้าไปพร้อมกันได้ ในราคา 29-95 บาท
เชื่อว่าวิธีนี้จะสามารถจับกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุระหว่าง 18-29 ปี อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ และหัวเมืองใหญ่ มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบการท่องเที่ยว ชอบทดลองและสัมผัสอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อสร้างสีสันให้กับชีวิตได้อย่างแน่นอน โดยซอฟท์แอร์สาขาแรกได้ประเดิมเปิดไปแล้วที่สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2
ซีอาร์จีหวังกับ ‘ซอฟท์แอร์’ ไม่มากไม่มายภายใน 5 ปีอยากมีรายได้ 1,000 ล้านบาท จาก 100 สาขาที่จะกระจายไปตามศูนย์การค้า และ Hypermarket ต่างๆ โดย 50% จะลงทุนเอง ที่เหลืออีก 50% จะเป็นของแฟรนไชส์
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
