×

‘สินมั่นคง’ จ่ายเคลมโควิดปี 64 กว่า 8 พันล้าน ฉุดผลดำเนินงานพลิกขาดทุนกว่า 4,753 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 727%

18.02.2022
  • LOADING...
สินมั่นคงประกันภัย

สินมั่นคงประกันภัยเผยผลดำเนินงานปี 2564 ขาดทุนสุทธิกว่า 4,753 ล้านบาท หรือคิดเป็นการขาดทุนที่เพิ่มขึ้นถึง 727% ชี้ผลจากค่าสินไหมโควิดที่เพิ่มกว่า 8,141 ล้านบาท

 

เรืองเดช ดุษฎีสุรพจน์ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.สินมั่นคงประกันภัย รายงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ในปี 2564 บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิจากการดำเนินงานรวม 4,753 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 757 ล้านบาท คิดเป็นผลการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น 5,511 ล้านบาท หรือประมาณ 727.7% 

 

โดยในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 10,898 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 484 ล้านบาทจากปี 2563 ที่มีรายได้รวม 10,413 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 4.66% แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยที่ถือเป็นรายได้ 9,850 ล้านบาท ลดลง 221 ล้านบาท คิดเป็นการลดลง 2.19% ซึ่งเป็นผลจากการสำรองเบี้ยประกันภัยเพิ่มจากปีก่อน 743 ล้านบาท

 

ส่วนรายได้และกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้น 705 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 206% เมื่อเทียบกับปีก่อน สาเหตุจากกำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 724 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 501% จากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อทำกำไร และกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมเพิ่มขึ้น 86.36 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 1,555% ซึ่งเป็นผลจากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการขายเงินลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ

 

สำหรับค่าใช้จ่ายรวมในปี 2564 มีจำนวน 16,406 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,918 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 72.9% สาเหตุหลักจากค่าสินไหมทดแทนที่มีจำนวน 13,333 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7,009 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 110% แบ่งเป็นค่าสินไหมทดแทนประเภทอื่น 5,191 ล้านบาท และค่าสินไหมทดแทนโควิด 8,141 ล้านบาท เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเมื่อเทียบกับปี 2563

 

ส่วนกำไรจากการรับประกันภัยมีผลขาดทุนจำนวน 6,406 ล้านบาท เนื่องจากการรับประกันภัยโควิดประสบผลขาดทุนเป็นจำนวนเงินสูงถึง 7,632 ล้านบาท ส่วนการรับประกันภัยประเภทอื่นมีผลกำไรจำนวน 1,226 ล้านบาท 

 

โดยสรุป สาเหตุหลักที่ทำให้ผลดำเนินงานของบริษัทขาดทุนสูงถึง 4,753 ล้านบาท มาจากจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนโควิดที่เพิ่มขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปี 2563 ที่มีจำนวนค่าสินไหมทดแทนโควิดเพียง 11.56 ล้านบาท 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising