×

ถอดบทเรียนตัวละคร Eric จาก Sex Education มิติของความหลากหลายภายใต้ความฉูดฉาด

01.02.2019
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins. Read
  • ถ้าคุณได้ชมซีรีส์ Sex Education (2019) ทาง Netflix คุณจะต้องจำภาพของตัวละคร เอริก เอฟฟออิง ที่รับบทโดย เอ็นคูติ กัตวา ตัวละครเกย์ผิวสีที่จะปรากฏตัวมาด้วยรอยยิ้ม ความก๋ากั่น และสีสันของเสื้อผ้าที่ฉูดฉาด โดยตัวละครนี้ล่ะที่เราอยากหยิบยกเรื่องราวของเขามาพูดถึง ถอดบทเรียนและประสบการณ์ร่วมในเรื่องความสัมพันธ์ รวมถึงประเด็นทางสังคมอื่นๆ ที่น่าสนใจ
  • ทำไมตัวละครเอริกจึงถูกเกลียดชังนักหนา? ถ้าคุณลองคิดถึงภูมิหลังตัวละครที่เป็นเกย์ เป็นคนผิวสี และเป็นแอฟริกัน แน่นอนว่านี่คือการนำเสนอรูปแบบของความเกลียดชังทั้งการเหยียดเพศและเชื้อชาติที่เกิดขึ้นในสังคม
  • ท้ายที่สุดเอริกกำลังพยายามบอกกับเราโต้งๆ ว่าการที่ ‘คุณ’ ยังคงเป็น ‘ตัวคุณ’ ต่างหากที่สำคัญที่สุด และการ ‘ถูกยอมรับ’ จะไม่เกิดขึ้นเลย หากคุณไม่แม้แต่จะยอมรับตัวตนหรือความต้องการที่แท้จริงของคุณเสียก่อน

ต้องยอมรับว่า Sex Education น่าจะเป็นออริจินัลซีรีส์ของ Netflix ที่ถูกพูดถึงในวงกว้างที่สุดเท่าที่เคยทำการตลาดมาในประเทศไทย ทั้งเนื้อหาที่สนุกสนาน สอดแทรกข้อคิดเรื่องเพศและความสัมพันธ์ไว้อย่างชาญฉลาด ซึ่งทำให้เกิดกระแสปากต่อปาก และผู้ชมก็ต่างพร้อมใจพูดถึงกันอย่างแพร่หลาย หรืออย่างล่าสุดที่มีประเด็นเรียกร้องให้มีการปลดป้ายโฆษณาของซีรีส์เรื่องดังกล่าวลงเพียงเพราะมีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งคิดว่าเนื้อหาของซีรีส์ไม่เหมาะสมที่จะโฆษณา (ถามจริง?) ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่สังคมถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนในไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ความน่าสนใจจริงๆ ของ Sex Education คือการนำเสนอชีวิตวัยรุ่นในรูปแบบ coming of age เล่าเรื่องของ โอทิส เด็กหนุ่มที่กำลังอยู่ในวัยเจริญพันธุ์และไม่ประสีประสากับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ โดยเขาจะต้องมาร่วมมือกับ เมฟ หญิงใจเด็ดของเรื่อง เพื่อทำกิจการ ‘คลินิกให้คำปรึกษาเรื่องความสัมพันธ์’ ในไฮสคูลของพวกเขา พร้อมนำเสนอพัฒนาการของตัวละครผ่านบทเรียนจากเรื่องเซ็กซ์ ความรัก และความสัมพันธ์ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังมอบเรื่องราวที่วัยรุ่นไทยอาจจะเคยมีประสบการณ์ร่วมกันมาทั้งนั้น เช่น เรื่องรักหรือเซ็กซ์ในวัยเรียน การถูกกลั่นแกล้งรังแก การไม่ถูกยอมรับในเรื่องเพศ หรือการเป็น ‘nobody’ ในสายตาของคนอื่นๆ

 

Photo: Netflix

 

ถ้าหากใครได้ชมแล้ว คุณคงต้องจำภาพของตัวละครเพื่อนรักของพระเอกที่ชื่อ เอริก เอฟฟออิง ซึ่งรับบทโดย เอ็นคูติ กัตวา ได้อย่างแน่นอน ตัวละครเกย์ผิวสีที่จะปรากฏตัวมาด้วยรอยยิ้ม ความก๋ากั่น และสีสันของเสื้อผ้าที่ฉูดฉาด โดยตัวละครนี้ล่ะที่เราอยากหยิบยกเรื่องราวของเขามาพูดถึง ถอดบทเรียนและประสบการณ์ร่วมในเรื่องความสัมพันธ์ ไปจนถึงกะเทาะเปลือกอันก๋ากั่นที่ทีมผู้สร้างและตัวละครนี้ได้ฉาบเคลือบไว้อย่างน่าสนใจ และภายใต้เปลือกนั้นได้แสดงให้เห็นว่า Sex Education เป็นอีกมิติของการนำเสนอความหลากหลายทางสังคมและวัฒนธรรมผ่านป๊อปคัลเจอร์ที่ดีมากๆ

 

หากเป็นละครไทยหรือซีรีส์ไทย ภาพหนึ่งที่คุณจะต้องจดจำได้คือการสร้างภาพลักษณ์ของเกย์ ตุ๊ด หรือกะเทยให้เป็นเสมือนตัวตลก ไม่ได้มีบทบาทหรือมิติของตัวละครไปมากกว่านั้น เป็นเพียงตัวสร้างสีสันให้ละครหรือหนังดู ‘สนุกขึ้น’ ตามความเข้าใจของผู้สร้าง ซึ่งนั่นช่างผิดแผกจากการดีไซน์ตัวละครเอริกโดยสิ้นเชิง หากใครที่ยังไม่ได้ชมซีรีส์เรื่องนี้ คุณลองนึกภาพดูนะว่าเอริกเป็นเกย์ผิวสีคนหนึ่งที่เติบโตมาในครอบครัวที่มีเชื้อสายแอฟริกันเคร่งศาสนา ถูกกลั่นแกล้งจากเพื่อนผู้ชาย และเป็นที่ร้องยี้ของเพื่อนๆ ร่วมชั้นเรียนเกือบทั้งหมด เอาแค่ที่เราสรุปความสั้นๆ แค่นี้ เราก็นึกถึงภาพของเลือดเนื้อที่เข้มข้นของตัวละครอย่างมากแล้ว ทั้งในประเด็นของการเป็นคนชายขอบของสังคม และยังต้องทนทุกข์กับกรอบของศาสนาและครอบครัวที่กดดันเขาอีกด้วย

 

หากเป็นซีรีส์ไทย เราคงไม่มีวันได้เห็นแง่มุมของตัวละครเช่นนี้เลย อย่างน้อยๆ เราอาจนึกถึงการสร้างตัวละคร ‘ไวน์’ นางเอกจากละครเรื่อง สงครามนางงาม ทางช่อง One31 เมื่อหลายปีก่อนที่เธอเป็นผู้หญิงข้ามเพศปลอมตัวเข้ามาประกวดนางงาม ซึ่งนับเป็นแรงกระเพื่อมที่น่าสนใจมากๆ ครั้งหนึ่งของวงการโทรทัศน์ไทย กับการนำเอาความหลากหลายทางเพศขึ้นมาเป็นตัวละครหลักที่มีมิติและภูมิหลังที่ซับซ้อนและน่าสนใจ แล้วกับตัวละครเอริกนี้น่าสนใจมากแค่ไหนกัน ในเมื่อเราต่างเห็นสังคมตะวันตกนำเสนอเรื่องเกย์ผิวสีอยู่กันมากมาย อย่างเช่นสิ่งที่ตัวละครอย่างเอริกชี้ชวนให้เรานึกถึงหนังยอดเยี่ยมรางวัลออสการ์เมื่อปี 2016 อย่าง Moonlight ที่เล่าเรื่องราว coming of age ของตัวละครเกย์ผิวสีที่ต้องดำเนินชีวิตผ่านหลากหลายบททดสอบ

 

Photo: Netflix

 

ตำแหน่งของเอริกในซีรีส์ Sex Education นี้มีภาษีเทียบเท่ากับบท ‘เพื่อนพระเอก’ เอาง่ายๆ ว่าถ้าหากเป็นบริบทของบ้านเรา การที่ผู้ชายแท้ๆ (Straight) จะมีเพื่อนเป็นเกย์สักคนคงเป็นไปไม่ได้เลย แต่เราเองก็ต้องบอกว่ามันมีความสัมพันธ์รูปแบบนี้อยู่จริงๆ ที่เกย์และผู้ชายเป็นเพื่อนสนิทกันโดยไม่มีเรื่องของเซ็กซ์ ประเด็นของไบเซ็กชวล หรือคู่จิ้นใดๆ เข้ามาเกี่ยวข้องเลย ฉะนั้นเราอาจจะรู้สึกแปลกตาไป เพราะส่วนใหญ่เรามักจะคุ้นเคยว่าเกย์ต้องมีเพื่อนเป็นผู้หญิงเท่านั้น ความน่าสนใจไปมากกว่านั้นคือการให้ตัวละครหลักอย่างโอทิสได้ทำ ‘สิ่งเกย์ๆ’ ร่วมกับเพื่อนของเขาเหมือนเป็นเรื่องปกติ เช่น การแต่งแดรก หรือเอริกเองก็ทำในสิ่งที่เพื่อนผู้ชายทำกันอย่างการนั่งเล่นเกมกดเป็นเรื่องปกติ ถ้าเป็นเช่นนั้น ลองคิดดูว่าหากสังคมบ้านเราเองทำให้เรื่องเพศเป็นเรื่องปกติเช่นนี้ได้ เราจะอยู่ร่วมกันได้อย่างสบายอกสบายใจขนาดไหนกันเชียว

 

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการที่ครอบครัวของเอริกต่างรู้ว่าเขาเป็นเกย์ และพร้อมใจกัน ‘เข้าใจ’ สังคมและโลกภายนอกที่โหดร้ายมากกว่าตัวเอริกเองเสียอีก เช่น การที่พ่อของเอริกนั้นหวาดกลัวที่ลูกของเขาจะแต่งแดรกออกไปดูหนังกับเพื่อนในเมือง ไม่ใช่ว่าพ่อรังเกียจเดียดฉันท์ที่เขาแต่งหญิง แต่กลับหวาดกลัวว่าจะมีใครมาทำร้ายเขาต่างหาก นั่นเป็นเพราะ ‘ความเข้าใจ’ ที่ถูกสร้างโดยมีกรอบของ ‘ความไม่เข้าใจ’ จากสังคมภายนอกกดทับลงมาอีกที ซึ่งเราชื่นชมชั้นเชิงในการเล่าเรื่องที่จริงใจและชัดเจนในประเด็นนี้เหลือเกิน

 

 

ทั้งนี้ตัวซีรีส์เองก็ไม่ได้สร้างโลกในอุดมคติมากเกินไป เพราะเอริกยังต้องเจอกับตัวละครอย่าง อดัม ที่เข้ามาสร้างสถานการณ์ของการกดขี่ข่มเหง พูดจาเหยียดเพศ หรือกลั่นแกล้งรังแกสารพัด นำเสนอความโหดร้ายของกลุ่มหวาดกลัวคนรักเพศเดียวกัน (Homophobia) ได้อย่างตรงไปตรงมา นอกเหนือจากนั้นบทของซีรีส์ยังพาตัวละครเอริกจมดิ่งไปมากกว่านั้นอย่างการถูกเกย์ด้วยกันเหยียดกันเองอีกทอดหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ได้น่าขำขันเหมือนในสถานการณ์ที่ซีรีส์นำเสนอสักเท่าไรเลย

 

ทำไมเอริกจึงถูกเกลียดชัง เพราะเขาเป็นเกย์เหรอ เหตุผลนั้นคงไม่ใช่ เพราะขนาดตัวละครเกย์อีกตัวยังเกลียดเขาเลย ทำไมกันล่ะ เหตุผลอาจฟังดูคิดเองเออเอง แต่ถ้าคุณลองคิดถึงภูมิหลังตัวละครที่เรากล่าวไปข้างต้นดูสิ เขาเป็นเกย์ เขาเป็นคนผิวสี เขาเป็นแอฟริกัน นี่คือการนำเสนอรูปแบบของความเกลียดชังที่ครบถ้วนทั้งการเหยียดเพศและเชื้อชาติ มันคือปัญหาระดับโลกที่เราต่างพบเจอกันอยู่จนถึงปัจจุบันนี้ และไม่ใช่ทุกคนที่พร้อมจะก้าวผ่านไอเดียของความเกลียดชังนี้ไปได้ง่ายๆ ดังเช่นที่เรายังเห็นการใช้คำด่าทอว่า ‘อีดำ’ เรียกคนผิวสีว่า ‘นิโกร’ หรือล้อเลียนเกย์ว่า ‘สายเหลือง’ ‘เอาตูด’ ซึ่งมันควรจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและหมดไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว

 

ประเด็นดังกล่าวนับเป็นชั้นเชิงการเล่าเรื่องของซีรีส์ Sex Education ที่ซ่อนไว้ภายใต้ชื่อเอริก อันเป็นดังสัญลักษณ์ของ ‘ความหลากหลาย’ และ ‘ความแตกต่าง’ ที่มากกว่าเรื่องเพศ โดยเฉพาะเรื่องของเชื้อชาติ ซึ่งนักแสดงที่รับบทดังกล่าวอย่าง เอ็นคูดิ กัตวา เองก็เป็นคนเชื้อสายรวันดา (แต่ความเป็นจริงเขาเติบโตในประเทศสกอตแลนด์) ทั้งยังมีบิดาบังเกิดเกล้าทำงานในโบสถ์ที่เคร่งศาสนา ซึ่งแทบไม่ได้แตกต่างอะไรจากตัวละครเอริกในซีรีส์เลย ซึ่งเขาเองก็ได้ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Teen Vogue ของสหรัฐอเมริกาว่าเขารักในการเล่นเป็นตัวละครนี้มาก เพราะมันแทบจะเหมือนชีวิตจริงของเขาทั้งหมด แถมเขายังมีส่วนร่วมในการสร้างพื้นหลังของตัวละครนี้ร่วมกับผู้เขียนบทอีกด้วย ซึ่งเขาบอกว่าเอริกเป็นคนเชื้อสายไนจีเรียน-กานา

 

Photo: Netflix

 

และสิ่งที่เป็นดังสัญลักษณ์ของความหลากหลายที่นำเสนอในซีรีส์คือเสื้อผ้าที่เอริกเลือกใส่ไปงานพรอมในช่วงท้ายๆ ของซีซัน ซึ่งคุณรู้หรือไม่ว่ามันคือชุดพื้นเมืองที่ตัดเย็บในประเทศกานาซึ่งออกแบบมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ รวมไปถึงเครื่องโพกหัว ‘Gele’ อันเป็นการโพกแบบสาวพื้นเมืองในทวีปแอฟริกาตะวันตก นำเสนอความหลากหลายที่มากกว่าการเป็นเกย์ แต่ยังหมายรวมถึงความแตกต่างทางเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่น่าสนใจ “ผมคิดเสมอเวลาไปกองถ่ายตอนเช้าว่าวันนี้เอริกจะใส่ชุดอะไรนะ แต่ชุดที่ผมชอบจริงๆ คือชุดในซีนงานพรอม สูทตัวนั้นตัดเย็บมาจากประเทศกานา และตัดมาพอดีสำหรับผมคนเดียวโดยเฉพาะ มันเรียกว่า Kente (เครื่องนุ่งห่มพื้นเมืองของชาวกานาที่จะมีลักษณะเป็นลวดลายที่แตกต่างกันไปจากการทอมือ) และผมเองก็เป็นชาวแอฟริกัน มันพอดีกับตัวผมมากๆ สวยมากเสียจนอยากซื้อกลับบ้านไปใส่เอง” เอ็นคูติกล่าว

 

บทเรียนหนึ่งของเอริกคือการก้าวข้ามผ่านความเกลียดชังที่เขามีต่อสังคม และสังคมมีต่อเขา และการที่เขาต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองเพียงเพื่อจะให้เข้ากับสังคมหรือคนอื่นๆ แต่จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เลย เพราะท้ายที่สุดเอริกกำลังพยายามบอกเราโต้งๆ ว่าการที่ ‘คุณ’ ยังคงเป็น ‘ตัวคุณ’ ต่างหากที่สำคัญที่สุด และการ ‘ถูกยอมรับ’ จะไม่เกิดขึ้นเลย หากคุณไม่แม้แต่จะยอมรับตัวตนหรือความต้องการที่แท้จริงของคุณเสียก่อน เอริกอาจไม่ใช่เพื่อนแบบที่เราอยากคบหา (ถ้าคุณไม่ชอบนิสัยเขา ไม่ใช่ไม่ชอบเขาเพราะเป็นเกย์หรือเป็นคนผิวสี) แต่เอริกก็ไม่ได้ด้อยค่าน้อยกว่าเราหรือใครในโลกนี้เลย

 

ถึงแม้ในบริบทของซีรีส์ เอริกนั้นถูกรายล้อมไปด้วยคนที่พร้อมจะเข้าใจเขา รวมถึงตัวบทที่พาให้เขาไปถึงจุดสูงสุดและต่ำสุด แต่ทั้งหมดนั้นก็เพื่อส่งต่อไอเดียของ ‘การยอมรับตัวเอง’ และ ‘การยอมรับผู้อื่น’ ผ่านตัวละครเอริก มนุษย์คนหนึ่งที่มีเลือดมีเนื้อ ผู้ยืนหยัดถึงการมีอยู่ของ ‘ความแตกต่าง’ และ ‘ความหลากหลาย’ ให้สังคมประจักษ์ อันนอกเหนือไปกรอบของเรื่องเพศ แต่ยังหมายถึงประเด็นของมิติทางวัฒนธรรมอื่นๆ ที่น่าสนใจและควรค่าแก่การรับชมอย่างแท้จริง แล้วคุณจะหลงรักเขาจนหมดใจ

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories