×

ธปท. – ตลท. ชูเงินบาท – SET Index ทนทานฝ่าวิกฤตต่างๆ ได้ดีที่สุดในโลก

15.02.2023
  • LOADING...

‘ธปท. – ตลท.’ ชูเงินบาท และ SET Index เป็นหนึ่งในสกุลเงินและดัชนีตลาดหุ้นที่ทนทานฝ่าวิกฤตต่างๆ ได้ดีที่สุดในโลก เมื่อเทียบกับหลายประเทศที่เผชิญความผันผวนอย่างมาก

 

วันนี้ (15 กุมภาพันธ์) ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวในงานสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจก้าวสู่ปีที่ 45 ‘Thailand Future Economic Forum 2023’ โดยระบุว่า “ค่าเงินบาทเป็นค่าเงินที่ทนทาน (Resilient) ที่สุดในโลกในปีที่แล้ว ดัชนี SET ก็เป็นดัชนีที่มีความมั่นคง และตกลงน้อยกว่าดัชนีอื่นๆ ในโลกเช่นกัน เห็นได้จากผลตอบแทนที่ยังดี เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นอื่นๆ ที่มีความผันผวนอย่างมาก”


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ภากร ยังระบุอีกว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศ ซึ่งกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเมินว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวมากกว่าปีที่แล้ว พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่า ช่วงปี 2019-2020 เงินไหลออกจากตลาดทุนไทย 8 พันล้านดอลลาร์ แต่ในปี 2022 เงินไหลกลับเข้ามาถึง 6 พันล้านดอลลาร์ และในปีนี้เพียงเดือนเดียวเงินไหลกลับเข้ามาตลาดทุนไทย 700 ล้านดอลลาร์แล้ว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 

 

SET Index ฟื้นตัวในรูป K-Shaped

ภากรระบุอีกว่า ภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้ดีจากสถานการณ์โควิด แต่เมื่อแบ่งแยกเป็นรายอุตสาหกรรมพบว่า การฟื้นตัวเป็นรูปตัว K โดยกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมฟื้นตัวได้ดีอย่างมาก ขณะที่กลุ่มบริการ อสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง การเงิน ประกัน สินค้าอุปโภคและบริโภคยังฟื้นตัวได้ไม่เท่า

 

อย่างไรก็ตาม ภากรมองว่าในปีนี้อุตสาหกรรมอาหารใหม่ๆ เช่น อาหารที่มาจากพืช และอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการมากขึ้น, การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่, ธุรกิจเพื่อความยั่งยืน เช่น พลังงานหมุนเวียน และเศรษฐกิจใหม่ เช่น New S-Curve SMEs สตาร์ทอัพ ถือเป็น ‘โอกาสใหม่’ และเป็น ‘จุดแข็ง’ ของประเทศ

 

เงินเฟ้อทั่วโลกปีนี้จ่อชะลอตัว แต่ยังอยู่ระดับสูง

ขณะที่ เมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงสถานการณ์เงินเฟ้อในปีนี้ โดยประเมินว่าราคาพลังงานและอาหารอาจไม่ได้สูงขึ้นเท่าปีก่อน ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกในปีนี้น่าจะชะลอตัวลง แต่จะยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารกลาง ไปจนถึงปี 2023 ถึงกลับสู่เป้าหมาย หมายความว่านโยบายการเงินยังไม่น่าจะผ่อนคลาย ทำให้ดอกเบี้ยนโยบายและดอกเบี้ยอื่นๆ ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง 

 

เมธีระบุอีกว่า เมื่อปีที่แล้วประเทศไทยประสบกับปัญหาต้นทุนเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น ค่าไฟ น้ำมัน และอาหารสด ขณะที่แรงกดดันด้านอุปสงค์ยังมีน้อยมาก ผู้ประกอบการจึงส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคเพียงบางส่วนเท่านั้น

 

ดังนั้นในปีนี้อุปสงค์ในประเทศและนักท่องเที่ยวที่น่าจะเพิ่มขึ้นเยอะ ทำให้ผู้ประกอบการอาจส่งผ่านราคาไปยังผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้ต้องติดตามเรื่องเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม เมธีย้ำว่าแนวโน้มเงินเฟ้อน่าจะลดลง เนื่องจากราคาพลังงานและราคาอาหารสดไม่ได้สูงอย่างปีก่อนหน้า 

 

ยันไทยไร้ความจำเป็นขึ้นดอกเบี้ย ‘เร็วและแรง’ 

รองผู้ว่าการ ธปท. กล่าวอีกว่า ไทยไม่มีความจำเป็นต้องขึ้นดอกเบี้ยเร็วและแรง หลังจากขึ้นไปเพียง 4 ครั้งเท่านั้นในรอบนี้ ครั้งละ 0.25% ถือว่าปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมย้ำว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยังต้องคำนึงถึงหนี้ครัวเรือนด้วย

 

แม้ว่าหลายฝ่ายกังวลว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ช้าทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยของไทยกับสหรัฐฯ ห่างขึ้นจะทำให้เงินไหลออก แต่เมธีชี้ว่าไม่พบการไหลออกมากมายนัก เนื่องจากต่างชาติมองว่าประเทศไทยมีการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่มีความเป็นเหตุเป็นผลและมั่นคง รวมกับหนี้ต่างประเทศต่ำ ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่น และหนุนให้บาทเป็นสกุลเงินที่ทนทาน (Resilient) ต่อวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกได้มากที่สุดสกุลเงินหนึ่ง ขณะที่ วงจร (Cycle) นโยบายการเงินของแต่ละประเทศแตกต่างกัน จึงส่งผลกระทบไปถึงอัตราแลกเปลี่ยนของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

 

สำหรับมุมมองต่อเศรษฐกิจปีนี้ เมธีมองว่าการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน จะทำให้รายได้ของภาคบริการเพิ่มขึ้น และจะสร้างกำลังซื้อให้กับประเทศได้อย่างมาก เนื่องจากแรงงานที่อยู่ในภาคบริการและท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนถึงเกือบ 50%

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising