ตลาดหุ้นไทย (SET Index) ช่วงท้ายก่อนปิดตลาดภาคเช้าของวันนี้ (8 กรกฎาคม) เริ่มมีแรงขายหุ้นออกมาอย่างหนัก หลังจากมีรายงานข่าวว่าภาครัฐอาจกลับไปใช้มาตรการล็อกดาวน์แบบเข้มข้นเหมือนในช่วงเดือนเมษายน 2563 ทำให้ดัชนีปรับตัวลดลงเฉียด 25 จุด มาปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 1,552 จุด หรือลดลงราว 1.54%
สำหรับหุ้นที่เผชิญแรงขายอย่างหนัก นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์และกลุ่มพลังงาน ส่วนหุ้นที่มีแรงขายออกมามากสุด 3 อันดับแรก คือ
- KBANK ลดลง 3.85% มาปิดที่ 112.50 บาท
- PTT ลดลง 2.58% มาปิดที่ 37.75 บาท
- PTTEP ลดลง 3.38% มาปิดที่ 114.50 บาท
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า ระบุว่า จากการศึกษาข้อมูลในอดีต ทุกครั้งที่มีการใช้มาตรการคุมเข้มในระยะหลัง SET Index จะถูกกดดันในระยะสั้นแล้วฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้เร็ว เพราะที่ผ่านมาพบการระบาดหนักเฉพาะพื้นที่ และระดับการแพร่กระจายยังไม่สูง
แต่รอบนี้กระจายวงกว้างและจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันเร่งตัวขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ฐานะการคลังของประเทศเพื่อใช้เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบก็ไม่ได้ดีเหมือนปีที่ผ่านมา เบื้องต้นเราประเมินผลกระทบไว้ 3 กรณี
1. ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ คาดว่าจะเห็น SET Index อ่อนตัวลงทดสอบแนวรับถัดไปที่กรอบ 1,330-1,540 จุด ก่อนจะฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง
2. ล็อกดาวน์ทั้งประเทศ คาดว่าจะเห็น SET Index อ่อนตัวลงทดสอบแนวรับถัดไปที่กรอบ 1,330-1,540 จุด ก่อนจะฟื้นกลับขึ้นมาอีกครั้ง
3. ยังไม่มีการยกระดับมาตรการควบคุม คาด SET Index แกว่งออกด้านข้างในกรอบกว้าง 1,550-1,600 จุด โดยจะขึ้นลงรายวันตามรายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2 ปี 2564 ของหลายบริษัท เช่น กลุ่มส่งออก (อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ สินค้าเกษตร) กลุ่มปิโตรเคมี กลุ่มบรรจุภัณฑ์ และกลุ่มขนส่ง (เรือคอนเทนเนอร์ เทกอง และโลจิสติกส์) จะออกมาดี จึงคาดว่าจะช่วยจำกัดดาวน์ไซด์ของ SET Index ได้ระดับหนึ่ง แต่ต้องขึ้นอยู่กับทิศทางตลาดต่างประเทศหลังจากนี้ด้วย ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็เริ่มชะลอการปรับขึ้นเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ
