×

ตลาดหลักทรัพย์ฯ จับมือ ปปง.- ก.ล.ต. เร่งสอบปมซื้อ-ขาย หุ้น MORE หลังพบความผิดปกติตั้งแต่ 10 พ.ย. ยันโบรกเกอร์ไม่กระเทือน

14.11.2022
  • LOADING...

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ชี้แจงแนวทางแก้ปัญหา หุ้น MORE ยอมรับมีการซื้อขายที่ผิดปกติ พร้อมจับมือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กับ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เข้าตรวจสอบตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ที่เริ่มพบปัญหา ด้านโบรกเกอร์เครียดหลังถกกับตลาดหลักทรัพย์ฯ-สมาคมโบรกเกอร์ ยังไร้แนวทางออก หวั่นต้องจ่ายค่าหุ้น MORE ให้ลูกค้าครบกำหนดไม่เกิน 16.00 น. วันนี้ เสี่ยงผิดกฎหมาย ปปง.

 

ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวในงานแถลงข่าว ‘แนวทางการแก้ไขปัญหากรณีหุ้น บมจ.มอร์รีเทิร์น (MORE)’ ว่า ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่า หลักทรัพย์ บมจ.มอร์รีเทิร์น (MORE) มีการซื้อขายที่ผิดปกติไปจากช่วงก่อนหน้า และได้ติดตามให้ MORE ชี้แจงข้อมูล รวมทั้งได้แจ้งเตือนให้ผู้ลงทุนใช้ความระมัดระวังในการซื้อขายตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2565 รวมถึงขอให้สมาชิกคือ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เพิ่มมาตรการในการกำกับดูแลการซื้อขายในหลักทรัพย์ดังกล่าวนั้น

​​


ข่าวที่เกี่ยวข้อง​:


 

ต่อมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้หารือร่วมกับบริษัทสมาชิก สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อตรวจสอบธุรกรรมเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE ที่อาจเข้าข่ายเป็นรายการที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อบริษัทสมาชิกบางรายในระดับที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดของบริษัทสมาชิก และปริมาณธุรกรรมที่เกิดขึ้นผ่านบริษัทสมาชิกรายนั้น ปัจจุบันบริษัทสมาชิกทุกรายยังสามารถให้บริการกับผู้ลงทุนได้ตามปกติ 

 

ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอเรียนว่า แม้จะมีเหตุการณ์ผิดปกติดังกล่าว แต่การชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ทุกหลักทรัพย์ระหว่างบริษัทสมาชิกและสำนักหักบัญชียังคงดำเนินการไปตามปกติ 

 

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE เป็นจำนวนมาก และมีความคลาดเคลื่อนจนอาจทำให้เกิดความสับสน ดังนั้นเพื่อให้ผู้ลงทุนได้มีโอกาสรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับหลักทรัพย์ MORE จากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอย่างถูกต้องและครบถ้วน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงสั่งหยุดพักการซื้อขาย (SP) หลักทรัพย์ MORE ในวันนี้ (14 พฤศจิกายน) 

 

ส่วนการขึ้น SP หุ้น MORE จะใช้ระยะเวลานานเท่าไรยังไม่สามารถตอบได้ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมอีกครั้งในแต่ละวัน

 

ยังไม่สรุปมูลค่าปล่อยมาร์จิ้น หวั่นกระทบการสอบสวน

สำหรับรายละเอียดข้อมูลธุรกรรมการซื้อขายหุ้น MORE ที่เกิดความผิดปกติตั้งแต่ช่วงวันที่ 10-11 พฤศจิกายนที่ผ่านมานั้น รวมทั้งตัวเลขมูลค่าที่โบรกเกอร์ปล่อยมาร์จิ้นให้บัญชีผู้ซื้อหุ้น MORE นั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะข้อมูลดังกล่าวจะนำไปใช้ในการสอบสวน โดยปัจจุบันตลาดหลักทรัพย์ฯ กำลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบในทุกเรื่องที่เกี่ยวข้องตามข้อสงสัยว่ามีความไม่ปกติเกิดขึ้นในธุรกรรมดังกล่าวนี้ 

 

“หากมีการให้รายละเอียดข้อมูลวิธีการตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายหุ้น MORE ที่ผิดปกติ โดยหากมีข้อมูลออกไปมากเท่าไรจะยิ่งมีผลกระทบต่อรูปคดี รวมทั้งทำให้การตรวจสอบทำได้ยากขึ้น” ภากรกล่าว 

 

นอกจากนี้ หากได้รับผลการตรวจสอบในกรณีดังกล่าว และทำให้ได้ทราบถึงประเด็นปัญหาต่างๆ ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณานำมาปรับปรุงในเรื่องของขั้นตอนการทำงานต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคต 

 

ขณะเดียวกัน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะศึกษาแนวทางในการจัดตั้งหน่วยงานคล้ายกับเครดิตบูโรที่ใช้ตรวจสอบประวัติทางการการเงินของลูกค้าหรือนักลงทุน คล้ายกับการดำเนินงานของธนาคารพาณิชย์ เพื่อนำมาใช้ตรวจสอบข้อมูลลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ด้วย

 

“เรื่องข้อมูลต่างๆ และตัวเลขทุกอย่างตอนนี้ ขอไม่พูดถึงเพราะต้องใช้ในการสอบสวน เคสนี้ทำให้เราต้องตั้ง President Case ไว้เลย ว่าต่อไปจะป้องกันไม่ให้เกิดเคสนี้อย่างไร เพราะฉะนั้นข้อมูลอะไรที่ยังไม่ถูกต้อง ชัดเจน ขอร้องว่าอย่าเพิ่งเอาไปใช้ ซึ่งหากการตรวจสอบมีความคืบหน้าก็จะมีการรายงานอัปเดตให้ทราบต่อไป” ภากรกล่าว 

 

ส่วนกรณีมีกระแสข่าวบัญชีมาร์จิ้นของโบรกเกอร์สามารถใช้หุ้น MORE เป็นหลักประกันขอมาร์จิ้นได้ถึง 80% ของมูลค่าหุ้นนั้น ไม่สามารถเป็นไปได้ เพราะการซื้อขายในแต่ละวันของโบรกเกอร์ต้องมีการตรวจสอบด้วยว่าหุ้นดังกล่าวนั้นอยู่ในบัญชีโบรกเกอร์ในส่วนที่ไม่ใช่บัญชีมาร์จิ้นด้วยหรือไม่

 

สมาคมโบรกเกอร์ยันไร้ผลกระทบ 

ปัจจุบัน MORE มีมาร์เก็ตแคปราวมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท มีจำนวนหุ้นที่ถือโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย (Free Float) สัดส่วน 50% หรือมูลค่า 5 พันล้านบาท ซึ่งน้อยมาก หากเปรียบเทียบกับมูลค่ามาร์เก็ตแคปรวมของตลาดหลักทรัพย์ปัจจุบันที่มี 20 ล้านล้านบาท และมีวอลุ่มซื้อขายเฉลี่ยในระดับ 1 ล้านบาทต่อวัน

 

ดังนั้น ขอยืนยันว่าประเด็นที่เกิดขึ้นไม่มีผลต่อระบบการชำระราคาและส่งมอบหลักทรัพย์ของบริษัท สำนักหักบัญชี (ประเทศไทย) (TCH) ของตลาดหลักทรัพย์ฯ กับโบรกเกอร์ที่ยังสามารถดำเนินการได้ปกติทุกแห่ง เพราะยังมีความเข้มแข็งทางการเงินที่ดี ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากประเด็นหุ้น MORE ต่อโบรกเกอร์แต่ละรายอาจไม่เท่ากัน ขึ้นกับขนาดของโบรกเกอร์ โดย ณ วันนี้ในส่วนเงินกองทุนสภาพคล่องสุทธิ (NCR) ของภาพรวมโบรกเกอร์ยืนยันยังมีเพียงพอ

 

ด้าน พิเชษฐ สิทธิอำนวย นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย กล่าวว่า สมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย พบว่าในวันที่ 10 พฤศจิกายนที่มีผ่านมา หลักทรัพย์ MORE มีปริมาณการซื้อขายเป็นจำนวนมาก ทำให้มีผลกระทบต่อราคาของหุ้น MORE ในวันที่ 10-11 พฤศจิกายนที่มีผ่านมาปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วพบว่า อาจเข้าข่ายมีความผิดปกติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทำให้อาจมีความกังวลในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และการใช้บริการบริษัทหลักทรัพย์

 

อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าบริษัทหลักทรัพย์ทุกรายยังสามารถให้บริการลูกค้าได้ตามปกติ ซึ่งโบรกเกอร์ทุกรายยินดีให้ความร่วมมือในการตรวจสอบในธุรกรรมที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ โดยจะมีการดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นให้เป็นไปตามข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม 

 

นอกจากนี้ เชื่อว่าปัญหาธุรกรรมที่เกิดขึ้นดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบมาก เพราะเป็นเพียงปัญหาที่เกิดขึ้นกับหลักทรัพย์เดียว และเป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปไม่ใหญ่

 

ทั้งนี้ ตามหลักการหากเกิดกรณีปัญหาลูกค้าบัญชีมาร์จิ้นของโบรกเกอร์ไม่ชำระค่าหุ้นที่สั่งซื้อเมื่อครบกำหนดเวลา วิธีการแก้ปัญหาตามปกติคือ โบรกเกอร์จะต้องเข้าไปดูทรัพย์สินของลูกค้าที่ใช้เป็นหลักประกัน เพื่อนำออกมาขายและใช้ชำระเป็นค่าหุ้นที่สั่งซื้อ โดยข้อมูลขณะนี้ โบรกเกอร์ที่มีลูกค้าเป็นฝั่งผู้ซื้อหุ้น MORE ที่มีความผิดปกติอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้า ซึ่งเป็นเรื่องของ 2 ฝ่ายที่ต้องหาข้อตกลงร่วมกัน

 

โบรกเกอร์หวั่นต้องจ่ายค่าหุ้น MORE ให้ลูกค้าฝั่งขาย เสี่ยงผิดกฎหมาย ปปง.

แหล่งข่าวผู้บริหารโบรกเกอร์แห่งหนึ่งซึ่งมีบัญชีของลูกค้าซื้อขายหุ้น MORE มีความผิดปกติ กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า จากการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย ในการประชุมวันนี้ (14 พฤศจิกายน) ในช่วงเช้า ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 08.00-09.00 น. ซึ่งมีผู้บริหารจากโบรกเกอร์อีกกว่า 10 แห่งที่ถูกผลกระทบจากประเด็นหุ้น MORE ณ ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปและแนวทางร่วมกันว่า จะมีการจ่ายเงินให้ลูกค้าที่มีการขายหุ้น MORE ที่มีความผิดปกติ ซึ่งกำลังจะครบกำหนดไม่เกินเวลา 16.00 น. หรือไม่ และอย่างไร 

 

ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความกังวลว่าหากบริษัทมีการจ่ายเงินให้กับลูกค้าไปแล้ว และผลการตรวจสอบพบว่าธุรกรรมซื้อขายหุ้น MORE ที่เกิดขึ้น เป็นธุรกรรมที่มีความผิดตามกฎหมายของ ปปง. นั่นหมายความว่าบริษัทก็อาจจะมีความผิดไปด้วย แต่ในทางกลับกัน หากบริษัทไม่ยอมจ่ายค่าหุ้นที่ลูกค้าขายออกไปแล้ว ลูกค้าก็มีสิทธิ์ฟ้องร้องบริษัทได้ด้วยเช่นกัน 

 

แหล่งข่าวกล่าวว่า หากยังไม่มีข้อสรุปออกมาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ และหากลูกฝั่งลูกค้าผู้ซื้อ MORE ไม่ชำระค่าหุ้น บริษัทก็ต้องเป็นผู้จ่ายค่าหุ้นให้กับฝั่งผู้ขายแทน

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising