×

ประชุมใหญ่เสรีรวมไทย เสรีพิศุทธ์เผย ไม่กังวล ท้าชิงเก้าอี้นายกฯ กับประยุทธ์ เปิดตัว 5 สมาชิกใหม่เข้าพรรค

โดย THE STANDARD TEAM
23.04.2022
  • LOADING...
ประชุมใหญ่เสรีรวมไทย

วันนี้ (23 เมษายน) พรรคเสรีรวมไทยจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2565 ในงานมี พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เป็นประธานการประชุม กล่าวย้ำถึงเป้าหมายในการลงสนามเลือกตั้งว่า หากคนไทยต้องการได้ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรี ขอให้เลือกผู้สมัครเสรีรวมไทยทั้งพรรค โดยจะใช้เป็นนโยบายทำป้ายรณรงค์หาเสียง

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ระบุว่า ไม่กังวลที่จะต้องเป็นคู่แข่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีกับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้ยังไม่รู้ว่า พล.อ. ประยุทธ์ จะอยู่บริหารประเทศได้หรือไม่ ซึ่งหากพรรคพลังประชารัฐไม่สนับสนุนก็ถือว่าจบ พร้อมกันนี้ก็ต้องดูรัฐธรรมนูญด้วยว่าสุดท้ายจะเป็นบัตรเลือกตั้งใบเดียวหรือสองใบ เพื่อปรับยุทธศาสตร์การเลือกตั้งให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ มั่นใจว่าจะได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ถึงเกณฑ์เสนอชื่อในสภาฯ เพื่อโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี 

 

ส่วนการเลือกตั้งซ่อม ส.ส. ราชบุรี ย้ำว่า พรรคตั้งเป้าหมายชนะการเลือกตั้ง 

 

พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ยังกล่าวอีกว่า พรรคเสรีรวมไทยได้มีการเปิดตัวสมาชิกพรรคและคณะทำงานเพิ่มเติมอีก 5 คน ประกอบด้วย 

 

  • สมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. จะมารับหน้าที่เป็นประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบายพรรค
  • วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน รับหน้าที่เป็นประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชัน 
  • ส.อ. ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม นักเคลื่อนไหวทางการเมือง-อดีตผู้เปิดโปงทุจริตเบี้ยเลี้ยงทหาร เป็นสมาชิกพรรค 
  • เบญจวรรณ สุจริต อดีตรองอธิการบดี ด้านนโยบายและแผน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นสมาชิกพรรค
  • กษิติ กมลนาวิน อดีตพิธีกรรายการโทรทัศน์-คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เป็นสมาชิกพรรค

 

ขณะที่วีระได้นำเอกสารหลักฐานที่มีผู้มาร้องเรียน โดยอ้างว่าเมื่อปี 2563 ถูก เสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ ใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์ แลกกับการช่วยให้ได้งานราชการมาแสดงกับสื่อมวลชน ต่อไปจะนำหลักฐานดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและพิสูจน์ข้อเท็จจริงในชั้นศาล

 

ด้านสมชัยระบุถึงกรณี จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักเลขาธิการนายกฯ รับสิ่งของเป็นรองเท้าแบรนด์เนม ซึ่งมีมูลค่าเกินกว่า 3,000 บาท ต่อมาภายหลังได้ส่งคืนว่า กรณีของจุรีพรต้องไปพิสูจน์กับเจ้าหน้าที่ แต่เรื่องนี้อยู่ในกระบวนการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แล้ว จึงเป็นหน้าที่ของ ป.ป.ช. ที่จะต้องตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนตัวจะรอดูท่าทีของ ป.ป.ช. ว่าจะดำเนินการอย่างไร

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising