เกิดข่าวที่สร้างความใจหายให้กับแฟนคลับชาวร็อก เมื่อมีคำสั่งจากศาลฎีกา พิจารณาพิพากษาจำคุก เสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ เสก โลโซ เป็นเวลา 2 ปี 18 เดือน ในความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่เสพยาเสพติดและมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต จนเป็นข่าวใหญ่เมื่อปลายปี 2560
ซึ่งในช่วงเวลานั้น เสก โลโซ อยู่ในภาวะป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ มีสภาพจิตใจไม่คงที่ อย่างที่หลายคนเห็นผ่านการไลฟ์เฟซบุ๊กอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวัน จนมีแฟนคลับเข้ามาติดตามและแสดงความเป็นห่วงจำนวนมาก
โดยศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน, ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่โดยขู่เข็ญว่าจะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และฐานเสพยาเสพติด จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุกคดีนี้ทั้งสิ้นเป็นเวลา 1 ปี 18 เดือน
และบวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทของอดีตภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน เป็นระยะเวลาทั้ง 2 ปี 21 เดือนโดยไม่รอลงอาญา เเม้ว่าจำเลยอ้างว่าป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ขณะกระทำผิด
ต่อมาในชั้นศาลอุทรณ์ พิพากษาลดโทษความผิดตาม พ.ร.บ. อาวุธปืนฯ เหลือจำคุก 3 เดือน เมื่อรวมกับโทษฐานอื่นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นจำคุก 1 ปี 15 เดือน บวกโทษจำคุก 1 ปี 3 คดีทำร้ายร่างกาย เป็นจำคุก 2 ปี 18 เดือน
เสก โลโซ ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฎีกา ตีราคาประกัน 600,000 บาท ซึ่งศาลฎีกาพิเคราะห์แล้วเห็นว่าคำร้องขออนุญาตฎีกาของจำเลยคดีนี้มีโทษไม่เกิน 2 ปี ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ไม่อนุญาตให้ยื่นพิจารณาประเด็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ยื่นฎีกา
เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์สั่งไม่อนุญาตให้ยื่นฎีกา คดีจึงถึงที่สุดให้จำคุกจำเลยไปตามคำพิพากษาศาลอุทรณ์ ก่อนที่ เสก โลโซ ถูกคุมตัวเข้าไปยังเรือนจำใต้ถุนศาล เพื่อส่งตัวไปยังเรือนจำพิเศษมีนบุรีต่อไป
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า