ปี 2023 ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ค่อนข้างท้าทายกับธุรกิจเทคโนโลยีทั่วโลก โดยเฉพาะในเรื่องของการระดมทุน ปัจจัยความกดดันเกิดขึ้นจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง ส่งผลให้ธนาคารหลายแห่งต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยจนนำมาสู่ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มมากขึ้น
ท่ามกลางสภาวะการเงินที่ตึงตัวเช่นนี้ เม็ดเงินลงทุนจากกองทุนส่วนบุคคล (Private Fund) จึงลดลงมาอยู่ที่จุดต่ำสุดในรอบ 6 ปี ตามผลการสำรวจจาก Google กับ Temasek และ Bain & Company
CNBC รายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจาก KPMG ว่า เม็ดเงินลงทุนและจำนวนดีลที่ปิดได้จาก Venture-Capital (VC) หรือบริษัทร่วมลงทุนลงมาอยู่จุดต่ำสุดในหลายปี
ภาพรวมในส่วนของการระดมทุนของธุรกิจเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ก็มีความคล้ายคลึงกับทิศทางรอบโลก เช่นเดียวกันเมื่อเม็ดเงินลงทุน VC มีมูลค่าลดต่ำลงเหลือเพียง 20,300 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ซึ่งถือเป็นมูลค่าน้อยที่สุดในกรอบเวลา 6 ปี นับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2017
ถึงแม้ปี 2023 จะเป็นช่วงเวลาที่สภาพคล่องและเม็ดเงินลงทุนจะค่อนข้างตึงตัว และ VC ส่วนใหญ่มีความ ‘ช่างเลือก’ มากกว่าในช่วงปี 2022 แต่นักวิเคราะห์บางคนเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นว่า การระดมทุนในปี 2024 จะไม่มีอุปสรรคมากเท่ากับปีนี้ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่พวกเขายังย้ำเหมือนเดิมว่าธุรกิจต้องมีแบบแผนที่ ‘ชัดเจน’ และ ‘ทำได้จริง’ ในการสร้างกำไร
Jussi Salovaara ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของ Antler คาดหวังว่า ภาวะตึงตัวด้านการลงทุนจาก VC จะผ่อนคลายมากขึ้นในปี 2024 โดยเฉพาะ 6 เดือนสุดท้ายของปี “เราเชื่อมั่นว่ามันจะเพิ่มขึ้น ยิ่งใน 6 เดือนหลังของปีหน้า เพราะว่าในช่วงที่ดอกเบี้ยสูงและวิกฤตในตลาดการเงินที่เกิดขึ้นปีนี้ แน่นอนว่าการจะกู้สถานการณ์ให้กลับมาปกติอีกครั้งจำเป็นต้องใช้เวลาสักพัก”
Yinglan Tan ซีอีโอและหุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง Insignia Ventures Partners มองว่าปี 2023 เปรียบเสมือนช่วงเวลาปรับโครงสร้างของบริษัทเทค จากที่เมื่อก่อนเคยให้การเติบโตเป็นความสำคัญอันดับต้นๆ แต่สภาวะเศรษฐกิจที่นักลงทุนรัดเข็มขัดและระมัดระวังมากขึ้น เป็นเหตุให้บริษัทกลุ่มนี้ต้องมาประเมินตัวเองใหม่อีกครั้งถึงต้นทุนและหนทางสู่การทำกำไรที่ชัดเจนกว่าเดิม หากต้องการที่จะอยู่รอดและโตอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม Yinglan คาดว่ายังมีความท้าทายอื่นๆ ที่จำเป็นต้องจับตาดู เช่น ความมั่นคงทางภูมิรัฐศาสตร์ ดอกเบี้ย และการแข่งขันในสังเวียนเทคโนโลยีที่ดุเดือด เพราะถึงแม้ว่ามันจะอยู่นอกเหนือการควบคุมของบริษัทเทค แต่ปัจจัยเหล่านี้จะส่งผลต่อกลยุทธ์และการจัดสรรเงินทุนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเป็นโจทย์ที่ธุรกิจเทคต้องหาทางรับมือให้ได้สำหรับปี 2024
อ้างอิง: