×

ผู้เชี่ยวชาญโรคติดเชื้อกังวล ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจกลายพันธุ์เป็นอย่างอื่นที่เลวร้ายกว่าไข้หวัดใหญ่

โดย THE STANDARD TEAM
11.02.2020
  • LOADING...

เอียน ลิปคิน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อชาวอเมริกันจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว CNBC ระบุถึงความกังวลของนักวิทยาศาสตร์ที่มีต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (2019-nCoV) เนื่องจากเป็นไวรัสที่ยังไม่มีใครทราบข้อมูลมากนัก และมีความเสี่ยงที่อาจเกิดการกลายพันธุ์หรือวิวัฒนาการไปเป็นอย่างอื่นที่เลวร้ายกว่าไข้หวัด

 

“มันเป็นไวรัสชนิดใหม่ เราไม่มีความรู้เกี่ยวกับมันมากนัก ดังนั้นเราทุกคนจึงกังวลที่จะแน่ใจว่ามันจะไม่วิวัฒนาการไปเป็นอย่างอื่นที่เลวร้ายกว่านี้” ลิปคินกล่าว

 

ลิปคินซึ่งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์การติดเชื้อและภูมิคุ้มกัน และเป็นหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่ต่อสู้กับการระบาดของโรคซาร์ส (SARS) ในปี 2003 ให้สัมภาษณ์ระหว่างถูกกักตัวภายในบ้านพักที่นครนิวยอร์กเป็นเวลา 14 วัน เนื่องจากเขาเพิ่งกลับจากการเดินทางไปให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในเมืองกวางโจวและกรุงปักกิ่ง 

 

โดยเขาชี้ว่าหากมองในแง่ของตัวเลขผู้เสียชีวิต ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคร่าชีวิตประชาชนทั่วโลกน้อยกว่าไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลที่มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละกว่า 6.5 แสนคน แต่ความน่ากังวลจากการระบาดของไวรัสโคโรนานั้นยังมีอีกหลายแง่มุม ทั้งความรู้อันน้อยนิดเรื่องลักษณะการส่งผ่านไวรัส และการไม่มีผลวินิจฉัยที่แม่นยำ รวมทั้งไม่รู้ว่าการระบาดจะเกิดขึ้นที่ใด 

 

ขณะที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน ราว 1 เดือนที่ผ่านมา และได้แพร่ระบาดจากที่มีผู้ติดเชื้อราว 300 คน เมื่อวันที่ 21 มกราคม เพิ่มเป็นมากกว่า 40,000 คน และเสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,000 คนในตอนนี้ โดยกรณีการติดเชื้อรายใหม่นั้นเพิ่มขึ้นวันละหลายพันคน แต่ส่วนใหญ่ยังพบในจีน

 

โดยทั่วไปแล้วไวรัสโคโรนาจะติดเชื้อในสัตว์ แต่สายพันธุ์ของไวรัสชนิดนี้ สามารถวิวัฒนาการและแพร่กระจายสู่มนุษย์ได้ในบางกรณี ซึ่งอาการที่เกิดในมนุษย์อาจรวมถึงไข้ขึ้น เจ็บคอ และหายใจถี่

 

นอกจากนี้ไวรัสโคโรนายังสามารถแพร่ระบาดได้ก่อนที่จะปรากฏอาการ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเมินว่าผู้ติดเชื้อราว 20% จะป่วยหนัก และนำไปสู่โรคปอดอักเสบและระบบหายใจล้มเหลว

 

ทั้งนี้ลิปคินประเมินว่าอัตราการเสียชีวิตของไวรัสโคโรนานั้นจะน้อยกว่า 1% ซึ่งเป็นเพียงตัวเลขจากการคาดเดา เนื่องจากยังต้องมีการทดสอบสารภูมิต้านทาน หรือแอนติบอดี้ (Antibody) มากกว่านี้ เพื่อตรวจหาผู้ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ

 

นอกจากนี้ลิปคินยังตอบคำถามที่ว่ารัฐบาลจีนมีความโปร่งใสในการรับมือการระบาดของไวรัสโคโรนาหรือไม่ โดยเขาคิดว่ารัฐบาลจีนนั้นทำงานได้ดีเพียงพอในการเผยแพร่ข้อมูลการระบาดที่มี

 

“สิ่งที่อาจทำให้ขาดความโปร่งใส ในความเป็นจริงแล้วอาจเป็นความไม่รู้ในสิ่งที่เกิดขึ้นมากกว่า” ลิปคินกล่าว 

 

ทั้งนี้เขาเตรียมที่จะเดินทางกลับไปจีนอีกในเดือนหน้า เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือและให้คำแนะนำในการรับมือการระบาดของไวรัสโคโรนา ซึ่งเขาชี้ว่ายังมีงานอีกมากที่ต้องทำ

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising