×
SCB Omnibus Fund 2024

SCGP – 4Q65 จะเป็นไตรมาสที่กำไรอ่อนแอที่สุดในปี 2565

11.01.2023
  • LOADING...
SCGP

เกิดอะไรขึ้น:

InnovestX Research ได้จัดทำบทวิเคราะห์พรีวิวผลประกอบการ 4Q65 ของ บมจ.เอสซีจี แพคเกจจิ้ง (SCGP) ซึ่งคาดว่าจะรายงานผลประกอบการวันที่ 24 มกราคม 2566

 

กระทบอย่างไร:

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น SCGP ปรับเพิ่มขึ้น 0.43%MoM สู่ระดับ 58.00 บาท ขณะที่ SET Index ปรับเพิ่มขึ้น 4.21%MoM สู่ระดับ 1,691.41 จุด

 

พรีวิวผลประกอบการ 4Q65:

InnovestX Research คาดกำไรสุทธิ 4Q65 ที่ 980 ล้านบาท ลดลง 54%YoY และ 47%QoQ โดยไม่คิดว่าจะมีรายการพิเศษใน 4Q65 ดังนั้นกำไรปกติ 4Q65 จะอยู่ที่ 980 ล้านบาท ลดลง 28%YoY และ 35%QoQ เพราะได้รับผลกระทบจากปริมาณการขายที่ลดลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อยอดขายและมาร์จิ้น 

 

สำหรับรายการสำคัญใน 4Q65 มีดังนี้ 

 

1. รายได้ คาดว่าจะอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท ลดลง 5%QoQ เพราะปริมาณการขายและราคาผลิตภัณฑ์ลดลง แต่เพิ่มขึ้น 3%YoY โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการทำ M&P (Deltalab, Peute และ Jordan) สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์ (52% ของยอดขาย) คาดว่าปริมาณการขาย (ไม่รวมบริษัทที่ทำ M&P) จะลดลงเป็นตัวเลขสองหลัก YoY และตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง QoQ 

 

โดยปริมาณการขายกระดาษบรรจุภัณฑ์จะลดลงในประเทศหลักๆ ทุกประเทศ (ไทย ฟิลิปปินส์ และโดยเฉพาะเวียดนามและอินโดนีเซีย ซึ่งพึ่งพาการส่งออกเป็นส่วนใหญ่) และราคาขายผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงทั้งในตลาดส่งออกและตลาดภายในประเทศ เนื่องจากได้รับผลกระทบทางอ้อมจากการนำเข้าที่ลดลงจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปยังจีน โดยปกติแล้วราคาผลิตภัณฑ์ของ SCGP จะปรับตัวตามหลังตลาดอยู่ 2-3 เดือน

 

สำหรับธุรกิจบรรจุภัณฑ์จากเยื่อและกระดาษและธุรกิจ PPP (33% ของยอดขาย) ปริมาณการขายและราคาผลิตภัณฑ์แข็งแกร่ง แต่ปริมาณการขายมีแนวโน้มที่จะลดลง โดยมีสาเหตุมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอจากจีน

 

2. อัตรากำไรขั้นต้น มีแนวโน้มลดลงสู่ 14.5% (ลดลง 240bps QoQ และ 20bps YoY) จากเหตุผลดังต่อไปนี้ 

 

ประการแรก มาร์จิ้นในธุรกิจกระดาษบรรจุภัณฑ์มีแนวโน้มแคบลง โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณการขายที่ลดลง และ Lag Time ที่นานกว่าคาด ก่อนที่จะรับรู้ต้นทุน RCP ระดับต่ำ 

 

ด้วยปริมาณการขายที่ชะลอตัวลง ต้นทุน RCP ของ SCGP จึงปรับตัวตามหลังตลาดอยู่ 4-5 เดือน (จาก 2-3 เดือน) 

 

ประการที่สอง มาร์จิ้นในสายธุรกิจเยื่อและกระดาษมีแนวโน้มลดลง QoQ โดยเกิดจากปริมาณการขายที่ลดลงในธุรกิจเยื่อกระดาษ ซึ่งคาดว่าต้นทุนถ่านหินจะอยู่ในระดับทรงตัว QoQ โดยจะคิดเป็นสัดส่วน 8% ของต้นทุนทั้งหมดใน 4Q65 เนื่องจากมีการล็อกราคาไว้แล้ว

 

แนวโน้มผลประกอบการปี 2566:

InnovestX Research คาดว่ากำไรของ SCGP จะเติบโต 20%YoY ในปี 2566 จากการรับรู้ต้นทุน RCP ระดับต่ำ (ปรับตัวตามหลัง Spot Price เป็นเวลา 4-5 เดือน) ใน 1H66 และปริมาณการขายที่ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นใน 1H66 โดยจะปรับตัวเพิ่มมากขึ้นใน 2H65 จากการเปิดประเทศของจีน

 

และคาดว่ากำไร 1Q66 จะเติบโต QoQ จากปัจจัยฤดูกาลและการรับรู้ต้นทุน RCP ระดับต่ำ แต่จะลดลง YoY โดยมีสาเหตุมาจากปริมาณการขายที่ลดลง

 

ด้านกลยุทธ์การลงทุน InnovestX Research ให้เรตติ้ง Outperform สำหรับ SCGP ด้วยราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 65 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ หลังจากจ่ายเงินปันผลงวด 1H65 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น คาดว่า SCGP จะจ่ายเงินปันผลงวด 2H65 ในอัตรา 0.23 บาทต่อหุ้น

 

ส่วนปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ แรงกดดันเงินเฟ้อ อัตราค่าระวางผันผวน และเศรษฐกิจจีนชะลอตัว


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising