×

บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะลงทุนหุ้นเทคเอเชีย

โดย THE STANDARD TEAM
06.11.2020
  • LOADING...
ศุภกร ตุลยธัญ

บลจ.ไทยพาณิชย์ แนะลงทุนหุ้นเทคเอเชีย ดักเงินทุนต่างชาติไหลเข้า หลัง ‘โจ ไบเดน’ จ่อฟื้นความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศ 

 

ศุภกร ตุลยธัญ Executive Director กลุ่มจัดสรรสินทรัพย์และกองทุนต่างประเทศ บลจ.ไทยพาณิชย์ กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ผ่านรายการ Morning Wealth ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีความผันผวนสูง สะท้อนจากพอร์ตการลงทุนของหลายๆ คนที่ยังไม่สามารถขายทำกำไรหรือปรับพอร์ตการลงทุนได้ แม้ว่าดัชนีจะปรับตัวขึ้นมาแรงเมื่อวานนี้ (5 พฤศจิกายน) ก็ตาม ซึ่งสภาวการณ์เช่นนี้เท่ากับราคาของหุ้นทั่วโลกยังอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง 

 

“ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงผันผวนจากการติดตามผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าไบเดนจะได้เป็นประธานาธิบดีและครองสภาล่าง ส่วนพรรครีพับลิกันจะครองสภาล่าง ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ เชื่อว่าตลาดหุ้นเอเชียจะได้รับอานิสงส์เชิงบวกค่อนข้างมาก” 

 

กลยุทธ์การลงทุนช่วงนี้ แนะนำให้นักลงทุนเน้นหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะเอเชีย เช่น บริษัทเทคโนโลยีจากเกาหลีและจีน เพราะจากนี้ไปหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีจะได้รับอานิสงส์ค่อนข้างเยอะ ทั้งจากวัฏจักรการเติบโตเชิงปัจจัยพื้นฐานของอุตสาหกรรม และการฟื้นความสัมพันธ์ด้านการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลบวกต่อทั่วเอเชีย

 

“ปี 2020 เป็นปีที่รีเซ็ตทุกอย่าง หากติดตามวัฏจักรทางเศรษฐกิจจะเห็นว่ารอบเศรษฐกิจของปี 2008-2009 ที่เติบโตสูงได้จบไปแล้ว ปลายปีนี้ก็จะเป็นจุดเริ่มต้น นับเป็นเศรษฐกิจรอบใหม่กับภาพของหุ้นเทคโนโลยีที่เพิ่งจะเริ่มต้นเช่นเดียวกัน” 

 

ศุภกรกล่าวว่าหากมองในเชิงพื้นฐานเศรษฐกิจแล้วเพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มต้นวัฏจักรเศรษฐกิจ จึงยังคงมองว่าหุ้นเทคโนโลยีเป็นกลุ่มที่สดใส เปรียบเทียบกับปี 2000 ที่มีเรื่องเลือกตั้งสหรัฐฯ และปี 2000 ก็เป็นปีที่หุ้นเทคโนโลยีอยู่ในสปอตไลต์ และจากนั้นก็เข้าสู่ยุคฟองสบู่ของหุ้นเทคโนโลยี แต่ผลประกอบการกลุ่มเทคโนโลยีรอบปีนี้อยู่ในช่วงเติบโต และราคาหุ้นก็ไม่ได้แพงมากเมื่อเทียบกับปี 2000

 

สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนนั้น ผู้ที่มีสัดส่วนลงทุนในหุ้นอยู่แล้วสามารถขายกำไรและทยอยเข้าสะสมใหม่ในช่วง 1 เดือนจากนี้ได้ ส่วนผู้ที่ไม่ได้ลงทุนในหุ้นเยอะก็สามารถทยอยเข้าสะสมได้เช่นกัน โดยจากนี้ไป 1 เดือนจะเป็นช่วงที่ทรัมป์เดินหน้าฟ้องร้องต่อศาลเรื่องการนับคะแนน ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ความเคลื่อนไหวของดัชนีมีความผันผวน โดยกลุ่มที่แนะนำให้เข้าลงทุนคือกลุ่มเทคโนโลยี

 

ส่วนการลงทุนในตลาดตราสารหนี้นั้น ประเมินว่าความเสี่ยงที่ราคาจะปรับลดลงยังไม่หมดไป แม้ว่าผลการเลือกตั้งจะออกมาในรูปแบบของการคานอำนาจ แต่ในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไบเดนก็จะใช้นโยบายการคลังคือการออกพันธบัตรรัฐบาลในมูลค่าที่สูง ซึ่งจะส่งผลให้อัตรราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสูงขึ้นในท้ายที่สุด

 

“แม้ผลเลือกตั้งจะไม่ใช่แบบกรณี Blue Wave คือไบเดนได้ครองทั้งสองสภา ความเสี่ยงเรื่อง Bond Yield สูงก็ยังคงมีอยู่ แต่ตลาดตราสารหนี้ก็ยังเข้าลงทุนได้ โดยให้เน้นตราสารหนี้ระยะสั้น” ศุภกรกล่าว 

 

สำหรับตลาดหุ้นไทยนั้น ยอมรับว่าอาจจะไม่ได้รับอานิสงส์จากกระแสการลงทุนทั่วโลกมากนัก เนื่องจากมีปัจจัยทางการเมืองภายในประเทศที่ต้องติดตามต่อ อาจทำให้หลุดออกจากความสนใจของนักลงทุนต่างชาติ

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising