×

SC ทุ่มงบฯ ซื้อที่ดินปีนี้ 1 หมื่นล้าน สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท หวังลุยพัฒนาโครงการใหม่ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เจาะกลุ่มตลาดบน ดีมานด์ยังโตสูง

03.10.2021
  • LOADING...
Sc Asset

บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC ปัจจุบันใช้งบลงทุนไปแล้วสัดส่วน 50-60% ของงบลงทุนที่ตั้งไว้สำหรับการซื้อที่ดินในปีนี้ เพื่อรองรับการเปิดโครงการใหม่ในอนาคต เชื่อว่า ภายในสิ้นปีนี้ใช้เงินครบตามแผน เหตุมองดีมานด์ที่อยู่อาศัยราคาเกิน 10 ล้านบาทขึ้นไปยังโตสูง ลูกค้าไม่โดนผลกระทบจากโควิด หนุนปีนี้ยอดขาย รายได้ ทำได้ตามเป้า มองรัฐทยอยเปิดประเทศเป็นบวกกับธุรกิจ

 

อรรถพล สฤษฎิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น หรือ SC กล่าวกับ THE STANDARD WEALTH ว่า ในปีนี้บริษัทได้ตั้งงบลงทุนสำหรับการซื้อที่ดินไว้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า โดยงบลงทุนดังกล่าวถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้ใช้งบลงทุนส่วนนี้ไปแล้วราว 50-60% และคาดว่าจะใช้ได้ครบตามเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้

 

สาเหตุที่บริษัทตั้งงบลงทุนสำหรับการซื้อที่ดินไว้ค่อนข้างมาก เนื่องจากเห็นโอกาสทางธุรกิจจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยที่ยังมีค่อนข้างมาก โดยเฉพาะโครงการแนวราบในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับ 10 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งยังมีดีมานด์ที่สูง โดยลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดมากนัก อีกทั้งธนาคารพาณิชย์ก็พร้อมจะปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ากลุ่มเหล่านี้ด้วย

 

“ปีนี้เราตั้งงบลงทุนเพื่อใช้ซื้อที่ดินที่มากกว่าภาวะปกติ โดยปีที่ผ่านๆ มา ใช้อยู่ราว 5-6 พันล้านบาท ที่เราตั้งงบฯ เพิ่มขึ้น เพราะเห็น Potential ของตลาด”

 

สำหรับกรณีที่รัฐบาลมีแผนทยอยเปิดกรุงเทพฯ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาได้ในเร็วๆ นี้ มองว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ของไทย รวมถึงธุรกิจพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของบริษัท เนื่องจากก่อนช่วงจะมีสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดในประเทศไทย บริษัทมีสัดส่วนจากลูกค้าชาวต่างชาติอยู่ที่ประมาณ 15% แต่เมื่อมีสถานการณ์แพร่ระบาดในไทย ส่งผลให้สัดส่วนรายได้จากลูกค้าลดลงเหลือประมาณ 10% ของรายได้รวมของบริษัท 

 

อย่างไรก็ตาม เมื่อรัฐบาลมีนโยบายทยอยเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยได้ คาดว่าจะช่วยทำให้สัดส่วนรายได้ในอนาคตที่มาต่างชาติของบริษัททยอยปรับเพิ่มขึ้นด้วย

 

ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีโครงการที่พัฒนาพร้อมขายมูลค่ารวมประมาณ 5 หมื่นล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นโครงการแนวราบ 70% และอีก 30% เป็นโครงการแนวสูงคือ คอนโดมิเนียมที่อนุญาตชาวต่างชาติสามารถซื้อได้

 

อรรถพลกล่าวด้วยว่า ในปีนี้บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายยอดขายที่ 2 หมื่นล้านบาท และมีรายได้ 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นเป้าหมายที่บริษัทเคยตั้งไว้ตั้งแต่ช่วงต้นปี แม้ยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดจะมีความรุนแรงกว่าที่บริษัทได้ประเมินไว้ แต่กลุ่มลูกค้าของบริษัทยังได้รับผลกระทบที่น้อย และยังมีดีมานด์ที่อยู่อาศัยอยู่ อีกทั้งบริษัทได้ปรับกลยุทธ์การตลาดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising