×

ผ่ากลยุทธ์ 4 ช่วงสำคัญของ SC Asset จากวิสัยทัศน์ผู้บริหาร สู่การปรับองค์กรให้เติบโตต่อเนื่องฝ่าทุกวิกฤต [Advertorial]

02.09.2021
  • LOADING...
SC Asset

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • เบื้องหลังความสำเร็จในการบริหารงานของ พงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ CEO, SC Asset จนนำไปสู่รายได้บริษัทจากกว่า 7 พันล้านบาท ก้าวกระโดดสู่ 1.9 หมื่นล้านบาท และครองอันดับ 1 ยอดขายบ้านราคามากกว่า 10 ล้านบาท อยู่ที่ 4 ช่วงสำคัญ
  • 4 ช่วงสำคัญกลายเป็น 4 แกนหลัก ได้แก่ รู้เขา รู้เรา, Re-branding, Re-invention และ Resilience

โดยปกติแล้วอสังหาริมทรัพย์จะมีการอัตราการเติบโตเกี่ยวโยงไปกับการเพิ่มขึ้นของประชากรและรายได้โตขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น แต่ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของภาคอสังหาริมทรัพย์กลับเติบโตต่ำ และในอนาคตภาพรวมก็มีแนวโน้มจะเติบโตลดลงตามการชะลอตัวของเศรษฐกิจและจำนวนประชากร ยกตัวอย่าง ปี 2562 ราคาของอสังหาริมทรัพย์ในตลาดเพิ่มสูงกว่า GDP ประเทศ ประกอบกับมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทยบังคับใช้ ส่งผลให้กำลังซื้อถดถอย Developer หลายรายต้องปรับตัวตาม โครงการใหม่เปิดตัวน้อยลง และอัดโปรโมชันกระตุ้นยอดขาย

 

ทว่าท่ามกลางความผันผวนของตลาด หรือยามที่ทุกธุรกิจหวาดหวั่นกับอนาคตจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด SC Asset กลับเติบโตต่อเนื่อง ครองอันดับ 1 ยอดขายบ้านราคามากกว่า 10 ล้านบาท เกือบ 2 ทศวรรษในวงการอสังหาริมทรัพย์ SC Asset ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเมืองไทย ตอกย้ำความเป็นเบอร์ใหญ่ในวงการด้วยความสำเร็จมาโดยตลอด โดยเฉพาะช่วงปี 2012-2020 เกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งแง่ดีและแง่ลบมากมาย เช่น การเกิดขึ้นของโครงการ บ้านหลังแรก เหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง มาตรการ LTV และมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด ซึ่งเป็นช่วงปีที่ พงศ์-ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ CEO ของ SC Asset เข้ามาบริหารงาน

 

SC Asset

 

เบื้องหลังแนวคิดการบริหารงานของ CEO เลือดใหม่คนนี้คืออะไร ทำไม SC Asset จึงเติบโตต่อเนื่องแม้อยู่ท่ามกลางวิกฤต ผลักดันรายได้บริษัทจากกว่า 7 พันล้านบาท ก้าวกระโดดสู่ 1.9 หมื่นล้านบาทได้สำเร็จ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมาจากยอดขายและรายได้แนวราบสูงถึง 95% เราจะพาคุณไปไขความลับผ่าน 4 ช่วงสำคัญเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงของ SC Asset 

 

SC Asset

 

Change ที่ 1: รู้เขา รู้เรา

ปี 2012 ถือเป็นช่วงเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง ในตอนนั้นณัฐพงศ์ต้องการสร้างรากฐานขององค์กรด้วยการหันกลับมาถามตัวเองว่า อะไรคือจุดแข็งและจุดอ่อนของบริษัท อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าไว้วางใจเมื่อนึกถึง SC Asset ความแตกต่างและคุณค่าของแบรนด์อยู่ตรงไหน นี่คือโจทย์ที่ SC Asset ต้องตีให้แตกก่อน เรียกว่า ‘รู้เรา’ ควบคู่กับ ‘รู้เขา’ ปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดแข็งของ SC Asset คือมาตรฐานคุณภาพสูงของบ้าน ไม่ว่าจะผ่านการเปลี่ยนแปลงกี่ยุคสมัย คุณภาพต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง โดยมี Bangkok Boulevard เป็นแบรนด์เรือธง (Flagship) ของ SC Asset  

 

Change ที่ 2: Re-branding

ปี 2013 ครบรอบปีที่ 10 หลังจากเรียนรู้เรื่องในองค์กร ในที่สุดก็เจอคำตอบที่ลงตัวสำหรับองค์กรและสำหรับทุกชีวิต นั่นก็คือ ‘ชีวิตที่ดี มาจากจุดเริ่มต้นที่ดี’ กลายเป็นสโลแกนใหม่ ‘For Good Mornings’ เพื่อสื่อถึงแนวคิดจากปรัชญาของแบรนด์ที่คำนึงถึงการสร้างทุกเช้าที่ดีเพื่อลูกค้า

 

เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น ได้มีการปรับดีไซน์บ้านใหม่ จนเป็นที่มาของการเป็นต้นแบบผู้นำบ้านสไตล์นอร์ดิกที่เลื่องชื่อ ตั้งแต่การออกแบบฟังก์ชันที่รองรับไลฟ์สไตล์ได้ตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมกับเพิ่มความยืดหยุ่น มองหาตลาดใหม่ รุกทำบ้านราคาน้อยกว่า 5 ล้านบาท เพื่อเข้าถึงเป้าหมายทุกกลุ่ม 

 

Change ที่ 3: Re-invention

ปี 2018 เรียกได้ว่าเป็นการปรับทัพครั้งใหญ่ SC วางตำแหน่งตัวเองใหม่ ปรับแนวคิดจากการเป็น Developer สู่การเป็น Living Solutions Provider โดยมีเข็มทิศนำทางคือ Human-Centric ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยองค์รวมจะกลายเป็นหัวใจสำคัญขององค์กร และไม่จำกัดกรอบแค่ลูกค้า แต่ขยายไปถึงบริบทของสังคม ตามวิสัยทัศน์ผู้บริหารที่เชื่อว่า ณ เวลานั้นเป็นยุคที่ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ความจริงใจและการปรับตัวจะทำให้ผู้ประกอบการเติบโตได้อย่างยั่งยืน แต่ถึงอย่างไรแบรนด์ยังคงเกาะแกนการสร้างเช้าที่ดี ‘For Good Mornings’ ควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนสู่การ เป็น Living Solutions Provider ที่แข็งแกร่ง โดยมีการปรับวัฒนธรรมองค์กร #SKYDIVE เพื่อสร้างความเชื่อร่วมกันในองค์กร ภายใต้ Core Values หรือค่านิยม 4 ประการคือ Care, Courage, Collaboration, Continuous Improvement ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ลงตัว จะเห็นได้ว่าค่านิยมดังกล่าวเปิดโอกาสให้คนในองค์กรกล้าคิดและทำอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับการเป็นผู้นำ Living Solutions Provider  

 

Change ที่ 4: Resilience

ระลอกที่ 4 ของการเปลี่ยนแปลง เป็นบททดสอบที่หนักสำหรับธุรกิจ ช่วงแรกของวิกฤตโควิด SC Asset จึงเร่งปรับตัวและเน้นความยืดหยุ่นในการทำให้ธุรกิจ เพื่อความยั่งยืนและเสริมสภาพคล่องให้แข็งแกร่ง 

 

ณัฐพงศ์ย้ำเสมอว่า หัวใจของความสำเร็จและการเติบโตอย่างยั่งยืนในการทรานส์ฟอร์มองค์กรต้องเริ่มที่ ‘คน’ ก่อนเสมอ และในทุกๆ ระลอกของการเปลี่ยนแปลงจนนำไปสู่การเติบโตต่อเนื่อง มักจะมีกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้องกับคนในองค์กรเสมอด้วยเช่นกัน ท่ามกลางความผันผวนของวิกฤตที่ทั่วโลกยังไม่เคยรับมือ ยังไม่มีต้นแบบให้เรียนรู้ สิ่งที่ทำได้คือ ‘Keep calm and S-I-T’ S = Settle ตั้งสติ, I = Inquire หาข้อมูล, T= Tell ยิ่งสับสน ยิ่งสื่อสาร นี่คือสิ่งที่ณัฐพงศ์ ได้เรียนรู้ตลอดการบริหารงานในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงบนความท้าทายของธุรกิจตลอด 9 ปี หากจะให้สรุปภาพรวมจนถึงปี 2020 ตลอด 4 ช่วงสำคัญเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรของ SC Asset ในแง่ของตัวเลข การเติบโตของยอดขายบ้านทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ บ้านราคามากกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งเป็นพอร์ตหลักและแข็งแกร่ง เติบโตประมาณ 4 เท่า หรือเติบโต 268%, บ้านราคา 5-20 ล้านบาท เติบโต 2 เท่า หรือ 113% และบ้านราคาน้อยกว่า 5 ล้านบาท เติบโต 10% นอกจากเรื่องของการเติบโตของตัวเลข กล่าวได้ว่าเบื้องหลังความสำเร็จที่แท้จริง คือ ความเชื่อมั่นที่ลูกค้ามีต่อแบรนด์เป็นปัจจัยหลัก อันหลอมรวมมาจากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร ได้ส่งต่อพลังงานบวกให้กับทีมมุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กร ภายใต้ความพร้อมของการปรับตัวในทุกมิติ ใส่ใจและดูแลลูกค้า เข้าใจพฤติกรรมของคนซื้อบ้าน ควบคู่ไปกับการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ทำให้ SC Asset ส่งมอบที่อยู่อาศัยและบริการด้วยคุณภาพมาตรฐานสูง สร้างชีวิตที่ดีได้อย่างแท้จริง

 

SC Asset

 

ณัฐพงศ์กล่าวว่า “ไม่ว่าสถานการณ์โควิดจะมีความท้าทายอย่างไร เราพร้อมรบอยู่เสมอ และมั่นใจว่าจะทำสำเร็จตามเป้าหมาย ทั้งยอดขายและรายได้ พร้อมสู่การเป็นแบรนด์บ้านเดี่ยวอันดับ 1 ในใจผู้บริโภค”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising