×

Uber หาแรงหนุน #SaveUberLondon หลังกรมขนส่งลอนดอนไม่ต่อใบอนุญาต

26.09.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

2 Mins. Read
  • องค์การคมนาคมขนส่งลอนดอน (Transport for London -TfL) ประกาศไม่ต่ออายุใบอนุญาตประกอบการให้บริการของ Uber ในลอนดอน เนื่องจากบริษัทไม่มีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะกรณีร้องเรียนเรื่องผู้โดยสารหญิงถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • การตัดสินดังกล่าวจะทำให้ Uber ให้บริการในลอนดอนจนถึงวันที่ 30 กันยายนนี้ ปัจจุบัน Uber กำลังยื่นอุทธรณ์ต่อศาล
  • ดารา คอสราวชาฮี ถือโอกาสพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสที่พนักงานจะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดในอดีต พร้อมย้ำว่าวันนี้ Uber เป็นบริษัทระดับโลกแล้ว จะต้องทำเพื่อสังคมมากขึ้น ไม่ใช่แค่คำนึงถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจ

     งานเข้า Uber อีกรอบ หลังองค์การคมนาคมขนส่งลอนดอนตัดสินใจไม่ต่อใบอนุญาตการให้บริการ ล่าสุด Uber เปิดแคมเปญ ‘Save Your Uber in London’ ล่ารายชื่อผู้สนับสนุนการให้บริการ Uber ในลอนดอนผ่านทางเว็บไซต์ Change.org เพื่อร้องเรียนต่อนายซาดิก ข่าน (Sadiq Khan) นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอน โดยขณะนี้ (25 ก.ย. เวลา 17.20 น.) มีผู้ลงชื่อสนับสนุน 746,197 คน เหลืออีกกว่า 2 แสนรายชื่อจึงจะครบ 1 ล้านคนตามเป้าหมายของ Uber

     วันที่ 22 กันยายน 2560 องค์การคมนาคมขนส่งลอนดอน (Transport for London -TfL) ประกาศว่าจะไม่ต่ออายุใบอนุญาตประกอบการให้บริการของ Uber ในลอนดอนที่กำลังจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายนนี้ โดยให้เหตุผลว่าบริษัทไม่มีความรับผิดชอบในหลายประเด็น เช่น หลักฐานรับรองทางการแพทย์ของคนขับ, การตรวจสอบระบบรักษาความปลอดภัย, การใช้เทคโนโลยี Greyball ปล่อยรถปลอมหลอกตำรวจที่ล่อซื้อ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชน จึง ‘ไม่เหมาะสม’ และ ‘ไม่สมควร’ ที่จะได้รับอนุญาตให้บริการรถโดยสารส่วนบุคลล

     ช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา TfL ได้ต่ออายุใบประกอบการของ Uber แค่ 4 เดือน เพื่อพิจารณาความเหมาะสมของการออกใบอนุญาต 5 ปี แต่สุดท้าย TfL ก็ตัดสินไม่ให้ Uber ไปต่อด้วยเหตุผลข้างต้น และชี้แจงเพิ่มเติมว่ามีผู้ร้องเรียนเรื่องคนขับล่วงละเมิดลูกค้าหญิงหลายกรณีด้วยกัน โดยคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการทางกฎหมายหลายเดือน

 

Photo: SCOTT OLSON/GETTY IMAGES NORTH AMERICA/AFP

 

     ด้าน ดารา คอสราวชาฮี ซีอีโอคนใหม่ของ Uber ก็ไม่นิ่งเฉย รีบส่งจดหมายถึงพนักงานบริษัทเพื่อยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจดังกล่าว และเตรียมยื่นอุทธรณ์ทันที

     ปรากฏว่าข้อความในจดหมายนั้นดึงความสนใจจากสื่อมวลชนต่างประเทศได้อยู่หมัด แทนที่จะแสดงความไม่พอใจรุนแรง เขากลับใช้มันเป็นโอกาสให้พนักงานบริษัททุกคนเรียนรู้จากอดีต และหาทางแก้ไขร่วมกันในวันที่สเกลของบริษัทใหญ่ขึ้น

     “ผมรู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของนายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนและองค์การคมนาคม เช่นเดียวกับพวกคุณทุกคน เหตุการณ์ครั้งนี้อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อคนขับรถ Uber กว่า 4 หมื่นคน และชาวลอนดอนที่ใช้บริการของ Uber กว่า 3.5 ล้านคน”

     เขากล่าวต่อไปว่า ทีมงานของ Uber ได้เข้าไปทำงานกับกลุ่มคนท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนการใช้รถโดยสารส่วนบุคคลที่เป็นมิตรกับผู้ใช้รถเข็นและรถยนต์ไฟฟ้าในลอนดอนเพิ่มขึ้นอีกด้วย

     อย่างไรก็ดี ดารากล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้พิจารณาทบทวนปัญหาของบริษัท

     “ความจริงก็คือการมีชื่อเสียงเชิงลบก็ย่อมมีราคาที่ต้องจ่ายสูง

     “หากไม่นับเรื่องที่ว่าเรากระทำผิดตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ (ซึ่งผมก็ไม่ได้คิดว่าเราเคยทำ) มันสะท้อนให้เห็นว่าจริงๆ แล้วผู้คนมองเราแบบไหน โดยเฉพาะเมื่อเรากลายเป็นธุรกิจระดับโลกแล้ว เมื่อเกิดปัญหาในฟากหนึ่งของโลกก็อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่ออีกฟากโลกได้เช่นกัน

     “การจะเดินหน้าต่อไป เราจะต้องบูรณาการทุกสิ่งที่เราทำ และหาทางให้ได้ว่าจะเป็นพันธมิตรที่ดีกับทุกๆ เมืองที่เรานำบริการเข้าไปให้คนใช้อย่างไร

     “เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่า Uber ไม่ได้มีดีแค่ผลิตภัณฑ์ แต่ยังเป็นบริษัทที่ยอดเยี่ยมและมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อสังคมมากกว่าแค่คำนึงถึงตัวบริษัทหรือผลลัพธ์ทางธุรกิจ”

 

Photo: JUSTIN TALLIS/AFP

 

     สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง The Guardian และ Business Insider ได้นำจดหมายของดารา คอสราวชาฮี ไปเผยแพร่ ทำให้เขาได้รับการชื่นชมว่าเหมาะสมกับตำแหน่งซีอีโอคนใหม่ที่ตอบโต้และรับมือกับปัญหาได้ชาญฉลาด มีผู้ลงชื่อสนับสนุนแคมเปญใน Change.org เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (จนถึงตอนนี้) จิม เอ็ดเวิร์ด นักข่าวจาก Business Insider ได้เขียนบทความวิพากษ์วิจารณ์การแบน Uber ว่าเป็น ‘หายนะของลอนดอน’ เลยทีเดียว เนื่องจากอาจทำให้ 40,000 คนต้องตกงาน และชาวลอนดอนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อาศัยอยู่ใจกลางเมืองน่าจะตกที่นั่งลำบาก โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางตอนกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงรถไฟใต้ดินปิดให้บริการแล้ว ซึ่งทางเลือกที่เหลือก็คือรถบัสที่ช้า ไม่สะดวกสบาย และเต็มไปด้วยคนเมา ส่วนราคาแท็กซี่ก็แสนแพง

     แต่ดูเหมือนว่านายซาดิก ข่าน จะไม่เห็นด้วยแต่อย่างใด

     หลังจาก Uber เปิดแคมเปญพร้อมกับติดแฮชแท็ก #SaveUberLondon เขาออกมาตอบโต้ว่า “ลอนดอนควรจะเป็นเมืองแห่งเทคโนโลยีใหม่ ควรจะเป็นที่ที่บริษัทใหม่ถือกำเนิดขึ้น แต่คุณก็ควรจะเล่นตามกฎกติกาด้วย

     “ถ้าคุณทำตามกฎ คุณก็เป็นที่ต้อนรับในลอนดอน แต่ถ้าไม่ ก็ไม่ต้องแปลกใจไปถ้า TfL จะจัดการคุณ” ข่านกล่าว

     อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Uber จะมีโอกาสชนะในการยื่นอุทธรณ์ แต่ถ้าแพ้ Uber ก็ไม่ใช่บริการเรียกรถแท็กซี่รายเดียวในลอนดอน ดังนั้นโอกาสก็อาจตกเป็นของผู้เล่นหน้าใหม่ที่พร้อมจะช่วงชิงชิ้นเค้กในตลาด เช่น Gett, mytaxi, Add Lee, Taxify ตราบใดที่คนยังต้องการใช้บริการ on-demand กันทุกวัน

 

Photo: Daniel LEAL-OLIVAS/AFP

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising