×

‘ศศินทร์’ กางหลักสูตรและแนวคิด ‘inspire.connect.transform for a better, smarter, sustainable world’ มุ่งสร้างผู้บริหารที่สร้าง Impact ให้กับโลกใน ‘Sasin Open House’ [ADVERTORIAL]

โดย THE STANDARD TEAM
11.03.2022
  • LOADING...
‘ศศินทร์’ กางหลักสูตรและแนวคิด ‘inspire connect transform for a better, smarter, sustainable world’ มุ่งสร้างผู้บริหารที่สร้างอิมแพ็กให้กับโลกใน ‘Sasin Open House’ [ADVERTORIAL

HIGHLIGHTS

3 mins. read
  • 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ‘ศศินทร์’ Sasin School of Management (สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) จัดงาน ‘Sasin Open House’ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ ‘ศศินทร์’ ได้มาค้นหาคำตอบของการสร้างผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จและเรียนรู้เกี่ยวกับหลักสูตรของ Sasin 
  • ในโอกาสครบรอบ 40 ปี ศศินทร์ก้าวไปข้างหน้า (Sasin 40forward) มุ่งสร้างผู้บริหารที่จะสร้าง Impact ให้กับโลก ชูแนวคิด ‘inspire.connect.transform for a better, smarter, sustainable world’ ส่งต่อแรงบันดาลใจที่จะนำไปสู่การเชื่อมต่อและการเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างโลกที่ดีผ่านหลักสูตรที่ถูกปรับให้ยืดหยุ่นเหมาะกับโลกที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว 

หากพูดถึงสถาบันการศึกษาด้านบริหารธุรกิจระดับแนวหน้าในเมืองไทยที่ได้รับการยอมรับระดับโลก ชื่อของ ‘ศศินทร์’ Sasin School of Management (สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจ ศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ไม่มีทางหลุดโผแน่นอน

 

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม THE STANDARD จึงสนใจที่จะเข้าร่วมงาน ‘Sasin Open House’ กิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจ ‘ศศินทร์’ ได้มาค้นหาคำตอบของการสร้างผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จและเรียนรู้เกี่ยวกับหลักสูตรของ Sasin และยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับนิสิตปัจจุบัน ศิษย์เก่า คณาจารย์ เพื่อเป็นแนวทางในการเลือกโปรแกรมที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลที่สุด  

 

 

และเป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสได้เห็น อาคารศศปาฐศาลา หลังจากที่ศศินทร์เพิ่งปรับปรุงใหม่เมื่อปีที่ผ่านมา เพื่อให้สอดรับกับการเรียนแบบ Action Learning ที่เน้นให้นิสิตและอาจารย์สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้ง่ายขึ้น มีพื้นที่ให้ทำงานกลุ่มร่วมกัน และสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ นอกจากพื้นที่ Royal Hall Exhibition, Speakers’ Corner, ห้อง Workshops พื้นที่โซนปรับปรุงใหม่นี้ยังมีออฟฟิศที่รีโนเวตใหม่ของ Sasin Sustainability & Entrepreneurship Center (SEC) หรือศูนย์บริหารจัดการความยั่งยืนและส่งเสริมผู้ประกอบการแห่งศศินทร์ สะท้อนให้เห็นถึงการไม่หยุดพัฒนาเพื่อตอบรับเทรนด์โลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความมุ่งมั่นในเรื่องของความยั่งยืนและความเป็นผู้ประกอบการซึ่งเป็นหัวใจหลักของศศินทร์มาโดยตลอด

 

 

ศ.ดร.เอียน เฟนวิค (Professor Ian Fenwick, Ph.D.) ผู้อำนวยการ ศศินทร์ กล่าวถึงภาพรวมความสำเร็จและอัตลักษณ์ที่แข็งแกร่งของ ศศินทร์ เนื่องในโอกาศครบรอบ 40 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จับมือกับ Kellogg School of Management at Northwestern University และ The Wharton School of the University of Pennsylvania ไปจนถึงขวบปีต่อๆ ไป จะยังคงก้าวไปข้างหน้าไม่หยุดยั้งตามสโลแกนครบรอบ 40 ปี ‘Sasin 40forward’ เพื่อการเรียนรู้ด้านบริหารธุรกิจที่ดีที่สุด สร้างผู้บริหารที่จะสร้างอิมแพ็กเชิงบวกให้กับโลกนี้ได้อย่างยั่งยืน ผ่านการปลูกฝัง Entrepreneurial Mindset หรือแนวคิดแบบผู้ประกอบการไปพร้อมๆ กับเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยเน้นการสร้างแรงบันดาลใจนำไปสู่การเชื่อมต่อและการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างโลกที่ดีขึ้น ฉลาดขึ้น และยั่งยืนขึ้น หรือ ‘inspire.connect.transform for a better, smarter, sustainable world’ “ถ้าคุณไม่สร้างความแตกต่างแล้วใครจะสร้าง” ศ.ดร.เอียนกล่าวเช่นนั้น 

 

 

ศศินทร์ ยังเป็นสถาบันการศึกษาด้านบริหารธุรกิจแห่งแรกของประเทศไทยที่ได้รับการรับรองคุณภาพมาตรฐานการศึกษาด้านบริหารธุรกิจระดับสากลจาก AACSB (Association to Advance Collegiate Schools of Business) ของสหรัฐอเมริกา และ EQUIS ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดจาก EFMD (European Foundation for Management Development) ของยุโรป อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับให้อยู่ใน ‘100 อันดับแรกของโลก’ และเป็น ‘1 ใน 10 อันดับแรกของเอเชียในด้านความเป็นผู้ประกอบการและความสำเร็จของศิษย์เก่าและความหลากหลายของผู้เรียนและคณาจารย์ จากการจัดอันดับของ QS Global MBA Rankings 2021 ที่คัดเลือกจากสถาบันที่สอนด้านบริหารธุรกิจทั่วโลกทั้งหมด 258 แห่งใน 40 ประเทศ   

 

ที่สำคัญ ศศินทร์ เป็นสถาบันการศึกษาระดับปริญญาโท-เอกรายแรกๆ ที่นำแนวทางการสอนรูปแบบ Action Learning มาใช้ อาจารย์นิกม์ พิศลยบุตร รองผู้อำนวยการศศินทร์ ด้าน Strategy, Innovation and Impact ฉายภาพใหญ่ของหลักสูตรที่ศศินทร์มี โดยหลักสูตร MBA เปิดสอนเวลาเรียนค่อนข้างยืดหยุ่นมีทั้งแบบฟูลไทม์และพาร์ตไทม์ และความแตกต่างในการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเวทีเพื่อให้ผู้เรียนได้สู้ศึกในสนามจริงอย่าง การแข่งขันแผนธุรกิจ SCG Bangkok Business Challenge @ Sasin ที่ร่วมมือกับ SCG Chemicals หรือ SCGC เฟ้นหาสุดยอดทีมนักศึกษาจากทั่วโลกที่มีไอเดียแผนธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืน เป็นการจัดการแข่งขันสตาร์ทอัพภาคภาษาอังกฤษสำหรับนักศึกษาที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ซึ่งปีนี้จะครบรอบปีที่ 20 ของการแข่งขัน นอกจากนี้ศศินทร์ยังส่งนิสิตไปแข่งและคว้ารางวัลจากเวทีระดับโลกอีกหลายเวที

 


 

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น จุดเด่นของศศินทร์คือ การเน้นเรื่อง ‘Sustainability Through Entrepreneurial Mindset’ โดยมุ่งหวังที่จะผลิตผู้นำองค์กรที่เข้าใจว่าทุกสิ่งที่ทำล้วนส่งผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคมทั้งในปัจจุบันและในอนาคต และความเป็นอินเตอร์เนชันนัลของหลักสูตร โดยมีทั้งอาจารย์ประจำและ Visiting Professors จากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก มาให้ความรู้และมุมมองนานาชาติจากหลากหลายธุรกิจ นอกจากนี้ศศินทร์ยังมีพาร์ตเนอร์ต่างประเทศกว่า 40 แห่งทั่วโลก ล่าสุดในต้นปี 2565 นี้ มีนิสิตแลกเปลี่ยนนานาชาติเดินทางมาร่วมคลาส Sasin MBA มากเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งนิสิตศศินทร์เองก็ได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนที่มหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศที่เป็นพันธมิตรกับศศินทร์ทั่วโลก

 

การเรียน MBA หรือ Executive MBA ในปัจจุบัน ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเรียนนานเหมือนเมื่อก่อน ถ้ามีเวลาเรียนมากอาจสามารถจบได้ใน 1 ปี แต่หากไม่ค่อยมีเวลาก็สามารถเรียนตามที่เหมาะสม และใช้เวลาเรียนนานขึ้นอีกหน่อย 

 

นอกจากนี้ศศินทร์ยังมีหลักสูตรสองปริญญา ได้แก่ International Dual Degree หลักสูตร 2 ปริญญาที่ผู้เรียนจะได้ MBA จากทั้ง ศศินทร์ และ European Business School (EBS) ที่เยอรมนี หรือ Schulich School of Business ที่แคนาดา และหลักสูตร Dual MBA & Master of Engineering หลักสูตร 2 ปริญญา (MBA จากศศินทร์ และ Master’s in Industrial Engineering จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เราจะได้เรียนทั้งด้านวิศวกรรมและบริหารธุรกิจควบคู่กัน เหมาะกับผู้บริหารสายงานอุตสาหกรรม ใช้ระยะเวลาเรียนเพียงแค่ 2 ปี 

 

สำหรับ Sasin DBA หรือ Doctor of Business Administration (International Program) หลักสูตรปริญญาเอกที่เน้นการสร้างผู้นำมากประสบการณ์ที่ต้องการต่อยอดความรู้ไปสู่การเป็น ‘Real-World Researcher’ ดูเหมือนจะเป็นหลักสูตรที่ได้รับความสนใจเช่นกัน จุดเด่นคือเป็นหลักสูตรแบบพาร์ตไทม์และเรียนแบบผสมผสานระหว่างการเรียนออนไลน์และเวิร์กช็อป เน้นไปที่งานวิจัยและโปรเจกต์ Real-World ใช้งานวิจัยอ้างอิงเป็นหลักฐานและข้อมูลจริงๆ ที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจ เพื่อให้ผู้เรียนสามารถแก้ปัญหาและนำไปปรับใช้ได้จริงกับธุรกิจและองค์กรของตัวเอง เหมาะกับผู้บริหารระดับสูง ผู้ประกอบการ นักวิจัย หรือนักวิชาการที่มีประสบการณ์การทำงานอย่างน้อย 10 ปี 

 

อาจารย์นิกม์ชี้ให้เห็นว่า ที่ศศินทร์ กว่า 60% ของหลักสูตรจะสอนโดย Visiting Professors ยิ่งไปกว่านั้น หลักสูตร MBA ได้ผนวก Action Learning Labs เข้าในหลักสูตร ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อผู้เรียนที่จะได้ประสบการณ์จริง และเพิ่มมุมมองที่แตกต่าง รวมถึงกระบวนการทำงานที่มีความเป็นสากล โดย Consulting Labs จะร่วมมือกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลก เช่น Sasin-MIT Lab, Sasin-Fudan Lab และ Sasin-Tsinghua Lab นอกจากนี้ยังมีแล็บสำหรับนิสิตที่สนใจด้านการสร้างธุรกิจและความยั่งยืน เช่น New Ventures Lab และ Sustainability Lab เพื่อประยุกต์ใช้ความรู้เชิงทฤษฎี ผสานกับการลงมือปฏิบัติโดยให้ลงมือทำโปรเจกต์จริง ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมสามารถต่อยอดได้จริง  

 

 

เหนือสิ่งอื่นใด หัวใจสำคัญของความสำเร็จตลอด 40 ปีของศศินทร์ ยังอยู่ที่ Alumni Network หรือเครือข่ายนิสิตเก่าที่มีความแข็งแกร่งกว่า 5,000 คน ที่ประสบความสำเร็จในธุรกิจต่างๆ อยู่ในแวดวงธุรกิจชั้นนำมากมายทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เปรียบเหมือนสินทรัพย์ที่มีคุณค่าที่สุดอย่างหนึ่งของศศินทร์ และทั้งหมดนี้ยังเชื่อมต่อถึงกันในฐานะ Sasin Family ซึ่งช่วงท้ายของงานยังได้ร่วมฟังแนวคิดและประสบการณ์จากนิสิตเก่าและอาจารย์พิเศษ

  

ณิชาพัชร วลัยพัชรา นิสิตเก่าจากคลาส EMBA 2019 ปัจจุบันทำงานในตำแหน่ง Associate Marketing Director – Wall’s (Unilever) เล่าถึงความประทับใจที่ได้เข้าเรียนที่ศศินทร์ว่า “ไม่คิดว่าการเรียนวิชาการบัญชีจะสนุกขนาดนี้ รวมถึงวิชาการตลาดก็เป็นวิชาโปรดเช่นกัน ไม่ใช่แค่สนุก แต่ความรู้ต่างๆ ยังนำไปปรับใช้กับธุรกิจที่ทำได้ด้วย แม้เราจะมีความรู้ด้านธุรกิจมาก่อนแต่ก็ได้ความรู้ใหม่ๆ ทุกครั้งที่เข้าคลาส ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเพื่อนร่วมคลาสต่างสาขาอาชีพ เราจึงได้แบ่งปันความรู้และประสบการณ์ของแต่ละคน”

 

แป้ง-อมรรัตน์ สุจินตะบัณฑิต นิสิต MBA 2021 กล่าวเสริมว่า “นอกจากจะได้ความรู้แล้ว การเรียนที่ศศินทร์ คุณจะได้เพื่อนร่วมคลาสที่ดี ช่วยเหลือกันและกันในการเรียนและการทำโปรเจกต์ต่างๆ ที่ได้รับมอบหมาย และสิ่งที่คุณได้ก็สามารถนำไปปรับใช้ในการทำงาน ซึ่งมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน”  

 

Ragil Ratnam Visiting Professor ผู้สอนวิชา Business Strategy และวิชา Negotiations เล่าว่า เขามักจะบอกผู้เรียนเสมอว่าให้ตั้งเป้าหมายถึงสิ่งที่พวกเขาจะได้รับเมื่อจบหลักสูตร “มีนักเรียนในคลาสของผมที่นำกลยุทธ์ที่ผมได้มอบหมายในคลาสไปปรับใช้วางแผนการลงทุนทำธุรกิจ และทุกคนก็คงทราบกันดี ในคลาสมีผู้เรียนที่เป็นนักธุรกิจ เจ้าของกิจการ ซีอีโอ ทุกคนล้วนมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์การทำงานในสาขาอาชีพของตน คุณจึงได้แลกเปลี่ยนความรู้กับคนเหล่านั้นตลอดเวลา”

 


 

การได้เข้าร่วมฟังเรื่องราวและหลักสูตรของศศินทร์ในงาน Sasin Open House ในครั้งนี้ยิ่งทำให้ภาพของการเป็นสถาบันการศึกษาด้านบริหารธุรกิจอันดับต้นๆ ของไทยชัดเจนยิ่งขึ้น 

 

อยากรู้จักศศินทร์และหลักสูตรต่างๆ เพิ่มเติม สามารถเข้าร่วมงาน ‘Sasin Open House’ ได้ในวันที่ 19 มีนาคมนี้ เวลา 10.00-12.00 น. ลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/3Km2naX ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://sasin.edu โทร. 08 5123 6832 หรือสมัครเรียนปีการศึกษา 2565 ที่ https://apply.sasin.edu ถึงวันที่ 31 มีนาคมนี้

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising