×

มหาเศรษฐีชาวรัสเซียสูญเสีย ‘ความร่ำรวย’ ไปแล้ว 2.6 ล้านล้านบาท พบแก้เกมด้วยการซื้อ ‘นาฬิกาและเครื่องประดับหรู’

04.03.2022
  • LOADING...
นาฬิกาและเครื่องประดับหรู

ผลพวงจากการบุกยูเครน ทำให้มหาเศรษฐีระดับแถวหน้าของรัสเซียสูญเสียความร่ำรวยไปแล้วกว่า 8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือมากถึง 2.6 ล้านล้านบาท ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าความมั่งคั่งจะลดลงอีกเรื่อยๆ อันเป็นผลมาจากการคว่ำบาตร

 

CNBC รายงานถึงการรุกรานยูเครนของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินได้ขจัดความมั่งคั่งราว 1 ใน 3 ของมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของรัสเซีย 20 คนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา อ้างจากดัชนี Bloomberg Billionaires Index

 

ไม่เพียงแต่ความมั่งคั่งที่หายไปเท่านั้น แต่ผลกระทบยังส่งไปยังการล่มสลายของสกุลเงินรูเบิล ซึ่งเป็นเงินสกุลหลักของรัสเซียและเศรษฐกิจ ซึ่งอีกเรื่องที่ต้องจับตาคือรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรเรียกร้องให้มีการยึดทรัพย์สินของรัสเซียในสหราชอาณาจักร ตลอดจนจัดตั้งกองกำลังเฉพาะกิจเพื่อตามล่าและยึดทรัพย์สินของรัสเซียภายใต้การคว่ำบาตร

 

ผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียกล่าวว่า ผลกระทบทางการเงินอาจเพิ่งเริ่มต้น อ้างอิงจากรายงานของ Bloomberg ‘วลาดิเมียร์ โปทานิน’ บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในรัสเซียซึ่งยังไม่ถูกคว่ำบาตร ได้สูญเสียความมั่งคั่งไปถึง 1 ใน 4 หรือลดลงเหลือราว 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์

 

ยังมีอีกหลายคนที่เห็นความร่ำรวยของตัวเองละลายหายไปกับตา ไม่ว่าจะเป็น เกนนาดี ทิมเชนโก (Gennady Timchenko) พบความมั่งคั่งลดลงจาก 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์เป็น 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือหายไปครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว 

 

ส่วน ลีโอนิด มิเคลสัน (Leonid Mikhelson) ซีอีโอของ Novatek บริษัทก๊าซของรัสเซีย เสียความร่ำรวยไป 1.05 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้เขาเหลือทรัพย์สินมูลค่า 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์

 

อเล็กซีย์ มอร์ดาชอฟ (Alexei Mordashov) เจ้าสัวเหมืองแร่ชาวรัสเซียซึ่งถูกสหภาพยุโรปคว่ำบาตร และเห็นว่าความมั่งคั่งของเขาลดลงไป 5.6 พันล้านดอลลาร์ เหลือ 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยตามรายงานของ Forbes ชาวรัสเซียอย่างน้อย 12 คนได้หลุดพ้นจากรายชื่อมหาเศรษฐีในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ในขณะที่เหล่ามหาเศรษฐีเห็นความร่ำรวยของตัวเองลดลง Bloomberg รายงานว่า พวกเขาได้แก้เกมด้วยการซื้อ ‘นาฬิกาและเครื่องประดับหรู’ เพื่อรักษามูลค่าทรัพย์สินในมือ

 

ยอดขายในร้านค้าในรัสเซียของ Bulgari เพิ่มขึ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของร้านขายเครื่องประดับชาวอิตาลีกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า เครื่องประดับของ Bulgari เป็น ‘การลงทุนที่ปลอดภัย’ ในระยะสั้น

 

แม้ว่าแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคตั้งแต่ Apple Inc. ไปจนถึง Nike Inc. และบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง BP Plc, Shell Plc และ Exxon Mobil Corp. ถอนตัวออกจากรัสเซีย แต่แบรนด์หรูที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปก็ยังพยายามดำเนินการในประเทศต่อไป

 

Cartier ของ Richemont ยังคงจำหน่ายเครื่องประดับและนาฬิกา ส่วนนาฬิกา Omega ของ Swatch Group ยังคงมีวางจำหน่ายอยู่ เช่นเดียวกับ Rolex โดย “เราอยู่ที่นั่นเพื่อคนรัสเซีย ไม่ใช่เพื่อโลกการเมือง” แม่ทัพของ Bulgari กล่าว “เราดำเนินการในหลายประเทศที่มีช่วงเวลาของความไม่แน่นอนและความตึงเครียด”

 

เช่นเดียวกับทองคำซึ่งสามารถทำหน้าที่เป็นตัวเก็บมูลค่าและป้องกันภาวะเงินเฟ้อ นาฬิกาสุดหรูและเครื่องประดับสามารถถือหรือแม้กระทั่งเพิ่มราคาท่ามกลางความวุ่นวายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามและความขัดแย้ง ซึ่งนาฬิกายอดนิยมสามารถเปลี่ยนมือในตลาดรองได้ 3 หรือ 4 เท่าของราคาขายปลีก 

 

รายงานของ Morgan Stanley ชี้ว่ายอดขายในรัสเซียและการส่งออกจากรัสเซียไปต่างประเทศคิดเป็นน้อยกว่า 2% ของรายได้โดยรวมที่ LVMH และ Swatch Group และน้อยกว่า 3% ที่ Richemont ซึ่งเป็นระดับ ‘ค่อนข้างไม่มีนัยสำคัญ’ 

 

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรายได้ของชาวรัสเซียและความเหลื่อมล้ำทางความมั่งคั่ง โดยมีมหาเศรษฐีอยู่ไม่มากนัก โดยค่าจ้างรายเดือนเฉลี่ยในมอสโกอยู่ที่ประมาณ 113,000 รูเบิล (1,350 ดอลลาร์ที่อัตราแลกเปลี่ยนก่อนการบุกรุก) และต่ำกว่ามากในพื้นที่ชนบท

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising