‘พาณิชย์’ เตรียมตั้งโต๊ะหารือเอกชน 2 มีนาคม รับฟังและสรุปผลกระทบทั้งบวกและลบจากสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน พร้อมวางแผนเชิงรุกรับมือ ‘การค้า-การลงทุน-การส่งออก-ค่าครองชีพ’
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงประเด็นผลกระทบจากความสัมพันธ์รัสเซีย-ยูเครนว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ทำหน้าที่ร่วมกับทุกส่วนราชการของกระทรวงติดตามสถานการณ์ร่วมกับภาคเอกชนโดยใกล้ชิดแล้ว
สำหรับเรื่องราคาน้ำมันที่เป็นห่วงว่าจะพุ่งสูง อาจกระทบภาคการผลิตและราคาสินค้าอุปโภค-บริโภคในประเทศไทยได้ ปัจจุบันราคาน้ำมันยังทรงตัวอยู่ จากที่แตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เหลือประมาณ 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต้องติดตามสถานการณ์ต่อไป ขณะที่เรื่องค่าเงินรูเบิลของรัสเซียซึ่งมีความสำคัญต่อการนำเข้าส่งออกของไทย ถือว่ายังไม่เสถียร มีบางช่วงแข็งค่าและอ่อนค่า ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับทิศทางของสถานการณ์ในระยะต่อไป
จุรินทร์เปิดเผยอีกว่า ขณะนี้รัสเซียกำลังพิจารณานำเข้าสินค้าจากไทยบางรายการ ซึ่งต้องดูว่าค่าเงินยังมีความผันผวนมากน้อยแค่ไหน เมื่อค่าเงินรูเบิลมีความเสถียรแล้ว ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ โดยในภาพรวมยังไม่กระทบอย่างมีนัยสำคัญ และวันพุธนี้ (2 มีนาคม) ตนมอบหมายให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ประชุมร่วมกับภาคเอกชนอีกครั้ง เพื่อประเมินสถานการณ์ และจะเร่งแก้ปัญหาหน้างานร่วมกันให้เกิดผลดีที่สุด และกระทบในทางบวกกับการส่งออกนำเข้าไทยมากที่สุดและกระทบทางลบน้อยที่สุด
ขณะเดียวกัน รมว.พาณิชย์ ยังสั่งการให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์แบบเรียลไทม์ และปลัดกระทรวงพาณิชย์ประมวลผลรายงานรายวันทุกวันในระหว่างนี้ ทั้งนี้เพื่อปรับแผนรับมือสถานการณ์ทางการค้าการส่งออกและนำเข้า ทั้งในส่วนของรัสเซีย ยูเครน ยุโรป และอเมริกา
