×

รัสเซียมีแผนเตรียมโจมตี NATO ตามที่สหรัฐฯ กล่าวอ้างจริงหรือไม่

18.12.2023
  • LOADING...

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ระบุว่า “ถ้า วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ชนะสงครามในยูเครน เขาจะไม่หยุดเพียงแค่นั้น” ไบเดนยังคาดการณ์อีกว่า “ปูตินมีแนวโน้มที่จะโจมตีประเทศพันธมิตร NATO ในอนาคต…และเราจะปล่อยให้รัสเซียชนะสงครามครั้งนี้ไม่ได้”

 

คำถามที่ตามมาคือ รัสเซียมีแผนจะโจมตี NATO จริงหรือ?

 

ท่าทีของรัสเซีย

 

ปูตินปฏิเสธคำกล่าวอ้างของผู้นำสหรัฐฯ ที่ระบุว่ารัสเซียมีแผนการที่จะเตรียมโจมตี NATO ในอนาคต พร้อมทั้งชี้ว่า คำกล่าวอ้างนี้ถือเป็น ‘เรื่องไร้สาระโดยสิ้นเชิง’

 

โดยผู้นำรัสเซียให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ Rossiya ว่า รัสเซียไม่มีเหตุผล ไม่มีผลประโยชน์ทั้งในทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจ การเมือง รวมถึงการทหาร ที่จะทำให้รัสเซียตัดสินใจเผชิญหน้ากับบรรดาประเทศสมาชิก NATO ทั้งยังกล่าวเสริมว่า ไบเดนอาจกำลังพยายามปลุกกระแสความกลัวขึ้นมา เพื่อสร้างความชอบธรรมให้กับการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของสหรัฐฯ ภายในภูมิภาคดังกล่าว

 

นักวิชาการจำนวนไม่น้อยยังเชื่อว่า รัสเซียไม่น่าจะมีแผนการเตรียมโจมตีประเทศพันธมิตร NATO ที่ยึดโยงและเกี่ยวพันกันไว้ด้วยมาตรา 5 ที่บัญญัติไว้ว่า การโจมตีประเทศสมาชิกใน NATO ประเทศใดประเทศหนึ่ง ‘จะเท่ากับเป็นการโจมตีสมาชิกทุกประเทศ’ เพราะนั่นอาจทำให้รัสเซียมีต้นทุนที่ต้องจ่ายสูงมาก และอาจบานปลายกลายเป็นสงครามใหญ่ หากรัสเซียตัดสินใจที่จะทำการเช่นนั้นจริง

 

ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-รัสเซีย

 

ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศไม่ค่อยสู้ดีนักนับตั้งแต่ช่วงสงครามเย็น ก่อนที่ความสัมพันธ์จะยิ่งตกต่ำลงถึงขีดสุดในรอบหลายทศวรรษ นับตั้งแต่กองทัพรัสเซียตัดสินใจ ‘ปฏิบัติการพิเศษทางการทหาร’ เข้าไปรุกรานและทำสงครามในประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครนเมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2022

 

ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี สหรัฐฯ ถือเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยเหลือและสนับสนุนทางด้านเงินทุนและด้านการทหารให้แก่ยูเครน ขณะนี้สหรัฐฯ ส่งมอบแพ็กเกจความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนแล้วกว่า 1.11 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.87 ล้านล้านบาท) เพื่อช่วยยูเครนสกัดกั้นการรุกคืบของกองทัพรัสเซีย และช่วยให้ยูเครนยึดดินแดนบางส่วนคืนมาได้สำเร็จ

 

พัฒนาการล่าสุดของสงคราม

 

สงครามระหว่างกองทัพรัสเซียกับยูเครนนั้นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกของยูเครนที่นับเป็นสมรภูมิรบที่สำคัญมาโดยตลอด ขอบเขตความเสียหายและยอดผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งในขณะนี้สงครามเริ่มได้รับอิทธิพลจากความหนาวเย็นในยุโรป ทำให้การสู้รบทางการทหารอาจมีความยากลำบากมากยิ่งขึ้น 

 

ขณะที่ความพยายามของ โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ที่เดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเข้าพบกับไบเดน และร้องขอให้สหรัฐฯ ยังคงส่งมอบแพ็กเกจช่วยเหลือยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซียต่อไป แต่อาจไม่ได้เป็นไปอย่างที่หวัง หลังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกันบางส่วนขัดขวางแพ็กเกจความช่วยเหลือมูลค่า 6.14 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.14 ล้านล้านบาท) พร้อมเรียกร้องให้ทำเนียบขาวสหรัฐฯ หันมาจัดการกับปัญหาผู้อพยพในแถบพื้นที่บริเวณชายแดนของสหรัฐฯ ก่อนประเด็นภายนอกประเทศ 

 

ทางด้าน ดร.อดุลย์ กำไลทอง อาจารย์พิเศษด้านรัสเซียศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ระบุว่า “กองทัพรัสเซียมีความอดทนสูงมาก แม้เผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้าย” พร้อมทั้งคาดการณ์ว่า “สงครามรัสเซีย-ยูเครนในครั้งนี้อาจยืดเยื้อนานถึง 5 ปี และรัสเซียต้องการที่จะชนะสงครามครั้งนี้ให้ได้ โดยมองยูเครนเป็นตัวชี้วัดที่จะช่วยพิสูจน์ว่ารัสเซียจะยังคงเป็นมหาอำนาจโลกอยู่หรือไม่

 

“ขณะที่การเปลี่ยนแปลงด้านการเมืองในยูเครน ยุโรป รวมถึงสหรัฐฯ อาจเป็นชอร์ตคัตที่นำไปสู่จุดเปลี่ยนหรือลงนามอะไรกันได้ในอนาคต”

 

แฟ้มภาพ: Drew Angerer / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising