รัสเซียและจีนแสดงความเห็นตอบโต้ท่าทีของที่ประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ที่เมืองฮิโรชิมาของญี่ปุ่น เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังบรรดาผู้นำ G7 จับมือกันเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อรัสเซีย และแสดงความกังวลมากขึ้นในประเด็นเกี่ยวกับจีน โดยชี้ว่าจีนเป็นความท้าทายที่สำคัญ
เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ (Sergey Lavrov) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ชี้ว่า กลุ่ม G7 กำลังหลงระเริงในความยิ่งใหญ่ของตนเอง โดยมีวาระที่พุ่งเป้าขัดขวางรัสเซียและจีน
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ออกแถลงการณ์กล่าวหาผู้นำ G7 ว่า ‘ขัดขวางสันติภาพระหว่างประเทศ’ และชี้ว่า G7 จำเป็นต้อง ‘ไตร่ตรองถึงพฤติกรรมและแนวทางการเปลี่ยนแปลงของตนเอง’ ขณะที่แสดงท่าทีตอบโต้อย่างรุนแรงต่อประเทศเจ้าภาพการประชุมอย่างญี่ปุ่น และฝ่ายอื่นๆ สำหรับการตัดสินใจที่จะป้ายสีและโจมตีจีน
ทั้งนี้ ประเด็นการรุกรานยูเครนอย่างโหดเหี้ยมของรัสเซียและการรับมือต่อความท้าทายจากจีนที่เพิ่มขึ้น กลายเป็นประเด็นหลักในที่ประชุมผู้นำ G7 ตลอด 3 วันที่ผ่านมา (19-21 พฤษภาคม)
โดยผู้นำ G7 ได้ออกแถลงการณ์ร่วม แสดงจุดยืนร่วมกันในประเด็นจีน โดยเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการร่วมมือกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ยังต้องตอบโต้ ‘การปฏิบัติที่มุ่งร้าย’ และ ‘การบีบบังคับทางเศรษฐกิจ’ ของปักกิ่ง
ขณะเดียวกันยังให้คำมั่นว่าจะดำเนินการตามมาตรการคว่ำบาตรใหม่เพื่อจำกัดความสามารถของรัสเซียในการจัดหาเงินทุนและเชื้อเพลิงในการทำสงครามด้วย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศจีนยังเรียกร้องให้ผู้นำ G7 อย่ากลายเป็น ‘ผู้สมรู้ร่วมคิด’ ในการบีบบังคับทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ
‘การคว่ำบาตรฝ่ายเดียวครั้งใหญ่และท่าทีในการแบ่งขั้วทางเศรษฐกิจ ตลอดจนขัดขวางอุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่บีบบังคับทางเศรษฐกิจอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้การเมืองและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้ากลายเป็นอาวุธ’ แถลงการณ์ของจีนระบุ พร้อมทั้งชี้ว่า
‘ประชาคมระหว่างประเทศจะไม่ยอมรับกฎระเบียนของชาติตะวันตกที่ครอบงำโดย G7 ซึ่งพยายามแบ่งแยกโลกตามอุดมการณ์และค่านิยม’
ภาพ: Stefan Rousseau-WPA Pool / Getty Images
อ้างอิง: