×

ปลาเน่าตัวเดียวเหม็นไปทั้งบริษัท จะอยู่อย่างไรในองค์กรที่มีคนทำชื่อเสียงฉาวโฉ่ไว้

14.02.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • ชื่อเสียงขององค์กรที่ดีนอกจากจะนำพาความภูมิใจมาให้พนักงานแล้ว ยังเป็นสิ่งดึงดูดให้คนดีๆ คนเก่งๆ อยากมาทำงานด้วย พร้อมกับรักษาคนทำงานให้ไม่ไหลไปไหน แต่ถ้าชื่อเสียงองค์กรไม่ดี คนเก่าก็จะไม่อยากอยู่ คนใหม่ก็จะไม่อยากเข้ามา
  • ไม่มีองค์กรไหนที่ดีทั้ง 100% ในเมื่อมนุษย์มีความหลากหลาย มีดีมีเลวปะปนกันไป แต่เมื่อทำผิดแล้วองค์กรปฏิบัติต่อคนทำผิดอย่างไรนี่สิสำคัญมาก เพราะมันบอกว่าองค์กรให้คุณค่ากับอะไร เชื่อในสิ่งใด

Q: ดิฉันอยู่ในบริษัทที่ดันมีคนคนเดียวไปก่อเรื่องราวใหญ่โต จนทำให้เสียชื่อเสียงของทั้งบริษัท ดิฉันรู้สึกไม่สบายใจเลยค่ะ เมื่อก่อนเคยภูมิใจในงานที่ตัวเองทำ ตอนนี้เวลาเดินไปไหนก็รู้สึกว่าตัวลีบๆ ไม่กล้าบอกใครว่าทำงานที่ไหน ต่อให้ดิฉันไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการทำผิดก็เถอะ แต่ก็รู้สึกอายเหลือเกินที่อยู่ที่ทำงานเดียวกับคนผิด ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ

 

A: สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากกรณีของคุณก็คือ เราทุกคนไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว แต่ล้วนส่งผลกระทบถึงกันและกัน การกระทำของใครคนหนึ่งย่อมส่งผลต่อคนอื่นๆ ไปด้วย ดูอย่างบริษัทของคุณสิครับ มีคนทำผิดแค่เพียงคนเดียว แต่กลับส่งผลกระทบถึงคนทั้งองค์กร น่าเห็นใจนะครับที่คุณและอีกหลายคนต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ผมเป็นกำลังใจให้ครับ

 

เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณน่าจะเป็นตัวอย่างให้พวกเราได้ระมัดระวังการกระทำของตัวเอง เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าสิ่งที่เราทำจะส่งผลกระทบต่อคนอื่นอย่างไร และบางครั้งมันอาจไปไกลเกินกว่าที่เราคิด

 

การที่เรามาทำงานไม่ใช่เพียงเพราะเราต้องการเงินหล่อเลี้ยงชีวิต แต่เราต้องการความภูมิใจ ต้องการความหมายที่ทำให้เราอยากตื่นมาทำงานด้วย การได้อยู่ในองค์กรที่มีชื่อเสียงที่ดีก็ทำให้เราภูมิใจไปด้วยที่ได้เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร เช่นเดียวกัน ถ้าองค์กรที่เราทำงานอยู่มีชื่อเสียงในทางที่ไม่ดี ไม่มีธรรมาภิบาล หรือมีสมาชิกที่ไม่ดีอยู่ด้วย เราก็คงไม่รู้สึกภูมิใจที่อยู่ในองค์กรนี้

 

ชื่อเสียงขององค์กรที่ดีนอกจากพาความภูมิใจมาให้พนักงานแล้ว ยังเป็นสิ่งดึงดูดให้คนดีๆ คนเก่งๆ อยากมาทำงานด้วย พร้อมกับรักษาคนทำงานให้ไม่ไหลไปไหนมากมาย แต่ถ้าชื่อเสียงองค์กรไม่ดี คนเก่าก็ไม่อยากอยู่ คนใหม่ก็ไม่อยากเข้ามา อยู่ไปก็อายเขา เพราะทุกคนมองหาสังคมที่ดี สังคมที่ทำงานมีส่วนหล่อหลอมเรา เราอยู่ท่ามกลางคนแบบไหน เราก็จะมีแนวโน้มที่จะเป็นคนแบบนั้นไปด้วย

สิ่งสำคัญกว่านั้นและคุณน่าจะตั้งคำถามคือ เมื่อเกิดคนทำไม่ดีขึ้นแล้วองค์กรของคุณปฏิบัติต่อเรื่องนี้อย่างไร เพราะนั่นแหละครับจะเป็นสิ่งที่กลับมาตอบคุณได้ว่า คุณยังควรภูมิใจในองค์กรนี้ไหม

องค์กรทุกองค์กรมีชีวิตได้เพราะคน คนคือผู้ขับเคลื่อนองค์กรไป เพราะฉะนั้น องค์กรเป็นแบบไหนดูได้จากว่าคนทำงานในองค์กรนั้นเป็นคนอย่างไร ต่อให้เขียนไว้ในเว็บไซต์องค์กรหรือหนังสือชี้ชวนการลงทุนไว้สวยหรูแค่ไหนก็ไม่เท่ากับการดูว่าคนในองค์กรนั้นเป็นคนอย่างไร คนจึงเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าองค์กรนั้นเป็นองค์กรอย่างไรได้ดีที่สุด

 

แต่อย่างที่คุณเห็นนั่นแหละครับว่า แม้การกระทำของคนคนเดียวจะส่งผลต่อคนทั้งองค์กร แต่การกระทำของคนคนเดียวก็ไม่อาจแปลว่าคนทั้งองค์กรต้องเป็นคนแบบนั้นได้ เพราะมนุษย์มีความหลากหลาย ผมคิดว่าถ้าดูการกระทำของคนคนเดียวแล้วจะมาเหมารวมว่าคนทุกคนในองค์กรต้องเป็นแบบนั้นมันก็จะดูตื้นเขินไปหน่อย แต่แน่นอนแหละครับว่ามันมีผลเชื่อมโยงกันและกันอยู่

 

ผมคิดว่าประเด็นนี้สิ่งสำคัญมากไปกว่าใครไปทำบรรลัยอะไรไว้จนชื่อเสียงองค์กรย่อยยับ หรือมันเป็นแค่เรื่องของคนคนเดียวหรือเปล่า ผมคิดว่าสิ่งสำคัญกว่านั้นและคุณน่าจะตั้งคำถามคือ เมื่อเกิดคนทำไม่ดีขึ้นแล้วองค์กรของคุณปฏิบัติต่อเรื่องนี้อย่างไร เพราะนั่นแหละครับจะเป็นสิ่งที่กลับมาตอบคุณได้ว่า คุณยังควรภูมิใจในองค์กรนี้ไหม

 

ไม่มีองค์กรไหนที่ดีทั้ง 100% ในเมื่อมนุษย์มีความหลากหลาย มีดีมีเลวปะปนกันไป แต่เมื่อทำผิดแล้วองค์กรปฏิบัติต่อคนทำผิดอย่างไรนี่สิครับสำคัญมาก เพราะมันบ่งบอกว่าองค์กรให้คุณค่ากับอะไร เชื่อในสิ่งใด

 

ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนในองค์กรทุจริตแล้วองค์กรลงโทษเขา นั่นแปลว่าการทุจริตเป็นสิ่งที่องค์กรนี้ไม่ยอมรับ องค์กรนี้ยึดมั่นในความถูกต้อง แต่ถ้ามีคนในองค์กรทุจริตแล้วองค์กรก็ปล่อยไว้เฉยๆ ไม่ได้ทำอะไร ก็แปลว่าองค์กรนั้นส่งเสริมให้คนทุจริต อยากโกงก็โกงไปไม่มีใครว่า ไม่มีใครทำอะไร แปลว่าองค์กรนี้ไม่ได้ศรัทธาในความสุจริต เช่นเดียวกัน ถ้ามีคนในองค์กรทำดี องค์กรตอบแทนหรือสนับสนุนเขาอย่างไร นี่ก็เป็นอีกสิ่งที่บอกเราได้ครับว่าองค์กรนี้เป็นองค์กรแบบไหน

 

สิ่งที่องค์กรปฏิบัติต่อสถานการณ์ต่างๆ นี่แหละครับที่จะบอกเราว่าองค์กรนี้ยึดมั่นในเรื่องใดอยู่ ผมเองไม่ทราบว่าคนในองค์กรของคุณทำอะไรไว้ แต่สิ่งที่อยากให้คุณมองต่อคือ เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้ว องค์กรของคุณทำอะไรกับเขา

บางองค์กรเวลาที่เกิดวิกฤตต่อชื่อเสียงก็มัวแต่ไปดูความรู้สึกของคนภายนอกว่าเขาจะด่าเราว่าอะไร แต่ลืมดูความรู้สึกของคนในภายในองค์กรว่าเขารู้สึกอย่างไร การสื่อสารในองค์กรจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ไม่ควรมองข้าม

เวลาที่พนักงานทำสิ่งไม่ดีและมีผลกระทบต่อองค์กร องค์กรที่ดีจะไม่เพียงแค่ลงโทษคนผิดนะครับ แต่จะกลับมาตั้งคำถามว่า ระบบการทำงานหรือสังคมในบริษัทมีส่วนหล่อหลอมให้เขากระทำผิดแบบนั้นหรือเปล่า เช่น ถ้ามีคนทุจริตขึ้นมาก็ต้องกลับมาตั้งคำถามแล้วว่า ระบบการทำงานของเรามีช่องโหว่ตรงไหนไหม ทำไมเขาจึงทุจริตได้ บริษัทได้สร้างจิตสำนึกอะไรให้พนักงานหรือเปล่า บริษัทมีส่วนทำให้เกิดความผิดนี้อย่างไรไหม และบริษัทจะเรียนรู้และป้องกันไม่ให้เกิดปัญหานี้ใหม่อีกได้อย่างไร องค์กรที่ดีจะใช้โอกาสนี้ในการตรวจสอบองค์กรตัวเองเพื่อพัฒนาองค์กร

 

ผมคิดว่าเมื่อเกิดวิกฤตต่อภาพลักษณ์องค์กรแบบนี้ แน่นอนบริษัทของคุณคงมีการสั่งการมายังพนักงานทุกคนว่าห้ามให้สัมภาษณ์ ห้ามโพสต์พาดพิงองค์กรใดๆ เพื่อไม่ให้เพิ่มแรงกระเพื่อมหรือทำให้เรื่องมันใหญ่ขึ้นกว่าเดิม อันนี้เข้าใจได้ แต่ที่ต้องมาดูกันต่อคือ แล้วจากนี้บริษัทของคุณปฏิบัติอย่างไรกับวิกฤตที่เกิดขึ้น สิ่งนี้แหละครับจะบอกคุณได้ว่าคุณจะภูมิใจในการเป็นสมาชิกขององค์กรนี้ไหม และถ้ามันขัดกับจริยธรรมที่คุณยึดถือมาก ผมคิดว่าถึงตอนนั้นคุณคงมีคำตอบในใจว่าควรทำอย่างไร

 

บางองค์กรเวลาที่เกิดวิกฤตต่อชื่อเสียงก็มัวแต่ไปดูความรู้สึกของคนภายนอกว่าเขาจะด่าเราว่าอะไร แต่ลืมดูความรู้สึกของคนในภายในองค์กรว่าเขารู้สึกอย่างไร การสื่อสารในองค์กรจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ไม่ควรมองข้าม

 

สิ่งหนึ่งที่ผมดีใจก็คือการที่คุณ ‘รู้สึก’ ร่วมไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปด้วย คุณเห็นคนทำผิดแล้วคุณไม่สบายใจกับการกระทำแบบนั้น มันแสดงให้เห็นว่าคุณไม่ได้นิ่งเฉยหรือด้านชาต่อความผิด และก็หวังว่าคนแบบคุณจะมีเยอะในองค์กร

 

ถ้าองค์กรไม่มีท่าทีใดๆ ต่อปัญหาที่เกิดขึ้น ผมคิดว่าคุณสามารถตั้งคำถามนี้กับองค์กรได้นะครับ ว่าจะดำเนินองค์กรไปทางใดจากกรณีนี้ บางคนอาจจะกลัวที่จะตั้งคำถามกับผู้บริหารเพราะรู้สึกว่าจะเป็นการรนหาที่หรือเปล่า ถามแล้วกลัวมีปัญหา เพราะไม่รู้จะไปเหยียบเท้าใครเข้าไหม หรือรู้สึกว่าเราตัวเล็กไปที่จะถาม แต่อย่างที่ผมบอกครับว่า สิ่งเหล่านี้มันบอกหมดว่าองค์กรของคุณเป็นองค์กรแบบไหน องค์กรสร้างบรรยากาศแห่งความกลัวขึ้นมาจนพนักงานไม่กล้าแม้จะถามความเป็นไปขององค์กรที่จะส่งผลกระทบต่อเขาหรือเปล่า องค์กรสร้างบรรยากาศแห่งการสื่อสารเพื่อความเข้าใจกันไหม องค์กรเปิดกว้างที่จะรับฟังพนักงานด้วยความเชื่อว่าเสียงของทุกคนต้องได้รับการฟังเหมือนกันหรือเปล่า ฯลฯ

 

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ จากท่าทีขององค์กรที่มีต่อปัญหาดังกล่าวทำให้พนักงานตอบสนองอย่างไร นิ่งเฉย ปล่อยเลยตามเลย สนับสนุน หรือต่อต้าน ยังใช้จริยธรรมชุดเดียวกันหรือเปล่า ยังยึดถือความถูกต้องอยู่ไหม ท่าทีของคุณและพนักงานทั้งหมดที่กำลังบอกคุณว่าคุณกำลังอยู่ในสังคมแบบไหน องค์กรกำลังหล่อหลอมคนแบบไหนขึ้นมา

 

นั่นแหละครับคือคนที่เรากำลังเป็นอยู่

 

ลองคิดเล่นๆ นะครับ แต่คิดในมุมกลับนะครับ ว่าถ้าการที่คนคนเดียวทำความผิดแล้วทำให้องค์กรของคุณดูแย่ได้ขนาดนี้ ลองคิดดูสิครับว่าถ้าคุณและอีกหลายคนทำดีจะมีพลังทำให้องค์กรดีขึ้นขนาดไหน และไกลไปกว่าองค์กร มันจะทำให้สังคมของเราดีขึ้นขนาดไหน

 

* ส่งคำถามดราม่าในที่ทำงานที่คุณสงสัยมาได้ที่อีเมล [email protected] หรืออินบ็อกซ์ไปที่ FB: ท้อฟฟี่ แบรดชอว์ 

 

ภาพประกอบ: Nisakorn Rittapai 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising