ช่วงปลายปี 2563 ที่ผ่านมา วงการฟู้ดเดลิเวอรีได้มีน้องใหม่รายเล็กเกิดขึ้นมา นั่นคือ Robinhood ซึ่งพัฒนาโดยบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ในเครือ SCB 10X ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ไม่คิดค่า GP (Gross Profit) หรือค่าคอมมิชชันที่ร้านอาหารต้องจ่ายให้กับแอปฯ สั่งอาหาร ซึ่งกลายเป็นข้อแตกต่างที่ไม่เหมือนกับฟู้ดเดลิเวอรีรายอื่น
ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการครบ 88 วันหลังจากที่ Robinhood เปิดให้บริการ ได้มีการอัปเดตตัวเลขซึ่งนับว่าเกินจากเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งมีลูกค้าที่ลงทะเบียน 5.8 แสนราย, ร้านอาหาร 5.5 หมื่นราย, คนขับ 1.15 หมื่นราย, ยอดบิลสูงสุด 3,528 บาท, มีเมนูที่อยู่ในแอปฯ 1.6 ล้านเมนู
โดยท็อป 5 คำค้นหายอมนิยมคือ แซลมอน ซึ่งจากข้อมูลพบว่ามียอดสั่งซื้อรวมกันแล้วกว่า 5 ตัน, โจ๊ก, ก๋วยเกี๋ยว, ข้าวมันไก่, และส้มตำ ส่วน 5 ร้านอาหารที่ขายดีได้แก่ มนต์นมสด (เสาชิงช้า), รุ่งเรืองตั๋ง ก๋วยเตี๋ยวหมูสุขุมวิท 26 (เจ้าเก่า) ห้องหัวมุม, Oba San 168, หน่องริมคลอง และ ไก่ทอดเจ๊กี (โปโล) ส่วน 3 โซนที่มีออร์เดอร์เยอะที่สุดคือ จตุจักร ห้วยขวาง และคลองเตย
ธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด ระบุถึงทิศทางในอนาคตของ Robinhood ว่า จะต้องหาเซกเมนต์ใหม่ๆ เข้ามาตอบโจทย์ อย่างเช่นที่ผ่านมาได้รวบรวมร้านสำหรับคนที่นอนดึกแล้ว ตอนนี้ได้เพิ่มกลุ่มร้านอาหารเช้าขึ้นมา ซึ่งการเติมเซกเมนต์เหล่านี้ขึ้นมา จะสร้างความแตกต่างให้กับตัว Robinhood เอง
โดยฟีเจอร์ในอนาคตที่กำลังจะตามมาคือ การเปิดให้ลูกค้าสามารถสั่งมากกว่า 1 ออร์เดอร์ ซึ่งคาดว่าฟีเจอร์นี้อาจจะได้ใช้ภายในไตรมาส 1 นอกจากนี้ในแง่ของการจ่ายเงินจะเปิดการเชื่อมต่อให้สามารถใช้โมบายล์แบงกิ้งมาชำระเงินได้
“อีกหนึ่งหัวใจของเราคือการกระตุ้นให้ร้านมอบส่วนลดให้กับลูกค้า ซึ่งจากร้านค้าทั้งหมดมีเข้าร่วมแล้ว 8 พันแห่ง มีส่วนลดตั้งแต่ 8-30% ซึ่งจุดนี้ถือเป็นเสน่ห์ที่ทำให้เราแตกต่างจากคนอื่นๆ ซึ่งเราจะกระตุ้นร้านค้าให้เข้าร่วมมากขึ้น”
ในแง่ของบริการนั้น Robinhood จะเริ่มนำร่องในการซื้อสินค้าในตลาดสด เบื้องต้นมีตลาดที่เข้าร่วมได้แก่ ตลาดเสนีย์ ฟู้ดมาร์เก็ต, ตลาดถนอมมิตร, ตลาดมีนบุรี และตลาดบางใหญ่ ในส่วนของคนขับนั้นกำลังจะมีการนำร่องให้เช่ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เบื้องต้นจะมีประมาณ 200-400 คันด้วยกัน สำหรับราคานั้นคาดว่าจะอยู่หลัก 100 ต้นๆ โดยจะมีจุดเปลี่ยนแบตเตอรี่ประมาณ 500 จุดทั่วกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังวางแผนที่จะขยายไปสู่ต่างจังหวัดด้วย ภายในปีนี้อาจจะเห็นทั้งหมด 5 จังหวัดด้วยกัน
ภายในสิ้นปีนี้ Robinhood วางเป้าหมายการเพิ่มทรานแซ็กชันต่อวันเป็น 2-3 หมื่นรายการ ร้านค้าต้องการเพิ่มเป็น 1 ล้านราย และคนขับเพิ่มเป็น 2 หมื่นราย ด้วยเป้าหมายนี้ทำให้งบลงทุนเบื้องต้นที่วางไว้ปีละ 150 ล้านบาทอาจจะไม่เพียงพอ ดังนั้น Robinhood จึงต้องกลับไปคุยกับทาง SCB ก่อนว่าจะเพิ่มงบได้อีกเท่าไร เพื่อให้สามารถรองรับการเติบโตได้
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
