แนวคิด ‘The Gated Community’ เป็นเทรนด์และแนวคิดที่กำลังมาแรง โดยได้รับความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะจากบรรดาผู้คนที่กำลังมองหาโครงการที่อยู่อาศัยคุณภาพระดับพรีเมียม และอย่างเป็นพิเศษก็คือ กลุ่มพ่อแม่ผู้ปกครอง ด้วยแนวคิดดังกล่าวนั้นชูจุดเด่นในเรื่องการออกแบบพื้นที่ เพื่อรังสรรค์คอมมูนิตี้ที่สงบ เป็นส่วนตัว ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง นอกจากแวดล้อมด้วยสังคมที่ดีแล้ว ยังต้องออกแบบด้วยความใส่ใจ รองรับทุกความต้องการที่แตกต่างของกลุ่มลูกค้าทุกวัย 

 

The Gated Community ชุมชนสุด​​เอ็กซ์คลูซีฟ

 

 

แนวคิดของ Gated Community นั้นกำเนิดมาตั้งแต่ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 หากจะว่ากันตามความหมายตรงตัวแล้วก็คือ ‘ชุมชนปิดที่มีการกั้นขอบรั้วไว้อย่างเป็นสัดส่วน’ ซึ่งเป็นลักษณะของพื้นที่อยู่อาศัยรูปแบบ​​เอ็กซ์คลูซีฟ เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยรั้วรอบขอบชิดเฉพาะกลุ่มคนที่เป็นสมาชิกของคลับ หรือกลุ่มสมาคมคนในสังคมชั้นสูงเท่านั้น จนภายหลังในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 ไอเดียเช่นนี้ก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนสู่ลักษณะของหมู่บ้านจัดสรรอย่างที่เราคุ้นเคยกัน โดยเริ่มต้นจากนายทุนชาวอเมริกัน และนั่นเองที่ทำให้ไอเดียของการเกิดหมู่บ้านจัดสรรนั้นแพร่กระจายไปทั่วโลก ทั้งนี้ The Gated Community จะมีความโดดเด่นในลักษณะของหมู่บ้านปิด มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้ชีวิตทั้งในบ้านและนอกบ้านได้อย่างสบายใจ และเน้นบรรยากาศของความหรูหราและเป็นส่วนตัว ชุมชนที่อยู่อาศัยแบบ​​เอ็กซ์คลูซีฟนี้มีข้อดีด้วยกันหลายประการ ได้แก่ 

 

• ความสงบ เป็นส่วนตัว เพราะโดยส่วนใหญ่มักมีจำนวนหลังคาเรือนไม่มากนัก 
• เชื่อมั่นได้ในเรื่องของความปลอดภัย ด้วยมีระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดและแข็งแรง ดูแลอย่างทั่วถึง สามารถใช้ชีวิตทั้งในบ้านและนอกบ้านได้อย่างสบายใจ
• แวดล้อมไปด้วยสังคมที่ดี เพราะความพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟสามารถการันตีคุณภาพของเพื่อนบ้านได้เป็นอย่างดี

 

สำหรับ Gated Community ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวมีความสำคัญอันดับต้นๆ

 

คอนโดมิเนียมกลางกรุงแห่งแรกภายใต้คอนเซปต์ Luxury Gated Community Residence

ไม่ใช่เพียงแต่บ้านเดี่ยวเท่านั้น ลองจินตนาการถึงโครงการคอนโดมิเนียมที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อครอบครัวที่มีลูก ซึ่งแน่นอนว่า ตอนนี้หลายๆ ครอบครัวอาจจะยังไม่มีแผนการไกลไปถึงขั้นนั้น แต่ THE STANDARD ก็ยังอยากจะให้คุณๆ ได้รับทราบข้อมูลนี้กันอยู่ดี เพราะมันจะต้องมีประโยชน์มากสำหรับอนาคตข้างหน้าแน่ๆ โดยเฉพาะในวันหนึ่งเมื่อคุณต้องมีลูก สิ่งที่พ่อแม่ส่วนใหญ่ล้วนปรารถนาเช่นเดียวกันก็คือ การสามารถมอบโอกาสในอนาคตที่ดีที่สุดสำหรับลูกๆ ทั้งโอกาสทางการศึกษา เรียนรู้ และโอกาสทางสังคม ซึ่งเป็นรากฐานที่สำคัญให้กับชีวิตในวันข้างหน้าของลูกๆ ดังนั้นเมื่อลูกถึงวัยเข้าเรียน การมองหาโรงเรียนดีๆ จึงเป็นเหตุผลควบคู่ขนานไปกับการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของพ่อแม่ยุคใหม่ผู้มองการณ์ไกล

 

ปัจจุบันโรงเรียนนานาชาติมักจะเป็นตัวเลือกสำคัญในลำดับต้นๆ สำหรับพ่อแม่สมัยใหม่ที่ต้องการให้ลูกๆ ได้เรียนในหลักสูตรที่เป็นมาตรฐานสากล อันจะนำไปสู่โอกาสทางการศึกษา และต่อยอดใช้ชีวิตในต่างประเทศในอนาคต ทว่า คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่อยากทนเห็นลูกเหนื่อย หรือเสียเวลาติดอยู่บนรถนานๆ เหมือนอย่างที่ชาวเมืองหลวงจำนวนมากต้องเป็นกัน เหตุผลนี้เองที่เหล่าบรรดาผู้ปกครองตัดสินใจซื้อคอนโดในกรุงเทพฯ ให้ลูกเสียเลย เป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตและลงทุนเพิ่มเวลาชีวิตในแต่ละวันของทั้งคุณพ่อคุณแม่และคุณลูกอีกด้วย

 

โดยปัจจัยที่ขาดไม่ได้คือ โรงเรียนต้องอยู่ไม่ไกลจากบ้านและเดินทางสะดวก แต่การจะเลือกซื้อคอนโดสักห้องเพื่ออยู่อาศัยกับคนในครอบครัวที่เรารัก สิ่งสำคัญที่ควรจะคำนึงถึงต้องไม่ใช่แค่ได้โครงการที่ดี หากจะต้องได้สังคมคุณภาพ และมีสภาพแวดล้อมที่ดี ส่งเสริมการเรียนรู้ของลูกๆ อีกด้วย ทั้งนี้สิ่งที่จะขาดไปเสียไม่ได้อีกอย่างคือ ‘ความปลอดภัย’ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด 

 

 

โครงการ ‘RHYTHM Charoenkrung Pavillion’ นับเป็นคอนโดแห่งแรกในกรุงเทพฯ จาก AP ที่ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ ‘The Gated Community’ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกเจเนอเรชัน ชูจุดเด่นในเรื่องการออกแบบพื้นที่เพื่อคอมมูนิตี้ที่เป็นส่วนตัว ปลอดภัย ออกแบบด้วยความใส่ใจ รองรับทุกความต้องการที่แตกต่างของกลุ่มลูกค้าทุกวัย โดยให้ความสำคัญกับเวลาและกิจกรรมของเด็กและครอบครัวเป็นหลัก เพื่อเติมเต็มชีวิตในแบบ City Family Lifestyle ของคนยุคใหม่ให้สมบูรณ์ โครงการนี้ได้นำเอา Insight ความต้องการของพ่อแม่ผู้ปกครองมาออกแบบพื้นที่ส่วนกลาง ให้รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยเมื่อได้เห็นลูกวิ่งเล่นได้อย่างอิสระ ได้มองเห็นลูกปลดปล่อยจินตนาการการเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่และปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

เจริญกรุง ย่านเมืองเก่าสุดฮิป โลเคชันในฝันใจกลางกรุงของพ่อแม่ผู้ปกครอง

ย่านเจริญกรุง ย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายความอบอุ่นในวันเก่าก่อนที่กำลังค่อยๆ ฟื้นกลับคืนมามีชีวิตชีวา กำลังเป็นย่านฮิปที่มีการพัฒนา ผสมผสานความเก่าและทันสมัยเอาไว้ได้อย่างมีสีสัน ทั้งยังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแหล่งรวมสถานศึกษาชั้นนำที่มีชื่อเสียงมากมายหลายแห่ง เช่น โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนอัสสัมชัญ บางรัก และโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่ (ริเวอร์ไซด์) ซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากที่ต้องการส่งบุตรหลานเข้าเรียน ก็อยู่ตรงข้ามกับโครงการ RHYTHM Charoenkrung Pavillion ด้วยเช่นกัน โดยห่างออกไปเพียงแค่ 100 เมตรเท่านั้น 

 

ที่สำคัญโครงการนี้ยังได้มีการออกแบบตามแนวคิด Luxury Gated Community Residence ซึ่งนอกจากจะคิดขึ้นมาเพื่อครอบครัวที่มีลูกแล้ว ยังตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกเจเนอเรชันอีกด้วย เช่น

 

1. ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นได้อย่างอิสระ รองรับการพักผ่อนของคนทุกวัย 

ด้วยความกว้างขวางแต่มีขอบเขต และกั้นปิดจากคนนอกและทางรถ แยกทางเดินอย่างเป็นสัดส่วน เพื่อให้อยู่ร่วมกันอย่างสะดวกสบาย ทั้งยังกั้นแบ่งพื้นที่ด้วยต้นไม้ (Tree Boundary) ออกจากเส้นทางรถยนต์ เป็น Boundary Level ป้องกันฝุ่นจากควันรถและ PM2.5 สร้างอากาศบริสุทธิ์ อีกทั้งยังใส่ใจในการเลือกสรรพันธุ์ไม้ภายในโครงการที่มีคุณสมบัติช่วยกรองอากาศ เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติที่เป็นตัวช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กๆ ตลอดจนการออกแบบพื้นที่เพื่อรองรับการพักผ่อนอย่างแท้จริงของคนทุกวัย 

 

2. เอื้อต่อการให้ลูกได้สัมผัสใกล้ชิดธรรมชาติ

แนวคิด ‘Shinrin Yoku’ ของทางญี่ปุ่น ที่พูดถึงการนำธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไม่ว่าจะเป็นรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส สามารถฟื้นฟูกลไกลต่างๆ ของร่างกายได้ ช่วยลดความเครียด ส่งเสริมสุขภาพจิต ความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังช่วยให้มีชีวิตยืนยาวขึ้น ทางโครงการจึงได้ออกแบบพื้นที่ให้มีฟังก์ชันเสริมการเรียนรู้ ทําให้พื้นที่สีเขียวทั้งหมดเชื่อมต่อกันทางแนวนอน ด้วยเล็งเห็นว่าที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองที่เอื้อต่อการให้ลูกได้สัมผัสใกล้ชิดกับธรรมชาตินั้นเป็นสิ่งสำคัญ ในการต่อยอดจินตนาการไปสู่การเรียนรู้นอกห้องเรียน นอกจากนี้การออกแบบแลนด์สเคปของโครงการ ยังได้คัดสรรพันธุ์ไม้ที่มีคุณสมบัติฟอกอากาศ ดักจับฝุ่น และดูดสารพิษ ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ และผู้อยู่อาศัยทุกคนได้รับอากาศที่มีออกซิเจนบริสุทธิ์ จึงคลายกังวลเรื่องมลพิษที่อาจจะก่อปัญหาต่อระบบหายใจของทุกคนในครอบครัวได้อีกด้วย  

 

3. พื้นที่รองรับกิจกรรมเสริมพัฒนาการและสร้างทักษะพื้นฐานในชีวิต 

ทางโครงการยังจัดให้มีห้อง Study Pavillion, Social Pavillion และ Reading Pavilion เพื่อปล่อยให้ลูกได้ ‘อยู่’ และ ‘ใช้เวลา’ ในพื้นที่ส่วนตัว เช่น เวลาลูกเรียนพิเศษ เด็กๆ ก็ต้องการพื้นที่ส่วนตัวกับครูสอนพิเศษเพื่อให้มีสมาธิ หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ลูกๆ ต้องการฝึกทักษะพิเศษอย่างการฝึกซ้อมดนตรี เด็กๆ ก็อาจจะต้องการความเป็นส่วนตัวเพื่อลดความกดดัน ที่อาจจะทำให้เสียสมาธิ และในขณะที่ลูกมีโอกาสปล่อยพลังและความคิดสร้างสรรค์ของเขาได้อย่างเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่เองที่ยังต้องให้เวลาทั้งกับงานและครอบครัว ก็สามารถทิ้งลูกไว้ได้โดยไม่ต้องกังวล แต่ก็ยังมองเห็นลูกจากไกลๆ ได้ โดยไม่เสียโฟกัสการทํางานส่วนตัว

 

4. พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ยังออกแบบเพื่อรองรับกิจกรรมสำหรับคนทุกวัย

แม้ว่าพื้นที่ส่วนกลางในส่วนที่กล่าวมาจะได้รับการออกแบบมาเพื่อส่งเสริมกิจกรรมและพัฒนาการของเด็กๆ ทว่า คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะที่นี่ยังออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของสมาชิกทุกคนในครอบครัวด้วยเช่นกัน เช่น เวลาที่เราส่งลูกไปโรงเรียนแล้ว ก็ไม่ต้องเดินทางไปไหนไกล สามารถเข้าใช้พื้นที่ส่วนกลางภายในคอนโดเพื่อพักผ่อนได้เต็มที่ ไม่ว่าจะโทร.สั่งอาหาร Delivery มานั่งกินกับเพื่อนๆ หรือออกกำลังกาย เล่นโยคะ ระหว่างรอลูกเลิกเรียนก็สะดวก แม้แต่ในสวนก็มีพื้นที่นั่งในร่มและใต้ต้นไม้ สําหรับพ่อแม่เวลามาเฝ้าดูลูก 

 

นับได้ว่าเป็นคอนโดแห่งแรกในกรุงเทพฯ ที่ออกแบบภายใต้คอนเซปต์ Luxury Gated Community Residence และสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าทุกเจเนอเรชันได้อย่างแท้จริง 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล