×

ม็อบราชประสงค์ชุมนุมปราศรัยแสดงเชิงสัญลักษณ์ เรียกร้อง ส.ว.-กกต. แสดงจุดยืนเพื่อประชาธิปไตยของประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
28.07.2023
  • LOADING...

วานนี้ (27 กรกฎาคม) บรรยากาศการชุมนุมที่บริเวณแยกราชประสงค์ หน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดำริ (ฝั่งขาออก) เวทีปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุมหลากหลายเครือข่าย โดยมี นธนพร วิจันทร์ และ ธัชพงศ์ แกดำ ขึ้นปราศรัยเปิดเวที ขณะเดียวกันมีมวลชนกลุ่มหนึ่งขึ้นไปบนสะพานลอยเพื่อติดป้ายผ้าข้อความ ส่วนบนพื้นผิวถนนมีมวลชนนำสีชอล์กไปขีดเขียนข้อความโจมตีการทำงานของสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.)

 

ต่อมาเวลา 19.00 น. มีการแสดงเพอร์ฟอร์แมนซ์อาร์ต โดยให้แนวร่วมหญิง 2 คน ผูกตัวเองด้วยเชือก ราดด้วยสีแดง แล้วให้ทีมงานหย่อนตัวลงมาจากสะพานลอยเหนือเวทีปราศรัย โดยสื่อถึงผู้เสียชีวิตที่ถูกแขวนคอ ซึ่ง สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม บรรยายการแสดงนี้ว่า ตั้งแต่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกทำรัฐประหารเมื่อปี 2549 การสลายชุมนุมมวลชนเสื้อแดงปี 2553 จนถึงการที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ยุติการปฏิบัติหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย นั่นคือการที่ผู้มีอำนาจทำลายประชาธิปไตยและอนาคตของประเทศแห่งนี้ 

 

จากนั้นสมยศขอให้ทุกคนร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้กับประชาธิปไตยในประเทศที่ถูกกระทำมาตลอด และประชาชนที่เรียกร้องประชาธิปไตยซึ่งถูกยิงเสียชีวิตบนถนนราชดำเนินและราชประสงค์แห่งนี้ ขอให้ ส.ว. คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และศาลรัฐธรรมนูญ ได้เห็นภาพความเจ็บปวดของประชาชน 

 

และขอเรียกร้องให้พวกท่านออกไปเพื่อให้ประชาธิปไตยเดินต่อไป ก่อนที่ พัชนีย์ คำหนัก แกนนำเครือข่ายสังคมนิยมแรงงาน ขึ้นปราศรัยช่วงหนึ่งระบุว่า การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเป็นการต่อสู้เพื่อชีวิตที่ดี ประชาชนคนทำงาน 38 ล้านคนขับเคลื่อนสังคมและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ แต่มีคนเพียงน้อยนิดที่รอกัดกินผลประโยชน์อยู่ที่รัฐสภา เรายังมีอีกพลังหนึ่งที่ไม่ใช่แค่การชุมนุมเรียกร้อง เป็นพลังที่เรายังไม่ได้งัดออกมา นั่นคือพลังของการนัดหยุดงานทั่วไป เรายังไม่ได้เอาเครื่องมือหรืออาวุธนี้ออกมาใช้ อยากจะให้กรุงเทพฯ เป็นอัมพาตหรือไม่ เพื่อให้ชนชั้นปกครองรู้ ถ้าเรารวมกลุ่มกันเหนียวแน่นในวันนี้จะได้เห็นศักยภาพของพวกเรา 

 

ด้าน สมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ขึ้นปราศรัย โดยกล่าวว่า 4 ปีของการเป็นฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกลได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ทางการเมืองไว้อย่างน่าสนใจมาก เขาสามารถนำเอาปัญหาของประชาชน ปัญหาชาวบ้านเข้าสู่กระบวนการรัฐสภาได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมย้ำว่าส่วนตัวไม่ได้เชียร์พรรคก้าวไกล แต่อยากเห็นพรรคการเมืองในประเทศไทยเป็นเช่นนี้

 

ขณะเดียวกันวันนี้ตนเองได้เข้าไปยื่นหนังสือถึง วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ขอให้กล้าหาญในการทำหน้าที่ อย่าให้เป็นเหมือนวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมา นำข้อบังคับมามีสถานะสูงกว่ารัฐธรรมนูญได้อย่างไร 

 

ขณะเดียวกัน ตัวแทน กป.อพช. ได้อ่านจดหมายเปิดผนึกถึงพรรคเพื่อไทย ขอให้ยึดมั่นฉันทมติของประชาชน จัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคให้สำเร็จ โดยระบุว่า 

 

กป.อพช. ไม่เห็นด้วยกับท่าทีของพรรคการเมืองและ ส.ว. เพราะยิ่งจะเป็นการฉุดรั้งไม่ให้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศได้อย่างที่ควรจะเป็น จึงมีข้อเรียกร้องดังนี้

 

ข้อที่ 1 พรรคการเมืองและ ส.ว. จะต้องหยุดสร้างเงื่อนไขและเบี่ยงเจตนาการเสนอนโยบายเรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ว่าเป็นแนวคิดที่ต้องการล้มล้างสถาบันฯ เพราะเป็นที่ทราบกันดีกว่าเป็นเพียงข้อเสนอที่ต้องการใช้รัฐสภาเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ และเป็นการรักษาไว้ซึ่งพระราชอำนาจและพระเกียรติของพระบรมวงศานุวงศ์ให้คงอยู่กับการเมืองไทยได้อย่างสง่างาม และไม่ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่พวกท่านทั้งหลายกำลังใช้กันอยู่ในเวลานี้

 

และข้อที่ 2 ขอให้พรรคเพื่อไทยยืนหยัดการจัดตั้งรัฐบาลร่วมทั้ง 8 พรรคเดิม ตามที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ และอย่าหวั่นไหวต่อแรงกดดันใดๆ ในขณะนี้ ซึ่งเราเชื่อว่าหนทางนี้เท่านั้นที่จะนำพาประเทศนี้ไปสู่ทางออกที่ดีกว่าได้

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising