สำหรับคนที่อยู่ในช่วงวางแพลนว่าสิ้นปีจะไปเที่ยวไหนดี เอาที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ขับรถไปไม่กี่อึดใจก็ถึง มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ทั้งในเชิงธรรมชาติและวัฒนธรรม ของกินอร่อย ที่พักดี แนะนำว่าลองขับรถมาปักหมุดที่จังหวัดราชบุรีดูสักครั้ง เพราะที่นี่ไม่ได้มีดีแค่สวนผึ้ง ฟาร์มแกะ และโอ่งมังกร อย่างที่หลายคนคิด

 

ด้วยความที่ราชบุรีเป็นจังหวัดที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตนัก ทำให้การขับรถในจังหวัดหรือละแวกนี้เป็นไปได้ง่าย ถนนหนทางต่างๆ ดำเนินสะดวก ไม่ต้องกลัวว่าจะเจอเส้นทางวิบากหรือถนนแคบๆ ที่ต้องขับรถเบียดไปมา ข้อดีอย่างหนึ่งของราชบุรีคือ เป็นจังหวัดที่มีแม่น้ำแม่กลองไหลผ่าน ที่นี่จึงรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมและวิถีชีวิตริมฝั่งน้ำ เพียงขับรถจากกรุงเทพฯ ไป 1 ชั่วโมง 45 นาที ก็ถึง ขับรถชิลๆ เปิดเพลงฟังยังไม่ทันเหนื่อยก็เข้าถึงตัวเมืองราชบุรีแล้ว  

   

(บน) เทคโนโลยีในรถยนต์สมัยนี้ทำให้การขับรถทางไกลสนุกขึ้นเยอะ (ล่าง) หอนาฬิกาเมืองราชบุรี

 

เมืองสงบ รุ่มรวยอารยะริมฝั่งแม่น้ำแม่กลอง

บรรยากาศภายในเมืองค่อนข้างเรียบง่าย เป็นวิถีชีวิตที่ถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่มีตึกสูงระฟ้ามารบกวนสายตา บวกกับความที่เป็นเมืองเก่า ทำให้ราชบุรีมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอารามหรือถ้ำเก่าแก่ แต่ที่เป็นไฮไลต์สร้างชื่อให้จังหวัดราชบุรีเลย ต้องยกให้ ตลาดน้ำดำเนินสะดวก ที่มีอายุนานกว่า 100 ปีเศษ แม้ทุกวันนี้ตลาดน้ำดำเนินสะดวกจะเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตค่อนข้างมาก เพราะได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเต็มตัว ดังนั้นจึงต้องทำใจ ถ้าจะแวะไปแล้วเจอฝูงชนเบียดเสียดแย่งกันเดิน (ทั้งการจราจรในน้ำและบนบก) แนะนำว่าควรแวะไปตั้งแต่เช้า เพราะนอกจากแดดจะไม่แรงแล้ว ช่วงเช้ายังมีเรือมาขายสินค้ามากกว่าช่วงเวลาอื่นๆ แต่หากว่ามาจนเบื่อ แค่อยากล่องเรือชมชีวิตความเป็นอยู่ของสองฝั่งแม่น้ำแม่กลอง ถ้าอย่างนั้นเราแนะนำว่าตัดไปเช่าเรือจากตลาดน้ำคลองลัดพลีเลยจะสะดวกและรวดเร็วกว่าการฝ่าฝูงชนที่ตลาดน้ำ

สำหรับผู้ที่อยากฮิปขึ้นมาหน่อย ไร่ปลูกรัก ฟาร์มเกษตรอินทรีย์ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่เช็กอินซึ่งมาได้ทั้งครอบครัว นอกจากจะมีสินค้าออร์แกนิกที่ทางไร่ปลูกเอง และอาหารแปรรูปจากฟาร์มวางจำหน่ายในราคาย่อมเยาแล้ว (รับรองว่าซื้อที่นี่ถูกกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตในเมือง) ไร่แห่งนี้ยังมีกิจกรรมเชิงเกษตรให้ทำมากมาย เช่น ทัวร์ฟาร์มออร์แกนิก การทำผ้ามัดย้อม การสอนทำอาหารที่ใช้วัตถุดิบในฟาร์ม การปลูกผักที่ได้ผักกลับไปปลูกเองที่บ้านด้วย อย่างวันนั้นที่แวะไปก็มีเด็กๆ กลุ่มใหญ่มาเรียนรู้และสัมผัสชีวิตชาวไร่ชาวสวน ซึ่งเรามองว่าเป็นการใช้เวลาว่างที่เป็นประโยชน์มากกว่านั่งจับเจ่าอยู่ในห้างสรรพสินค้าตั้งเยอะ

 

 

ลายแทงถิ่นศิลปะ

นอกเหนือจากกิจกรรมที่แนะนำไป ระยะหลังราชบุรีถูกโปรโมตหนักมากเรื่องการเป็นเมืองศิลปะ เพราะมีงานศิลปะกระจายตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ในจังหวัด นำโดยหัวหอกเด่นอย่าง หอศิลป์ร่วมสมัย ดี คุ้น ซึ่งเป็นหอศิลป์ร่วมสมัยแห่งแรกของจังหวัด ที่นี่นอกจากจะมีนิทรรศการหมุนเวียนเปลี่ยนมาแสดงแล้ว ยังเป็นคาเฟ่ที่มีกาแฟและขนมไว้บริการ รวมถึงกิจกรรมสนุกๆ อย่างการฉายหนังกลางแปลงริมแม่น้ำแม่กลองอีกด้วย รวมถึง โรงงานเซรามิกเถ้าฮงไถ่ ที่เปิดมานานกว่า 80 ปี แต่เดิมที่นี่เป็นโรงงานผลิตโอ่งและกระถางเก่าแก่ประจำจังหวัด แต่ด้วยการใช้งานที่เปลี่ยนไปของคนในยุคปัจจุบัน ทำให้โรงงานแห่งนี้พลิกวิกฤตมาเป็นโอกาส ด้วยการเปิดส่วนที่ให้นักท่องเที่ยวผู้สนใจงานปั้นหรืองานเซรามิกได้เข้ามาชมขั้นตอนการผลิต เริ่มตั้งแต่การปั้นไปจนถึงการวาดลาย ควบคู่กับการจำหน่ายสินค้า รวมถึงการจัดมุมถ่ายรูปสวยๆ ที่มีเซรามิกเป็นตัวเอกไว้อีกด้วย

 

หอศิลป์ร่วมสมัยดีคุ้น มีส่วนของคาเฟ่ไว้บริการด้วย ภาพจากเพจ Tao Hong Tai : d Kunst

 

ต่อด้วย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติราชบุรี โดดเด่นด้วยอาคารสีชมพูแสนหวานที่สร้างมาตั้งแต่รัชกาลที่ 6 ใกล้กันมีงานปั้น ไอ้จุด (I-Jud) หรือสุนัขลายจุดขนาดใหญ่สูง 3 เมตร ที่เปรียบเสมือนไอคอนแห่งศิลปะของราชบุรี ผลงานชิ้นนี้เป็นฝีมือของ วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ นักออกแบบเซรามิก และศิลปินเจ้าของรางวัลศิลปาธร (สาขาออกแบบ) ประจำปี 2553 อีกหนึ่งจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาดการแชะ ได้แก่ เด็กดิน งานปั้นที่สูงกว่า 6.50 เมตร ทำด้วยไฟเบอร์กลาส โดยศิลปินชื่อดังอย่าง โลเล-ทวิศักดิ์ ศรีทองดี

 

แก๊งไอ้จุด

เด็กดิน โดย โลเล-ทวิศักดิ์ ศรีทองดี  

 

จุดเช็กอินใหม่ของราชบุรี

แต่ถ้าถามถึงแหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่สุดตอนนี้ และยังมีคนรู้ไม่มาก ต้องยกให้ อุทยานหินเขางู ที่ขับออกมาไม่ไกลจากตัวเมือง เพียงประมาณ 8 กิโลเมตร คุณก็จะได้พบกับความยิ่งใหญ่ของหินผา เมื่อก่อนพื้นที่บริเวณนี้ถูกใช้เป็นที่ระเบิดหิน แต่ภายหลังยกเลิกไป จึงถูกปล่อยให้เสื่อมโทรมรกร้างมานาน ทางจังหวัดจึงได้เข้ามาบูรณะเสียใหม่ โดยปรับปรุงพื้นที่โดยรอบให้สวยสะอาดตา และเปลี่ยนให้เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีสำคัญ เพราะบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของถ้ำต่างๆ ที่ภายในพบพระพุทธรูปจำหลัก หรือพระพุทธรูปสลักหินตามฝาผนัง ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ซึ่งทางจังหวัดก็เข้าใจคิด ด้วยการเพิ่มเติมสะพานทอดยาวและทางเดินลอยน้ำให้เดินถ่ายรูปกันสวยๆ ท่ามกลางความยิ่งใหญ่ของภูเขาหินปูน รวมถึงพระพุทธรูปขนาดยักษ์ที่เกิดขึ้นจากการยิงเลเซอร์ที่ผาหิน ก็เป็นสิ่งที่เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวได้ดี

 

มุมนี้ใครมาต้องถ่าย

 

ภาพ: SHUTTERSTOCK และ COURTESY OF MG

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล