×

รังสิมันต์พร้อมสู้คดี ส.ว. อุปกิต ฟ้องหมิ่น ย้ำอีกฝ่ายก็เป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องชี้แจงสังคมเพิ่มด้วย

โดย THE STANDARD TEAM
18.02.2023
  • LOADING...

วันนี้ (18 กุมภาพันธ์) รังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นหลังการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี โดยไม่มีการลงมติ เรื่อง ‘ส.ว. ทรงเอ’ เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ว่า ผ่านไปเพียง 2 วัน สิ่งที่ตนคาดหมายว่าจะตามมาก็มาอย่างเร็วไว อุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้ฟ้องร้องตนในคดีอาญาฐานดูหมิ่นและหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และคดีแพ่งเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวน 100 ล้านบาท

 

รังสิมันต์ระบุว่า การถูกฟ้องหลังการอภิปรายใหญ่ๆ แบบนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ สำหรับตนเองแล้ว เมื่อ 3 ปีก่อนตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ เรื่องมูลนิธิป่ารอยต่อฯ ตนก็ถูกมูลนิธิฯ ฟ้อง หรือ 1 ปีครึ่ง ตอนตนอภิปราย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เรื่องสัมปทานดาวเทียมไทยคม ตนเองก็ถูกบริษัทกัลฟ์ฯ ฟ้อง 

 

“การฟ้องร้องแต่ละครั้งข้อหาก็จะอยู่กับเรื่องการดูหมิ่น-หมิ่นประมาทต่างๆ หรือพยายามเรียกค่าเสียหายสูงๆ หวังจะเชือดไก่ให้ลิงดู ไม่ให้ใครกล้ามาวิพากษ์วิจารณ์ตัวเองอีกแม้จะเกี่ยวพันกับเรื่องการใช้อำนาจรัฐหรือผลประโยชน์ของส่วนรวมก็ตาม และไม่ใช่แค่ตนเท่านั้น เพื่อน ส.ส. คนอื่นของพรรคก้าวไกล เช่น เบญจา แสงจันทร์ ก็เคยถูกบริษัทกัลฟ์ฯ ฟ้องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเรื่องนโยบายพลังงานด้วยเช่นกัน” รังสิมันต์กล่าว

 

รังสิมันต์ได้กล่าวยืนยันอีกครั้งว่า การอภิปรายของตนเองและพรรคก้าวไกลเป็นการทำหน้าที่เพื่อตรวจสอบการใช้อำนาจ การปฏิบัติหน้าที่ หรือพฤติกรรมอื่นใดของรัฐบาล ว่าเป็นการบริหารงานที่ผิดพลาด เป็นการทุจริตคอร์รัปชัน หรือเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมหรือไม่ ซึ่งบ่อยครั้งจำเป็นต้องพาดพิงบุคคลภายนอก นั่นก็เพราะการกระทำเหล่านี้ของรัฐบาลมักดึงเอาบุคคลภายนอกเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 

 

แต่ถึงที่สุดแล้วการอภิปรายของพวกเรายังมุ่งเป้าไปที่รัฐบาลเป็นสำคัญ การโต้ตอบโดยใช้วิธีฟ้องร้องคดีกันแบบนี้ แน่นอนว่าย่อมกระทบถึงประสิทธิภาพในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาล ไม่ใช่แค่โดยตัวตนแต่รวมถึงผู้แทนราษฎรทุกคน แต่ถึงกระนั้นตนยังยืนยันที่จะต่อสู้คดีหมิ่นประมาทดังกล่าวโดยไม่มีการหลบหนี ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะชนะ เหมือนที่ตนสู้ในทุกๆ คดีที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม ในกรณีของอุปกิตนั้น เห็นว่ามีความต่างจากเอกชนรายอื่นๆ ที่ถูกพาดพิงไปก่อนหน้านี้ เพราะตัวอุปกิตเป็นถึงสมาชิกของวุฒิสภา หนึ่งในองค์กรผู้ใช้อำนาจสูงสุดของประเทศ และแม้ก่อนหน้านี้ตอนที่ ตุน มิน ลัต ถูกจับใหม่ๆ อุปกิตจะเคยออกมาชี้แจงต่างๆ นานา แต่จากที่ตนเองได้อภิปรายไปนั้นก็พบว่ามีข้อมูลหลายอย่างที่ขัดแย้งกับข้อกล่าวอ้างที่อุปกิตเคยชี้แจงไว้ ดังนั้น อุปกิตในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กินภาษีประชาชนจึงควรต้องออกมาชี้แจงต่อสังคมเพิ่มเติมด้วย

 

“ในช่วงเวลาต่อจากนี้ ผมจะเร่งดำเนินการต่างๆ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในกรณีของ ส.ว. อุปกิตและกรณีจีนเทาต่อไป โปรดติดตามชม” รังสิมันต์กล่าวทิ้งท้าย

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising