×

ผู้นำกลุ่ม Quad เปิดฉากการประชุมวันนี้ ยกประเด็นภัยคุกคามจากจีนเป็นหัวข้อสำคัญ

24.05.2022
  • LOADING...
ผู้นำกลุ่ม Quad

ผู้นำประเทศสมาชิกกลุ่ม Quad ได้เปิดฉากการประชุม ณ กรุงโตเกียวในวันนี้ ซึ่งถือเป็นการประชุมนัดสำคัญที่จะมีอิทธิพลต่อภาพรวมของภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก

 

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นนัดที่ 4 ระหว่างผู้นำจากญี่ปุ่น สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และอินเดีย หลังจากที่ได้มีการฟื้นภาคีขึ้นมาอีกครั้งเมื่อปี 2560 โดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หวังที่จะใช้การผนึกกำลังของกลุ่ม Quad ในการต่อต้านอิทธิพลจากจีนที่รุกคืบหนักในเอเชีย

 

สำนักข่าว BBC ได้รายงานความคิดเห็นของ ไมเคิล คูเกลแมน ผู้อำนวยการแห่งสถาบัน Wilson Center ที่มีต่อการประชุมครั้งนี้ว่า มีแนวโน้มที่ชาติสมาชิกกลุ่ม Quad จะเน้นไปที่การหารือเกี่ยวกับประเด็นปัญหาในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเป็นสำคัญ

 

“มีแนวโน้มว่ากลุ่ม Quad จะมุ่งเน้นหารือในประเด็นการประสานความร่วมมือเพื่อสร้างภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง เนื่องจากสถานการณ์การระบาดใหญ่ของโควิดได้เบาบางลงแล้ว และเมื่อพิจารณาจากจุดยืนของอินเดียที่มีต่อกรณียูเครน” คูเกลแมนกล่าว

 

ทั้งนี้ อินเดียเป็นหนึ่งในชาติที่พยายามหลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียเกี่ยวกับสงครามในยูเครน แต่ก็พยายามแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเคารพอธิปไตยของแต่ละประเทศ

 

แม้ในช่วงแรกนั้นนานาชาติจะแสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของอินเดียที่ไม่ออกโรงประณามการกระทำอันป่าเถื่อนของรัสเซีย แต่หลังจากการเจรจา 2+2 (2+2 Dialogue) ปิดฉากลงเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น ก็ทำให้สหรัฐฯ และชาติตะวันตกอื่นๆ เริ่มที่จะเข้าใจถึงเหตุผลของอินเดียที่จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าจากรัสเซียอย่างมาก

 

ด้วยเหตุนี้ การประชุม Quad จึงจะเน้นไปที่การหารือเพื่อหาข้อสรุปร่วมกัน โดยมีประเด็นของจีนเป็นวาระสำคัญในการประชุม หลังจากที่จีนได้แผ่ขยายอำนาจในภูมิภาคเอเชียตลอดหลายปีที่ผ่านมา รวมถึงยังมีข้อพิพาทเหนือน่านน้ำกับอีกหลายประเทศ และมีกรณีความขัดแย้งกับอินเดีย เนื่องจากจีนได้อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ทับซ้อนขนาดใหญ่

 

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จีนได้พยายามเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพเรือของประเทศ พร้อมทั้งมีการลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งทำให้ออสเตรเลียเกิดความวิตกกังวลอย่างมาก เพราะรัฐบาลได้รับเอกสารที่หลุดออกมาว่าหมู่เกาะโซโลมอนได้อนุญาตให้เรือรบของจีนสามารถเข้าเทียบท่าได้ และรัฐบาลจีนยังสามารถส่งกองกำลังความมั่นคงมาช่วยรักษาความสงบในดินแดนได้อีกด้วย ซึ่งคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีป้ายแดงของออสเตรเลีย จะจัดการกับปัญหานี้อย่างไรภายใต้กรอบความร่วมมือกับกลุ่ม Quad 

 

ส่วนทางด้านญี่ปุ่นนั้นก็พยายามที่จะตั้งรับการบุกรุกของกองทัพเรือจีน ซึ่งเริ่มพบปฏิบัติการในลักษณะดังกล่าวถี่ขึ้นเรื่อยๆ

 

ในฟากฝั่งของสหรัฐฯ เห็นจะไม่มีอะไรมากไปกว่าการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยสหรัฐฯ ได้ริเริ่มเปิดตัวกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (Indo-Pacific Economic Framework: IPEF) ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 13 ชาติ รวมไทย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมการพัฒนาในภูมิภาค ตลอดจนผลักดันความยั่งยืนและการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของสมาชิก

 

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังได้จัดการประชุมร่วมกับชาติสมาชิกอาเซียน ณ กรุงวอชิงตัน ไปเมื่อไม่นานนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าสหรัฐฯ ยังคงเล็งเห็นความสำคัญในภูมิภาคนี้ เนื่องจากเอเชียเป็นดินแดนที่มีช่องทางเดินเรือมากที่สุดในโลก โดยการค้าจากทั่วโลกซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 30-40% ต้องใช้ช่องทางดังกล่าวในการขนส่งสินค้าชนิดต่างๆ รวมถึงน้ำมันดิบด้วย

 

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์มองว่าบรรดาผู้นำอาจไม่พูดถึงจีนโดยตรง แต่วาระเรื่องความมั่นคงในภูมิภาคจะเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมอย่างแน่นอน

 

กลุ่ม Quad มีคณะทำงานหลายกลุ่มด้วยกัน ซึ่งรวมถึงหน่วยงานที่ดูแลความปลอดภัยทางไซเบอร์ สุขภาพ โครงสร้างพื้นฐาน และการศึกษา แต่ขณะนี้ยังไม่ได้มีการเปิดเผยว่าทางกลุ่มได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อประสานความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศอย่างชัดเจน

 

แต่ถึงกระนั้น กลุ่ม Quad ก็มีความร่วมมือในแง่ของการป้องกันดินแดนอยู่ด้วยบางส่วนแม้จะไม่เป็นทางการ โดยทั้ง 4 ประเทศได้เข้าร่วมในปฏิบัติการฝึกซ้อมรบทางทะเลมาลาบาร์ นอกจากนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นในอัฟกานิสถานและโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือด้วย

 

ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีไบเดนยังได้ออกปากว่าสหรัฐฯ พร้อมที่จะใช้กองกำลังทหารเข้าปกป้องไต้หวันหากจีนตัดสินใจเปิดฉากรุกรานดินแดนดังกล่าว

 

ทั้งนี้ คูเกลแมนกล่าวว่า มีแนวโน้มว่ากลุ่ม Quad จะร่วมกันประกาศกลยุทธ์การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ซึ่งมุ่งเน้นไปที่จีน โดยการประกาศนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมและการแบ่งปันข่าวกรองในเชิงรุกด้วย

 

แต่สิ่งที่ยังเป็นปัญหาน่าหนักใจสำหรับกลุ่ม Quad คือ ปฏิเสธไม่ได้ว่าชาติสมาชิกอาเซียนและกลุ่ม Quad เองมีอัตราการค้ากับจีนในระดับที่ค่อนข้างสูง และนานาประเทศก็พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับจีนโดยตรงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง หรืออย่างน้อยก็จนกว่าที่กลุ่ม Quad จะรับประกันความมั่นคงในภูมิภาคได้

 

นอกจากนี้อินเดียก็เป็นพันธมิตรกับจีนในหลากหลายมิติ รวมถึงกลุ่ม BRICS ซึ่งมีขั้วอำนาจสำคัญอย่างรัสเซียอยู่ด้วย

 

“กลุ่ม Quad ถือว่าเดินหน้ามาไกลแล้ว แต่ก็ยังขาดโครงสร้างที่เป็นทางการ และขาดการก่อตั้งสำนักงานเลขานุการ ฉะนั้นจึงยังต้องได้รับการพัฒนาอีกมาก” คูเกลแมนกล่าว

 

นอกจากนี้ยังมีเรื่องของประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างจีนและรัสเซียเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยนักวิเคราะห์มองว่า สงครามที่เกิดขึ้นในยูเครนอาจทำให้รัสเซียหันไปซบอกจีน และจีนก็อาจใช้โอกาสทองนี้เพื่อชักจูงรัสเซียให้แผ่ขยายอำนาจในอินโด-แปซิฟิกด้วย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง สถานการณ์ดังกล่าวจะทำให้อินเดียเสียเปรียบอย่างมาก เนื่องจากอินเดียมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัสเซีย ขณะที่ข้อพิพาทกับจีนก็ยังคงแก้ไม่ตก

 

อนึ่ง คูเกลแมนกล่าวว่า แม้นี่จะเป็นเพียงสมมติฐานที่เขาวิเคราะห์ขึ้นมา แต่ก็ไม่สามารถตัดความเป็นไปได้ใดๆ ทิ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการที่รัสเซียออกโรงวิพากษ์วิจารณ์กลุ่ม Quad มาโดยตลอด ไม่แตกต่างจากจีนที่กล่าวโจมตีว่ากลุ่ม Quad เป็นกองกำลัง NATO แห่งเอเชีย ที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อหวังควบคุมอำนาจของจีน

 

ภาพ: Zhang Xiaoyou – Pool / Getty Images

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising