เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส ได้รับรางวัล World’s Best Airline 2017 อันเป็นรางวัลที่มาจากคะแนนโหวตของผู้ใช้บริการทั่วโลก จัดทำโดย Skytrax (หรือจะเรียกว่าเป็น ‘รางวัลออสการ์ของสายการบิน’ ก็ไม่ผิดอะไร) และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ‘กาตาร์ แอร์เวย์ส’ เป็นที่หนึ่ง เพราะเคยได้รับตำแหน่งนี้มาแล้ว 3 ครั้งในปี 2011, 2012 และ 2015

     ในปีนี้นอกจากตำแหน่งสายการบินที่ดีที่สุดในโลก ยังพ่วงมาด้วยรางวัล World’s Best Business Class, World’s Best First Class Airline Lounge และ Best Airline in the Middle East เหตุผลที่ทาง Skytrax ให้ไว้คือความพึงพอใจของผู้ใช้บริการเรื่องที่นั่งกว้างขวาง สะดวกสบาย อาหาร เครื่องดื่ม ความบันเทิง รวมถึงเส้นทางการบินมากกว่า 150 จุดหมายที่เชื่อมต่อโลกทั้งใบ และที่สำคัญคือการเลือกใช้เครื่องบินรุ่นใหม่ ทั้งเครื่อง Boeing 787 Dreamliner, Airbus A350 และ A380

     อะไรคือปัจจัยสู่ความสำเร็จของสายการบินที่เพิ่งเปิดตัวในปี 1997 และใช้เวลาไม่ถึง 20 ปีในการทะยานสู่อันดับหนึ่ง การได้ทดลองใช้บริการจริงช่วยทำให้เราเรียนรู้ได้ไม่ยากว่า เพราะ ‘ความเข้าใจ’ และ ‘ใส่ใจ’ ผู้โดยสารนี่เองที่นำมาซึ่งความสำเร็จในวันนี้

     เพราะใส่ใจในรายละเอียด ทั้งยังเข้าใจผู้ใช้บริการ สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส จึงพยายามทำทุกอย่างให้ตรงความต้องการของผู้โดยสารชั้นธุรกิจอย่างที่สุด ไม่ว่าจะเป็นช่องเช็กอินต่างหากที่มาพร้อมบัตรผ่านตรวจคนเข้าเมืองช่องทางพิเศษที่ย่นเวลาไปได้มาก ตรงความต้องการของนักธุรกิจที่เวลามีค่าทุกนาที หรือเลาจน์ของสายการบินที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ไม่พลุกพล่าน

     การพักต่อเครื่องที่สนามบินนานาชาติฮาหมัด เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ นอกจากดิวตี้ฟรีสำหรับช้อปปิ้งจนเพลิน ยังมีเลาจน์ขนาดใหญ่สำหรับผู้โดยสารมากถึง 6 เลาจน์ โดยเฉพาะ Al- Mourjan ที่นับเป็น Business Lounge ที่เคยได้รับรางวัลระดับโลกมาแล้ว จะพักผ่อนหรือหาที่นั่งทำงานก็สะดวกสบายสุดๆ พูดได้เลยว่าเลาจน์ระหว่างต่อเครื่องที่สนามบินนานาชาติฮาหมัดทำให้ชีวิตดีได้ไม่ยาก

     ส่วนสายสุขภาพก็มีพร้อมทั้งฟิตเนส ซาวน่า สระว่ายน้ำในร่มควบคุมอุณหภูมิ คอร์ตตีสควอตพร้อมอุปกรณ์ รวมถึงบริการสปาสำหรับผ่อนคลายจากไฟลต์ระยะยาว นี่คือความเข้าใจผู้โดยสารที่รักการออกกำลังกายให้ได้ใช้เวลาระหว่างรอต่อเครื่องโดยไม่สูญเปล่า

     นอกจากความสะดวกสบายทางร่างกายยังตามมาด้วยความรู้สึกพิเศษทางจิตใจ เพราะรายละเอียดที่คิดมาแล้วอย่างแตกต่าง ทำให้สายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เสิร์ฟอาหารในชั้นธุรกิจเป็นแบบฟูลคอร์สที่เลือกสั่งได้ตามชอบใจและสั่งเวลาไหนก็ได้ระหว่างบิน โดยก่อนวันเดินทาง ผู้โดยสารสามารถระบุรายละเอียดได้ทั้งอาหารสำหรับเด็กเล็ก มังสวิรัติ ผู้แพ้กลูเตน หรือเมนูลดน้ำหนัก คอเรสเตอรอลต่ำ ไขมันต่ำ และอื่นๆ ได้ตามต้องการ

     ส่วนเครื่องดื่มเป็นที่ขึ้นชื่ออยู่แล้วว่าทางสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นแชมเปญ ไวน์ หรือค็อกเทลก็สั่งได้หมด ที่ใส่ใจในรายละเอียดอีกอย่างและคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์จะปลื้มก็คือเมนู So Jennie แชมเปญที่ไม่มีแอลกอฮอล์ สั่งมาจิบแล้วให้รสสดชื่น แถมยังถ่ายรูปขึ้นอีกต่างหาก

     และที่มาพร้อมกับที่นั่งชั้นธุรกิจที่เราต่างรู้กันดี คือการได้นอนพักอย่างเต็มอิ่ม ซึ่งเรารักในรายละเอียดที่เขาออกแบบเบาะที่นั่งให้มีขนาดกำลังสบาย ทั้งยังปรับได้หลายแบบ จะปรับเอนนิดหน่อย เอกเขนกดูหนังสบายเหมือนอยู่บ้าน หรือไฟลต์กลางคืนก็สามารถปรับเบาะเอนราบได้เหมือนเตียงนอน (Flat Bed) ไอคอนบริเวณปุ่มปรับที่นั่งก็สื่อสารได้ดี เรียกว่างัวเงียตื่นมาก็กดเลือกการปรับที่นั่งได้ง่าย ส่วนผ้าห่ม หมอน ชุดเครื่องนอน ใช้ผ้าฝ้าย 100% ที่สบายกับผิว

     สังเกตดีๆ จะเห็นว่ามีการใช้ไฟ LED ปรับเป็นโทนสีต่างๆ ในห้องโดยสาร อีกทั้งระบบแสงสว่างที่ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนระหว่างการเดินทางเพื่อให้ร่างกายปรับตัวได้ดีขึ้นเมื่อต้องเดินทางข้ามทวีป โดยมีแสงสว่างถึง 5,000 แบบ ใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์และ LED นี่เป็นความคิดที่ซ่อนเอาไว้ในงานบริการที่น้อยคนจะรู้ว่าโทนสีมีผลกับอารมณ์ และไฟออกสีแดงชมพูก็ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าและลดอาการเจ็ตแล็กระหว่างการเดินทาง

     ยังไม่จบ! ทุกไฟลต์มาพร้อมกระเป๋า Bric’s Amenity Bags ที่บรรจุมอยส์เจอไรเซอร์ ลิปบาล์ม สเปรย์น้ำแร่ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Castello Monte Vibiano Vecchio จากอิตาลี ในกระเป๋ายังมีที่อุดหู ผ้าปิดตา และถุงเท้ามาให้ด้วย ซึ่งครอบคลุมการใช้งานระหว่างเดินทางได้สมบูรณ์แบบ

     ส่วนใครที่เคยหงุดหงิดกับหูฟังจนต้องเตรียมมาเองจากบ้าน ก็ต้องบอกว่าหูฟังที่มีให้ทุกที่นั่งเป็นแบบตัดเสียงรบกวน คุณภาพดีมาก เมื่อมาพร้อมกับจอทัชสกรีนส่วนตัวความละเอียดสูงขนาด 17 นิ้ว ยิ่งทำให้เพลิดเพลินกับความบันเทิงจนต้องลิสต์หนังของไฟลต์ขากลับไว้ล่วงหน้า

     ทั้งหมดทั้งมวลมาม้วนตัวจบอย่างสวยงามด้วยไอเดียที่ทางสายการบินเข้าใจความเป็นไปของโลกโซเชียลที่เราต้องขอถ่ายรูปชีวิตดีๆ ไปแชร์ให้เพื่อนๆ เห็น ความ photogenic จึงไม่ใช่แค่วิวท้องฟ้าที่ความสูงเหนือเมฆในห้องโดยสาร การจัดวางที่นั่งก็ถ่ายรูปสวย การจัดเสิร์ฟอาหารเครื่องดื่มก็ชวนให้อยากถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก ส่วนพนักงานต้อนรับก็ต้องบอกว่าหน้าตาดี หรือบางคนแม้ไม่ได้สวยเฉียบก็มาพร้อมความสดใสร่าเริงในแบบที่ทำให้ผู้โดยสารรู้สึกสดชื่นไปด้วย

อ้างอิง:

• www.worldairlineawards.com/Awards/worlds_best_airline.html