มองเกาหลีเหนือผ่านร้านอาหารเกาหลีเหนือหนึ่งเดียวในไทย Pyongyang Okryu

อาหารก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสะท้อนวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในประเทศนั้นๆ ได้ดี ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในร้าน Pyongyang Okryu เราขอให้ทุกคนมองข้ามความแตกต่างระหว่างอาหารเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ไปก่อนว่ามันแตกต่างกันอย่างไร แต่เดิมก่อนที่เกาหลีจะแยกออกเป็นเกาหลีเหนือและใต้ พวกเขาก็เคยใช้วัฒนธรรมร่วมกันมาก่อน ทั้งอาหาร การแต่งตัว ภาษา แต่เมื่อแยกออกเป็นเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ ด้วยภูมิประเทศ การแบ่งเขตประเทศ ความเป็นอยู่ของผู้คน หน้าตาของอาหารอาจจะไม่ได้เปลี่ยนไป แต่รสชาตินั้นต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว ไม่ต้องพูดถึงเส้นแบ่งเขตประเทศเลย แม้แต่กิมจิสูตรของแต่ละบ้านก็ยังแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นเราขอให้ทุกคนไปจดจ่ออยู่กับความน่าตื่นต่าตื่นใจของแต่ละเมนูจะดีกว่า

The Vibes

เมื่อเราเข้ามาในร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งนี้แล้วจะพบกับการตกแต่งแบบภัตตาคารสมัยก่อนที่เน้นใช้ไม้ มีผ้าม่านจับจีบหรูหราอลังการ โทรทัศน์ที่เปิดมิวสิกวิดีโอประกอบละครของเกาหลีเหนือ และพนักงานสาวที่แต่งตัวด้วยชุดเดรสสุภาพสีพื้นแบบยุค 40 ก็เดินเข้ามาต้อนรับเรา พร้อมกับแนะนำเมนูอาหารน่าสนใจที่มาถึงทั้งทีก็ควรจะสั่ง

นอกจากอาหารที่น่าสนใจแล้ว บริเวณเคาน์เตอร์แคชเชียร์ของทางร้านจะมีชั้นวางสิ่งของจากประเทศเกาหลีเหนือให้เราได้ชมอีกด้วย บนชั้นมีทั้งโซจูของเกาหลีเหนือ เครื่องสำอาง ตุ๊กตา หนังสือ ชา โสม หนังสือภาพถ่าย และเงินตราเกาหลีเหนือ พนักงานสาวบอกกับเราว่าคนส่วนใหญ่จะเรียกคิดเงินที่โต๊ะ จึงพลาดสิ่งที่น่าสนใจเหล่านี้ไป

อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรจะต้องรู้คือทางร้านไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ สิ่งที่ถ่ายภาพกลับไปได้มีแค่อาหารเท่านั้น เราจึงอยากขอความร่วมมือทุกคนที่จะตามไปกินให้ทำตามกฎของเขากันด้วยนะ เพื่อความปลอดภัยของทั้งของเราและของทางร้าน

โอลีซอลพันกูอี (280 บาท)

The Dishes

เนื้อที่ดีที่สุดของเกาหลีเหนือคือเนื้อเป็ด หลายคนอาจจะไม่เข้าใจ ถ้าพูดถึงเนื้อที่ดีที่สุดเราจะนึกถึงเนื้อวัว แต่ที่เกาหลีเหนือนั้น เนื้อวัวถือว่าเป็นของหายาก เพราะวัวถือเป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้ใช้งานในภาคส่วนของการเกษตร หากนำวัวมาเชือดโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอาจต้องได้รับโทษ เพราะฉะนั้นเนื้อเป็ดจึงกลายเป็นเนื้อที่ดีที่สุดเท่าที่หาได้ พนักงานสาวจึงแนะนำให้ลอง โอลีซอลพันกูอี (280 บาท) หรือเป็ดผัดน้ำมันพริก เนื้อเป็ดแบบติดหนัง นำมาผัดกับน้ำมันพริกเผา พริกหยวก หอมใหญ่ และแครอต บอกเลยว่าจานนี้รสชาติถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน

เทจีโบซัม (300 บาท)

เทจีโบซัม (300 บาท) ปกติแล้วคออาหารเกาหลีน่าจะคุ้นเคยกับโบซัม หรือหมูสามชั้นนึ่งที่เสิร์ฟพร้อมกับผักสำหรับห่อ เครื่องเคียงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกิมจิ เต้าเจี้ยว หรือกุ้งดองเค็ม กินคู่กับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่โบซัมที่เกาหลีเหนือนั้นต่างออกไป เนื่องจากที่เกาหลีเหนือนั้น เวลาซื้อขายเนื้อจะไม่มีการเลาะกระดูกออก เนื้อสัตว์จะถูกขายทั้งกระดูก น้ำหนักของกระดูกจะถูกชั่งรวมเพื่อคิดราคาด้วยกัน เราจะไม่ค่อยเจอเนื้อสันนอกหรือสันในแบบสดๆ ในตลาด ถึงเจอก็จะมีราคาแพงมาก เนื้อส่วนใหญ่ถูกขายแบบแยกเป็นส่วนหัว ส่วนขา และเครื่องใน โบซัมของเกาหลีเหนือจึงทำมาจากหัวหมูที่นำมานึ่งและละลายให้เหลว ก่อนจะนำไปขึ้นรูปใหม่ เสิร์ฟแบบเย็น กินคู่กับผัก เต้าเจี้ยว และกุ้งดองเค็ม ถึงแม้ว่ากรรมวิธีการทำจะดูน่ากลัว แต่รสชาติแปลกใหม่ทีเดียว

เปียงยางซุนแดจิม (280 บาท)

ไส้กรอกเลือดเป็นเมนูที่หาได้ทั่วไปในเกาหลีใต้ ไม่ว่าจะเป็นร้านข้างทาง ร้านอาหารทั่วไป หรือแม้แต่ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตยังมีซุนแดสำเร็จรูปให้ได้ซื้อหากัน ซุนแดเป็นไส้กรอกที่ทำมาจากเนื้อสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมูหรือเนื้อวัว นำมาผสมกับเลือด โดยทั่วไปจะมี 3 แบบคือ ยัดไส้ข้าว ยัดไส้วุ้นเส้น และยัดไส้ทั้งข้าวและทั้งวุ้นเส้น แล้วนำไปนึ่ง ร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งนี้ก็มี เปียงยางซุนแดจิม (280 บาท) เป็นไส้กรอกเลือดแบบยัดไส้ข้าว จิ้มกับเกลือปรุงรส

ฮัมยองนัมโดซิกเฮ (250 บาท)

มาดูเมนูอาหารทะเลกันบ้าง เมนูที่เตะตาเราก็คือ ฮัมยองนัมโดซิกเฮ (250 บาท) ปลาลิ้นหมาตาข้างขวาดิบคลุกกับกิมจิแบบจังหวัดฮัมยองใต้ของเกาหลีเหนือ ฮัมยองใต้เป็นจังหวัดที่ติดทะเล แม้จะไม่มีข้อมูลนัก แต่เราพอจะเดาได้ว่าปลาน่าจะเป็นวัตถุดิบที่หาง่าย จึงเกิดเป็นเมนูปลาดิบคลุกกิมจิรสชาติเผ็ดเปรี้ยวถึงใจขึ้นมา

กอซาลีบอกกึม (200 บาท)

ใบเฟิร์นกินได้ด้วยหรือ? เราบอกเลยว่ากินได้ และรสชาติดีด้วย กอซาลีบอกกึม (200 บาท) ใบเฟิร์นสีดำมาในรูปแบบผัดผัก ผัดกับน้ำมันงาและพริกหยวก เมนูผักที่หากินได้แค่ที่ร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งนี้เท่านั้น ปกติแล้วเราจะเจอกอซาลีในรูปแบบนามุรุที่เป็นเครื่องเคียง และจะเจอเยอะเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝน เพราะเป็นช่วงที่ใบเฟิร์นชนิดนี้เติบโตได้ดี

ซอกกอลิทัง (330 บาท)

ถ้าพูดถึงซุปหางวัว หลายคนคงนึกถึงร้านอาหารมุสลิม แต่ร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งนี้ก็มีเมนูซุปหางวัว ซอกกอลิทัง (330 บาท) เหมือนกัน ซุปหางวัวของเกาหลีเหนือนั้นจะมีรสเข้มข้น มัน และให้สัมผัสนุ่ม ต่างจากซุปหางวัวรสเปรี้ยวเผ็ดที่เราคุ้นเคยกัน เมนูนี้จะเสิร์ฟพร้อมข้าว พนักงานสาวบอกกับเราว่าปกติแล้วเป็นเมนูสำหรับหนึ่งคน อาจจะไม่เข้ากับวัฒนธรรมการกินแบบไทยที่สั่งมาหลายอย่างแล้วแบ่งกันเท่าไรนัก เธอแนะนำว่ากินคนเดียวทั้งชามแบบเกาหลีไปเลยดีกว่า จะได้เข้าถึงความเป็นเกาหลีมากขึ้น

กิมจิมันดู (230 บาท) และเปียงยางกิมจิ

เมนูอาหารเกาหลียอดนิยมอย่าง ‘มันดู’ ที่ร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งนี้ก็มีให้เลือกมากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบทอด แบบนึ่ง หรือแบบซุป เราเลือกเป็น กิมจิมันดู (230 บาท) มันดูลูกใหญ่ยักษ์ไส้หมูสับผัดกับกิมจิ เสิร์ฟมาถึง 6 ลูก เป็นเมนูที่แนะนำให้สั่งเมื่อมาที่ร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งนี้ และเมื่อพูดถึงกิมจิ อย่างที่เรารู้กันดีว่ากิมจิเกาหลีเหนือจะรสชาติเบาบางกว่ากิมจิเกาหลีใต้ ที่ร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งนี้จะมีกิมจิอยู่สองแบบคือ ‘เปียงยางกิมจิ’ ที่จะใช้ผักกาดอย่างดี ปรุงรสอย่างละเมียดละไม กินคู่กับข้าวเปล่าหรือกินกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนกิมจิที่ใช้เป็นเครื่องเคียงในร้านนั้นจะเป็นผักกาดทั่วไป

นอคดูจีจิม (200 บาท)

นอกจากเมนูหัวหมูแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเมนูที่พนักงานสาวบอกกับเราว่าแม้กรรมวิธีการทำอาจจะดูไม่น่ากิน แต่อยากให้คนไทยเปิดใจลอง นั่นก็คือ นอคดูจีจิม (200 บาท) หรือแพนเค้กถั่วเขียวที่เป็นสีเขียวทั้งแผ่น เวลากินให้จิ้มกับซอสถั่วเหลือง ถ้าใครชอบกลิ่นและรสชาติของถั่ว เมนูนี้น่าจะกลายเป็นอีกหนึ่งเมนูในดวงใจได้เลย

การมาลองกินอาหารเกาหลีที่ร้านอาหารเกาหลีเหนือแห่งนี้ทำให้เราได้ความรู้ใหม่ๆ หลายอย่างเลยทีเดียว หากเราลองใส่ใจในอาหารแต่ละมื้อสักนิด ลองพิจารณาว่ามีอะไรซ่อนอยู่นอกจากส่วนผสมและรสชาติ เราจะได้รู้ว่าอาหารแต่ละจานก็มีเรื่องราวของมัน เย็นนี้ลองชวนเพื่อนๆ ไปลองค้นหาเรื่องราวที่น่าสนใจกันที่ Pyongyang Okryu กันนะ ยังมีเรื่องราวของเมนูอื่นๆ อีกมากมายที่กำลังรอให้เราไปค้นพบอยู่!

ติดตามบทความเกี่ยวกับอาหารเกาหลีกันต่อได้ที่