วันนี้ (28 สิงหาคม) วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียพร้อมจะเข้าแทรกแซง หากสถานการณ์ในเบลารุสไม่สามารถควบคุมได้ แม้เป็นเพียงทางเลือกสุดท้ายที่จะทำก็ตาม
“เราดำเนินการจากข้อสันนิษฐานว่าปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้นในเบลารุสวันนี้จะได้รับการแก้ไขโดยสันติวิธี” ปูตินกล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้ (27 สิงหาคม)
ปูตินกล่าวว่า ภายใต้กรอบของสหภาพรัฐแห่งรัสเซียและเบลารุส (Union State) และองค์การสนธิสัญญาความมั่นคงร่วม (CSTO) รัสเซียสามารถช่วยเบลารุสปกป้องอธิปไตย พรมแดน และเสถียรภาพของประเทศได้
ปูตินยังเล่าย้อนถึงการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อไม่นานนี้กับ อเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส ซึ่งขอให้ปูตินจัดตั้งเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายกองหนุน โดยปูตินเผยว่า ตนได้ดำเนินการแล้ว
อย่างไรก็ดี ผู้นำทั้งสองเห็นพ้องว่าจะไม่ใช้กองหนุนข้างต้น เว้นแต่สถานการณ์จะลุกลามอย่างควบคุมไม่ได้ และกลุ่มหัวรุนแรงที่แอบซ่อนอยู่เบื้องหลังสโลแกนทางการเมืองทั้งหลายล้ำเส้นเข้ามา
ปูตินระบุว่า อาจพูดได้ว่าเบลารุสเป็นประเทศใกล้ชิดกับรัสเซียที่สุด ทั้งด้านเชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม และจิตวิญญาณ
“ดังนั้นแน่นอนว่าเราจะไม่เฉยเมยต่อสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่น แต่หลักๆ แล้วมันเป็นเรื่องของประชาชนชาวเบลารุส” ปูตินกล่าว
ทั้งนี้ มีการประท้วงใหญ่เกิดขึ้นหลายครั้งในเบลารุส หลังจากลูคาเชนโก ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ได้รับชัยชนะเป็นสมัยที่ 6 จากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา ขณะที่ฝ่ายค้านปฏิเสธจะยอมรับผลการเลือกตั้งดังกล่าว
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง:
- สำนักข่าวซินหัว