นับเป็นครั้งแรกในวงการอสังหาริมทรัพย์ ‘พฤกษา’ ร่วมทุนกับ 3 บริษัทในเครือ ‘ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้’ เตรียมเปิด 3 โครงการ ทั้งโรงแรม-คอนโดมิเนียม-บ้านเดี่ยว มูลค่ารวมกว่า 8.7 พันล้านบาท หวังเจาะตลาดอสังหาบน Prime Area
สำหรับทั้ง 3 โครงการมิกซ์ยูส ประกอบด้วย 1. โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ และศูนย์บริการด้านสุขภาพ ทำเลสุขุมวิท มีมูลค่าโครงการประมาณ 5 พันล้านบาท ตามด้วย 2. โครงการคอนโดระดับพรีเมียมในย่านพหลโยธิน มูลค่าโครงการประมาณ 2.8 พันล้านบาท และ 3. การพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับพรีเมียมในย่านเพชรเกษม มูลค่าโครงการประมาณ 980 ล้านบาท ทั้งหมดอยู่ในอัตราส่วนการลงทุน 50:50
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- พฤกษา โฮลดิ้ง ทุ่มงบกว่า 300 ล้านบาท ซื้อหุ้นรวม 35% ในโรงพยาบาลผู้สูงอายุครบวงจร แบรนด์ Chersery Home ดันไทยขึ้นแท่น Senior Destination
- ราคาคอนโดกรุงเทพฯ ปรับตัวขึ้น 4 ไตรมาสติด แต่ปริมณฑลกลับลดลง 5 ไตรมาสติด
- อสังหาริมทรัพย์ปี 2567: นอกจากปลาใหญ่กินปลาเล็กแล้ว ยังจะมีปลาใหญ่กินกันเองด้วย
อุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PSH กล่าวว่า การร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาโครงการอสังหาครั้งนี้เป็นข้อตกลงที่ได้รับประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองบริษัท ซึ่งได้นำทรัพยากรและที่ดินของทั้งสองบริษัทที่มีอยู่แล้วมาพัฒนาโครงการ ที่สำคัญทั้งสองบริษัทได้นำจุดแข็งทั้งเทคโนโลยีและโนว์ฮาวเข้ามาพัฒนาร่วมกัน
เริ่มจากจุดแข็งของกลุ่มพฤกษาด้านเงินทุน และมีแรงหนุนจากกลุ่มธุรกิจในเครือที่หลากหลาย ทั้งธุรกิจพัฒนาและก่อสร้างอสังหา ธุรกิจเฮลท์แคร์ ได้แก่ โรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลเทพธารินทร์ พร้อมด้วยธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่พัฒนาเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม MyHaus มาผนวกกับจุดแข็งของออริจิ้นซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอสังหาในธุรกิจโรงแรมและการบริการ และอสังหาเพื่อการพาณิชย์ ด้วยข้อได้เปรียบดังกล่าว เราเชื่อมั่นว่าโครงการจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
ด้านพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวต่อไปว่า ในไทยอาจไม่ค่อยเห็นผู้พัฒนาอสังหารายใหญ่จับมือร่วมทุนกันเอง แต่ในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น มีความร่วมมือระหว่างผู้พัฒนาอสังหาเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติ เพราะแต่ละรายต่างก็มีความถนัด ความเชี่ยวชาญในเซ็กเมนต์และทำเลแตกต่างกัน
แน่นอนว่าการได้พฤกษามาเป็นพันธมิตรร่วมพัฒนาโครงการต่างๆ จะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนนวัตกรรม เทคโนโลยี องค์ความรู้ ความเชี่ยวชาญต่างๆ ระหว่างกัน และช่วยยกระดับการพัฒนาการก่อสร้างโครงการ การออกแบบฟังก์ชันและพื้นที่ในอาคาร
