×

ก้าวหน้า-ก้าวไกล ประสานเสียงร่วมองค์กรผู้บริโภค ค้านควบรวม TRUE-DTAC และ AIS-3BB ชวนติด #หยุดผูกขาดมือถือ

โดย THE STANDARD TEAM
02.08.2022
  • LOADING...
ก้าวหน้า-ก้าวไกล

วันนี้ (2 สิงหาคม) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และ วรภพ วิริยะโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมวงเสวนาวิชาการและการแถลงข่าว ‘ชะตากรรมผู้บริโภคกับยุคผูกขาดคลื่นความถี่’ จัดโดยสภาองค์กรของผู้บริโภค และ โคแฟค (ประเทศไทย) ร่วมพูดคุยในประเด็นเกี่ยวกับความพยายามควบรวมกิจการในธุรกิจโทรคมนาคมในปัจจุบัน ระหว่าง TRUE-DTAC และกรณีอินเทอร์เน็ตบ้านโดย AIS-3BB (ทรีบรอดแบนด์)

 

วรภพกล่าวว่าการแข่งขันในธุรกิจโทรคมนาคมของประเทศไทยที่ผ่านมา เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้มากขึ้น จากค่าบริการที่ลดลงและบริการที่ดีขึ้น ดังนั้น การควบรวมกิจการในธุรกิจโทรคมนาคม ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ TRUE-DTAC หรือกรณีของ AIS-3BB จึงล้วนเป็นเรื่องที่มีความน่ากังวลทั้งสิ้น ยิ่งในกรณีของ TRUE-DTAC ที่มีการอ้างว่านี่คือการควบรวมจาก 4 รายเหลือ 3 ราย จะไม่ทำให้เกิดการผูกขาด ซึ่งไม่ตรงกับข้อเท็จจริง เพราะ NT มีส่วนแบ่งตลาดเพียงราว 2 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งเล็กเกินกว่านับเป็นหนึ่งรายได้

 

ธุรกิจโทรคมนาคมเป็นหนึ่งในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานพอกับไฟฟ้า และในอนาคตจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นทุกวัน การควบรวมที่ก่อให้เกิดการผูกขาด จะฉุดรั้งการพัฒนาศักยภาพของเศรษฐกิจไทยอย่างรุนแรง ผิดกับที่ผู้ควบรวมกล่าวอ้างว่าการควบรวมจะทำให้เราแข่งขันในยุค 4.0 ได้มากขึ้น 

 

วรภพกล่าวต่อไปว่าการควบรวมที่มีผู้เล่นเหลือ 2 รายเช่นนี้ จะเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจไทยในอนาคต ส่งผลเสียต่อประเทศไทยในวงกว้าง การควบรวมหากเกิดขึ้นจะกลายเป็นใบเบิกทางจากรัฐให้มีการควบรวมกันได้ในทุกธุรกิจ แนวโน้มในอนาคตจะมีการควบรวมในธุรกิจต่างๆ มากขึ้น และการแข่งขันน้อยรายจะไม่ได้มีแค่ในกิจการโทรคมนาคมเท่านั้น

 

“เมื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภคจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการแข่งขันกันอยู่ในภาคเอกชนเท่านั้น หน่วยงานรัฐจึงมีหน้าที่ใช้อำนาจเพื่อรับประกันผลประโยชน์ผู้บริโภคให้มีการแข่งขันอยู่ เป็นที่ชัดเจนว่าคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีอำนาจและหน้าที่ในการให้มีมาตรการป้องกันการผูกขาดหน้าที่ของรัฐในการปกป้องผู้บริโภค และจะต้องไม่อนุญาตให้เกิดการควบรวมกิจการนี้” วรภพกล่าว

 

ด้านธนาธรกล่าวว่า ช่วงเวลานี้คือโค้งสุดท้ายของการตัดสินใจโดยบอร์ด กสทช. ว่าจะอนุมัติให้มีการควบรวมกิจการ TRUE-DTAC หรือไม่ ซึ่งนี่เป็นผลประโยชน์มหาศาลของกลุ่มทุนที่มีขนาดใหญ่มาก หากย้อนกลับไปในวันที่มีการประกาศดีลนี้เป็นครั้งแรก ราคาหุ้น TRUE จากเดิมอยู่ที่ 4.2 บาทต่อหุ้น วันรุ่งขึ้นกลายเป็น 4.8 บาทต่อหุ้น มูลค่าตลาดเพิ่มจาก 1.4 แสนล้านบาทเป็น 1.6 แสนล้านบาทภายในคืนเดียว ทั้งที่ยังไม่มีการควบรวมก็รวยขึ้นแล้ว 2 หมื่นล้านบาท

 

วันนี้เรากำลังอยู่ในโลกที่เศรษฐกิจดิจิทัลมีความสำคัญมากขึ้นทุกวัน หัวใจของเศรษฐกิจในอนาคตขึ้นอยู่กับความเร็ว ราคา และความเสถียรของระบบโทรคมนาคม ซึ่งประเทศไทยจะไม่สามารถรักษาปัจจัยเหล่านี้เอาไว้ได้เลยหากไม่มีการแข่งขัน เมื่อไม่มีการแข่งขันก็จะไม่มีแรงจูงใจให้ต้องลงทุนเพิ่ม ไม่จำเป็นต้องตอบสนองความต้องการผู้บริโภค การลงทุนจะเป็นไปแบบพอประมาณ และนั่นหมายความว่าจะไม่มีการตอบสนองต่อความต้องการด้านความเร็ว ราคา ความเสถียรที่มากขึ้นทุกวัน การป้องกันไม่ให้เกิดการควบรวมผูกขาดจึงมีความสำคัญมาก เพื่อให้กิจการโทรคมนาคมมีผู้เล่นที่พร้อมแข่งขัน ทำกำไรจากนวัตกรรม ส่งมอบสินค้าที่ราคาถูกหรือมีคุณภาพมากกว่าเดิมให้ผู้บริโภค ไม่ใช่จากการผูกขาด

 

ธนาธรกล่าวต่อไปว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 10 สิงหาคม ที่บอร์ด กสทช. จะมีมติออกมาในกรณีของ TRUE-DTAC ได้เพียง 4 กรณีเท่านั้น นั่นคือ 

 

  1. อนุญาตใหัควบรวมได้โดยไม่มีเงื่อนไข 

 

  1. อนุญาตให้ควบรวมโดยมีเงื่อนไขเกี่ยวกับพฤติกรรมการควบรวม 

 

  1. อนุญาตให้ควบรวมโดยมีเงื่อนไขเกี่ยวกับการเปลี่ยนโครงสร้าง

 

  1. ไม่อนุญาตให้ควบรวม 

 

ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว มีแนวโน้มว่าหากเป็นการควบรวมอย่างมีเงื่อนไขเล็กน้อย ไม่มีทางที่ กสทช. จะตามทันกลุ่มทุน 

 

อีกทั้ง กสทช. ไม่เคยใช้ยาแรงที่ทำให้เกิดการควบรวมอย่างมีเงื่อนไขในเชิงปรับโครงสร้างมาก่อน เช่น การบังคับให้มีการแยกตัวกิจการ และไม่มีความกล้าหาญขนาดนั้นด้วย จึงเป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดการอนุญาตให้ควบรวมอย่างไม่มีเงื่อนไข หรือมีเงื่อนไขเล็กน้อยเท่านั้น

 

ธนาธรกล่าวทิ้งท้ายว่า ในการนี้ตนเองจึงขอเรียกร้องให้ทุกคนช่วยให้กำลังใจสภาองค์กรผู้บริโภค โดยเฉพาะในการยื่นหนังสือต่อ กสทช. ในวันพรุ่งนี้ และขอให้ร่วมลงชื่อในการรณรงค์ผ่าน Change.org เพื่อส่งเสียงของประชาชนคนไทย ว่าเราไม่เห็นด้วยกับกรณีการควบรวมครั้งนี้ พร้อมกับร่วมรณรงค์โดยติดแฮชแท็ก #หยุดผูกขาดมือถือ ให้เสียงของเราดังไปถึงผู้มีอำนาจ ให้ผลการตัดสินออกมาเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศไทย ไม่ใช่กับกลุ่มทุนผูกขาด

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising