เรารู้จักร้าน ‘Progress Cafe & Bar’ มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แต่ไม่ยักรู้ว่าจะซ่อนอยู่บนชั้น 2 ในตึกช่วงต้นๆ ซอยอารีย์ที่มีร้านสักเปิดอยู่ด้านบน เชื่อว่าหลายคนเองก็เดินผ่านบ่อย แต่อาจยังไม่เคยสังเกตว่าจะมีคาเฟ่และบาร์แห่งนี้ซ่อนอยู่
ซึ่งเจ้าของก็คือทีมเดียวกับร้านสักที่พูดถึง เตี้ยง-จตุพล ธนะปุระ กราฟิกดีไซเนอร์เจ้าของ Progress Cafe & Bar บอกว่า พวกเขาอยากให้ลูกค้าที่มาสักมีพื้นที่นั่งรอสบายๆ บวกกับตัวเองเป็นคนทำงานจากที่ไหนก็ได้ จึงเปิดคาเฟ่นี้ขึ้นมาให้ทุกคนแวะมานั่งวาดรูป อ่านหนังสือ จิบกาแฟหาไอเดียใหม่ๆ ไปด้วยกัน
นี่จึงเป็นที่มาของชื่อร้านว่า Progress ที่มาจากคำว่า Work in Progress
The Vibe
Progress Cafe & Bar อยู่ในซอยอารีย์ 1 ตอนกลางวันเป็นคาเฟ่บรรยากาศกันเอง มีความโมเดิร์นตามสไตล์ร้านของนักออกแบบรุ่นใหม่ บันไดเหล็กที่เห็นคือทางเดินขึ้นไปร้านสักด้านบนที่มีแฟนของเตี้ยงเป็นเจ้าของ ส่วนเคาน์เตอร์บาร์ใช้ทำหน้าที่เสิร์ฟทั้งกาแฟและค็อกเทล
เราชอบพอถึงช่วงเวลากลางคืน เพราะร้านจะเปลี่ยนไปอีกคาแรกเตอร์ จากคาเฟ่โมเดิร์นๆ กลายเป็นบาร์ไวบ์ซิตี้ที่จะเสิร์ฟค็อกเทลในธีมคน(กำลัง)ทำงาน
The Taste
เพราะ Progress เป็นร้านกาแฟในตอนเช้า เตี้ยงบอกว่าพอจะเปลี่ยนมู้ดเป็นบาร์ช่วงกลางคืน จึงอยากทำเมนูที่คาบเกี่ยวกันระหว่างสองช่วงเวลานี้ด้วย ร้านจึงมีเมนู Coffee Cocktail (ทุกแก้ว 220 บาท) ที่เหมาะกับคนชอบทำงานดึก หรืออยากจิบทั้งกาแฟและแอลกอฮอล์ในเวลาเดียวกันตั้งแต่เช้า
Coffee Cocktail มีทั้งหมด 3 เมนู เราเรียงความเข้มจากเบาไปหามาก เริ่มจาก ‘Shakerato’ เอสเพรสโซผสมรัม รสชาติเบาๆ เพราะมีนม ‘Irish Coffee’ เปลี่ยนมาใช้ไอริชวิสกี้ผสม ด้านบนเป็นวิปครีม และ ‘Espresso Martini’ ใช้กาแฟเบลนด์ประจำร้านผสมกับวอดก้าและลิเคียวกาแฟ
แต่หากเป็น Signature Cocktail (ทุกแก้ว 360 บาท) ก็น่าสนุก เพราะร้านหยิบโปรเซสการทำงานต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจ จึงได้เป็นค็อกเทล 5 แก้ว
เริ่มจาก ‘Shining Startup’ แก้วเริ่มต้นที่เสมือนเป็นการจุดประกายไอเดียใหม่ๆ เป็นสไตล์เปรี้ยวหวานสดชื่น เพราะใช้น้ำเลมอนสด ลิเคียวพลัม ขั้นต่อไปคือ ‘Sweetie Engaging’ ที่มีความหวานนุ่ม เหมือนตอนเราเจอกับลูกค้าครั้งแรก เบสเป็นวอดก้า ท็อปความหอมหวานด้วยโฟมทำเองจากน้ำผึ้ง
‘Green Pitching’ ตั้งชื่อตามศัพท์ในวงการครีเอทีฟที่ใช้พูดตอนขอให้ขายงานผ่านฉลุย จึงออกมาเป็นค็อกเทลมัทฉะเตกีลา ที่ซ่อนความฝาดเอาไว้หลังความดื่มง่าย เพราะในความจริงมันไม่เคยง่าย แก้วนี้เป็นแก้วที่เราชอบ
‘Final Never Final’ แก้วสุดท้ายที่ไม่เคยสุดท้าย เหมือนตอนส่งงานไฟนอลที่ไม่เคยจบครั้งเดียว จึงเกิดเป็นค็อกเทลเนโกรนีทวิสต์ที่ใส่บิทเทอร์ทำเองจากเห็ดชิตาเกะ แก้วนี้เหมาะกับคนชอบดื่มเข้ม แต่มีความไหลลื่น เป็นอีกเมนูที่อยากแนะนำเช่นกัน
ปิดโปรเจกต์ด้วย ‘Hidden Progress’ ปลอบใจเราหลังจากผ่านการทำงานอันหนักหน่วง ด้วยค็อกเทลดื่มสบายๆ แต่มีความซับซ้อน เพราะเบสใช้จินอินฟิวส์กับเก๊กฮวย ผสมไข่ขาวให้มีความนุ่มละมุน
Good for
ถ้าใครอยากลองจิบ Coffee Cocktail ระหว่างทำงานดู เผื่อว่าไอเดียจะไหลลื่นกว่าเดิม ต้องลองแวะมานั่งที่นี่ และถึงแม้ Progress Cafe & Bar จะไม่ได้มีพื้นที่มากมาย แต่เราเชื่อว่าหลายคนต้องมองหาคาเฟ่เล็กๆ บรรยากาศสงบๆ ในย่านอารีย์ที่น่านั่งทำงาน อ่านหนังสือแบบนี้อยู่แน่นอน (แถมเค้กเบียร์ดำยังรสชาติดีมากๆ อีกด้วย)
ส่วนเราจะชอบไวบ์ตอนกลางคืนที่ดูเป็นบาร์ลับสไตล์โมเดิร์นหน่อยๆ เพราะนั่งจิบค็อกเทลแล้วมองลงมาเห็นวิวย่านอารีย์ตอนกลางคืน ตัดกับบรรยากาศร้านที่ดูโมเดิร์นแล้วรู้สึกคอนทราสต์กันดี
Progress Cafe & Bar
Open: คาเฟ่เปิดทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น. บาร์ค็อกเทลเปิดวันพุธ-อาทิตย์ เวลา 11.00-14.00 น. และ 17.00-00.00 น.
Address: ซอยอารีย์ 1 (ชั้น 2 ตึกเดียวกับร้าน Madgrey Tattoo Studio)
Contact: Progress Cafe & Bar
Budget: 300-1,000 บาท
Map: