ฝุ่นยังตลบที่พรรคชาติไทยพัฒนา เหตุเพราะ ‘เลือด’ ยังไหลไม่หยุด อุดไม่อยู่ นับแต่มีการเคาะเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชาติไทยพัฒนา ที่ชู หนูนา-กัญจนา ศิลปอาชา พี่สาว ท็อป-วราวุธ ศิลปอาชา ขึ้นนำเป็นหัวหน้า
คราวนั้นเราสังเกตเห็นสายตาแห่งความสงสัย และไม่ยินดียินร้ายมากนักของสมาชิกบางส่วน โดยเฉพาะกลุ่มนิวบลัด ที่นำโดยวราวุธและทีมงานเรือพ่วงอย่าง ภราดร-กรวีร์ ปริศนานันทกุล, สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ และ เสมอกัน เที่ยงธรรม พวกเขาทุกคนปรากฏตัวในวันดังกล่าว แต่ปฏิเสธที่จะบอกเล่าถึงความพลิกผันที่กลุ่มนิวบลัดหายจากหน้ากระดานธงนำชาติไทย พูดง่ายๆ คือ ไม่มีใครเข้ารับตำแหน่งบริหารแม้แต่คนเดียว
ความเคลื่อนไหวแรกคือ เสี่ยโต้ง-สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ อดีตว่าที่เลขาธิการพรรค ขยับตัวเองสู่ค่ายใหม่ เข้าร่วมงานกับภูมิใจไทย ในวันที่ 31 ตุลาคม 2561 เป็นสิ้นเดือนที่ชัดเจนต่อการสิ้นขาดจากสมาชิกภาพชาติไทยพัฒนา
ถัดมาคือ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล เลือดแท้แห่งชาติไทย จนมาสู่ชาติไทยพัฒนา บุรุษข้างกาย มังกรเติ้ง บรรหาร ศิลปอาชา กว่า 30 ปีในบ้านหลังนี้ ได้สร้างแรงสะเทือน เป็นอาฟเตอร์ช็อกการเมือง เมื่อ ‘ป๋า’ ของลูกๆ ประกาศลาจากพรรค ‘ลาจากบ้านที่เป็นทั้งชีวิต วิญญาณ และลมหายใจ’ แถมยังบอกว่าตัวเองเป็นแค่สิ่งชำรุดทางการเมือง จะไปทำอะไรได้
เมื่อพ่อตัดสินใจเช่นนี้ แรงกระเพื่อมจึงถาโถมมายังลูกชายสองคนว่าจะวางอนาคตต่อบ้านหลังนี้ของพ่ออย่างไร สมศักดิ์ตอบสื่อในวันนั้นว่า “ลูกชายสองคนเขาจะตัดสินใจเดินทางการเมืองอย่างไรก็ต้องแล้วแต่เขา ผมไม่ก้าวก่าย”
และวันนี้ แบต-ภราดร ปริศนานันทกุล และ แชมป์-กรวีร์ ปริศนานันทกุล สองพี่น้อง อดีต ส.ส. อ่างทอง ปรากฏตัวที่ภูมิใจไทย ปรากฏกายต่อหน้าสื่อมวลชน ปักหมุดร่วมงานที่นี่
ภราดรมาถึงก่อน กรวีร์ น้องชาย เราสังเกตว่าเขามีสีหน้าคล้ายๆ คลายกังวล รอยยิ้มบนใบหน้าที่มอบให้สื่อกำลังสื่อสารว่า เขายิ้มสู้ และพร้อมแล้วกับการก้าวออกมาจากบ้านหลังเดิมที่เคยอาศัยนับ 10 ปี สู่บ้านหลังใหม่ที่ในใจลึกๆ เขาบอกว่าไม่มีใครอยากย้ายออก
ภราดรบอกว่า เหตุผลหลักที่นำพาเขามาสู่จุดนี้คือเรื่องราวของ ‘ป๋า’ และคนที่มีส่วนสำคัญในการตัดสินใจ เป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาก้าวมายังตึกสำนักงานใหญ่พรรคนี้คือ เฮียโต้ง ระหว่างภราดรตอบคำถามสื่อ นัยน์ตาเขาแดงก่ำ สิริพงศ์มองด้วยความเข้าใจ กรวีร์ย้ำถึงอุดมการณ์และแนวทางการเมืองว่าสอดคล้องและพร้อมทำงานต่อจากนี้ ขอมาพึ่งบารมีหัวหน้าอนุทิน
“เรามีความตั้งใจที่อยากจะเห็นพรรคการเมืองที่ทำงานการเมือง แล้วสร้างพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมืองได้จริงๆ ไม่ใช่พรรคการเมืองที่นำเสนอ เพียงแต่ว่า ส.ส. เข้ามา แล้วก็เข้าไปสู่สนามเลือกตั้งแล้วก็จบกันไป” กรวีร์บอกสื่อ
อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค เดินทางมาต้อนรับสองพี่น้องเข้าทำงานกับพรรคด้วยตนเอง พร้อมๆ ด้วยสมาชิกระดับแกนนำอีกหลายคน อนุทินบอกว่า เขาเคยใฝ่ฝันไว้ทำอย่างไรพรรคจะโชคดีมีบุคลากรแบบนี้มาทำงานที่พรรค และวันนี้เขาได้สองคนนี้เข้ามาทำงานที่พรรคแล้ว
เมื่อถามว่าพร้อมขนาดไหน ประเมินอย่างไรกับการเลือกตั้ง เสี่ยหนู อนุทิน บอกด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ตำแหน่งที่มีเกียรติสูงสุดสำหรับพรรคการเมือง ไม่ใช่รัฐมนตรี ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่เป็นผู้แทนของราษฎร เป็นผู้แทนของปวงชนชาวไทย นี่คือสิ่งที่พวกเราทุกคนมุ่งมั่น”
คราวที่สิริพงศ์ไปยื่นใบลาออกจากพรรคชาติไทย ภราดรและกรวีร์ไปรอรับ ‘เฮีย’ ของพวกเขา วันนั้นยื่นใบลาออกกล่าวลา มีน้ำตา แต่ทุกคนเข้าอกเข้าใจกัน 2 สัปดาห์ให้หลัง 3 พี่น้องได้พบกันแต่สลับหน้าที่ เฮียโต้งมารับน้อง เขายื่นกระดาษที่เป็นใบสมัครสมาชิกให้ทั้งสอง คอยช่วยดู กำกับ และยืนระยะเป็นกำลังใจระหว่างคุยกับสื่อ
ภาพวันนี้ชัดเจนว่า เลือดที่ไหลออกได้ไหลมารวมเป็นเลือดใหม่ที่ภูมิใจไทย ไม่รู้ฝุ่นที่บ้านหลังเก่าจะตลบนานแค่ไหน แต่เวลานี้ โต้ง แบต แชมป์ พร้อมปัดฝุ่นใหม่ ลุยสนามเลือกตั้งอย่างเต็มที่แล้ว
