×

พรีวิว: สิงคโปร์ vs. ไทย สถานการณ์บังคับ! ช้างศึกต้องชนะ…เพื่อต่อลมหายใจศึกคัดบอลโลก 2026

20.11.2023
  • LOADING...
นักฟุตบอลทีมชาติไทย

พรีวิว: สิงคโปร์ vs. ไทย สถานการณ์บังคับ! ช้างศึกต้องชนะ…เพื่อต่อลมหายใจศึกคัดบอลโลก 2026

 

พรุ่งนี้ (21 พฤศจิกายน) ฟุตบอลทีมชาติไทยที่มีคิวลงสนามเกมฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย (กลุ่ม C) นัดที่ 2 พบกับทีมชาติสิงคโปร์ สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในเวลา 19.00 น.

 

และเช่นเคย THE STANDARD รวบรวมข้อมูลสำคัญๆ เพื่อพาแฟนบอลไปอุ่นเครื่อง ส่องความพร้อมของนักเตะทั้งฝั่งไทยและสิงคโปร์ รวมถึงสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาฝากก่อนเกมนัดนี้ เกมที่จะชี้ชะตาทัพช้างศึกว่า จะได้ลุ้นไปต่อหรือไม่ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก

 

ตารางคะแนนกลุ่ม C ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก

 

ทบทวนเหตุการณ์นัดแรก (กลุ่ม C)

 

ย้อนกลับมาดูเหตุการณ์ของทีมในกลุ่ม C จากการแข่งขันนัดแรกของฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก (รอบที่ 2) โดยผลที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ปรากฏว่าทีมไทยที่ออกนำก่อนจากลูกยิงสุดสวยของ สารัช อยู่เย็น ไม่สามารถกุมความได้เปรียบ ก่อนจะถูกผู้มาเยือนอย่าง ‘จีน’ ยิงแซง 2 ลูกในช่วงเวลาที่เหลือ ทำให้ทีมไทยพ่ายและชวด 3 แต้มแรกไปอย่างน่าเสียดาย

 

ขณะที่ผลอีกคู่ระหว่างเกาหลีใต้พบกับสิงคโปร์ และเป็นเกาหลีใต้ที่เหนือกว่าทุกกระเบียดนิ้ว ไล่ต้อนสิงคโปร์ไปขาดลอย 5-0

 

ทำให้สถานการณ์ในตารางคะแนนของกลุ่ม C ปัจจุบัน เกาหลีใต้นำเป็นอันดับ 1 มี 3 แต้มเต็มเช่นเดียวกับจีน แต่ลูกได้เสียทัพโสมขาวดีกว่า ส่วนไทยอยู่อันดับ 3 และตามมาด้วยสิงคโปร์อยู่ท้ายตารางแบบไร้แต้มในตอนนี้

 

นักฟุตบอลทีมชาติไทยกำลังซ้อม

 

🇹🇭 ความพร้อมทีมชาติไทย (อันดับ 112 ของโลก)

 

เริ่มจากสภาพความพร้อมของทีมชาติไทยชุดนี้ ทีมจะขาด 2 ผู้เล่นคนสำคัญที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมนัดก่อนอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ พรรษา เหมวิบูลย์ แน่นอนแล้ว ขณะที่รายของ ธีรศิลป์ แดงดา ทางมาโนเปิดเผยว่า กองหน้าวัย 35 ปีมีอาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าจะพร้อมสำหรับเกมนัดนี้

 

โดย มาโน โพลกิง กล่าวในการแถลงข่าวความพร้อมก่อนเกมไว้ว่า เราได้กลับมาที่ประเทศสิงคโปร์อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพวกเรามีความทรงจำที่ดี หลังเราคว้าแชมป์เอเอฟเอฟมาครองเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เกมนี้จะเป็นเกมที่ยากของทั้งสองทีม เราตกอยู่ในสถานะเดียวกัน คือแพ้มาในเกมแรก แต่ตอนนี้เราต้องมีสมาธิ และเราก็พร้อมที่จะเก็บชัยชนะจากเกมนี้

 

“เป็นเรื่องปกติที่เราจะกดดันในเกมนี้ แต่ว่าเราได้พูดคุยกันภายในทีมว่าเราจะล้มลงอยู่ไม่ได้ เราต้องรีบลุกขึ้นมา และกลับมามีสมาธิกับเกมนี้อีกครั้งหนึ่ง เพราะว่าระยะเวลาค่อนข้างที่จะใกล้กัน ไม่มีเวลาให้เราผิดหวัง เราต้องมุ่งมั่นและทำให้เต็มที่เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้

 

“เรารู้จักสิงคโปร์ดี พวกเขาเป็นทีมที่ดี เราจะต้องไม่ประมาท สมัยนี้ไม่มีเกมที่ง่ายแล้ว แม้สิงคโปร์เพิ่งแพ้เกาหลีใต้มาหลายประตู แต่ไม่เกี่ยวกับการเล่นในบ้าน พวกเขามุ่งมั่นที่จะทำผลงานให้ดีต่อหน้าแฟนบอล ก็ไม่ใช่เกมที่ง่ายสำหรับเรา แต่อย่างไรก็ตาม เราได้วิเคราะห์เกมของสิงคโปร์มาอย่างดี และได้วิเคราะห์ข้อผิดพลาดของเราเพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก

 

“ตอนนี้เรายังไม่ได้ตัดผู้เล่นคนใดออก แต่ที่แน่นอนเราจะขาด ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ พรรษา เหมวิบูลย์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ส่วนผู้เล่นอื่นๆ ก็อยู่ในสภาพที่ดี ในส่วนของ ธีรศิลป์ แดงดา ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ถือว่าพร้อมสำหรับเกมในวันพรุ่งนี้”

 

ทั้งนี้ คาดว่า 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมนี้จะมีการปรับทัพเพียงเล็กน้อยจากเกมล่าสุด ซึ่งตำแหน่งผู้รักษาประตูจะยังเป็น ปฏิวัติ คำไหม ส่วนเซ็นเตอร์แบ็กเป็น กฤษดา กาแมน จับคู่กับ เอเลียส ดอเลาะ โดยมี ธีราทร บุญมาทัน สวมปลอกแขนกัปตันทีม และยืนแบ็กซ้าย ส่วนทางขวาเป็น ทริสตอง โด

 

แดนกลางมีโอกาสเป็น สารัช อยู่เย็น ยืนคู่กับ ปกเกล้า อนันต์ (โดยมี พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล – วีระเทพ ป้อมพันธุ์ เป็นตัวสอดแทรก) ส่วนแนวรุกยังเป็น สุภโชค สารชาติ ทำงานร่วมกับ บดินทร์ ผาลา และคาดว่าจะส่ง เอกนิษฐ์ ปัญญา จากทีมอุราวะ เรด ไดมอนด์ส) เป็นตัวจริงแทนชนาธิป และหน้าเป้าเป็น ศุภชัย ใจเด็ด

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 2

  • แพ้ จีน 1-2
  • เสมอ เอสโตเนีย 1-1
  • แพ้ จอร์เจีย 0-8
  • เสมอ อิรัก 2-2
  • ชนะ เลบานอน 2-1

 

นักฟุตบอลทีมชาติสิงคโปร์

 

🇸🇬 ความพร้อมทีมชาติสิงคโปร์ (อันดับ 155 ของโลก)

 

ทีมชาติสิงคโปร์ชุดนี้อยู่ในการดูแลของ ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือชาวญี่ปุ่นที่เข้ามารับงานคุมทีมตั้งแต่กลางปี 2022 โดยก่อนเข้าสู่โปรแกรมคัดบอลโลก ทีมของ นิชิกายะ ทำผลงานในเกมอุ่นเครื่อง 6 นัด ด้วยการชนะ 2 เสมอ 3 และแพ้ 1 นัด

 

ส่วนในเกมรอบคัดเลือกฟุตบอลโลก 2026 รอบแรก พวกเขาเอาชนะทีมชาติกวมแบบไปกลับ (2-1, 1-0) ขณะที่การแข่งนัดแรกของรอบ 2 พวกเขาบุกไปพ่ายต่อเกาหลีใต้ขาดลอย 5-0

 

เกมนัดนี้ นิชิกายะพยายามปลุกใจลูกทีมให้ลืมความผิดหวังจากนัดล่าสุด และให้ทำงานหนักในเกมพบกับทีมไทย ซึ่งสถานการณ์บนหน้าตารางคะแนนของไทย-สิงคโปร์นั้นไม่ต่างกัน ทั้งสองทีมต่างต้องการ 3 แต้มแรกเพื่อโอกาสเข้ารอบกันทั้งคู่ 

 

ขณะที่สภาพความพร้อมของทีมชาติสิงคโปร์อยู่ในจุดที่ดี นำทีมโดย 2 นักเตะที่ค้าแข้งในไทยลีกกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด อย่าง อิรฟาน ฟานดี (หวานใจของ แอนโทเนีย โพซิ้ว ที่เพิ่งคว้ารองอันดับ 1 การประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2023) และ ไรฮาน สจ๊วร์ต แบ็กขวาลูกครึ่ง สิงคโปร์-เวลส์ วัย 23 ปี

 

ส่วนในรายอื่นๆ อย่าง ฮาริสส์ ฮารูน (กัปตันทีม), ชาวัล อันนัวร์, จาค็อบ มาห์เลอร์ และ ชาห์ ชาฮิราน คาดว่าจะพร้อมเป็นตัวจริงในเกมนัดนี้

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุด | ชนะ 3 แพ้ 2

  • แพ้ เกาหลีใต้ 0-5
  • ชนะ กวม 1-0 (เยือน)
  • ชนะ กวม 2-1 (เหย้า)
  • ชนะ ไต้หวัน 3-1
  • แพ้ ทาจิกิสถาน 0-2

 

ผลการดวลกัน 5 นัดหลังสุด

 

ผลการดวลกัน 5 นัดหลังที่พบกัน ทีมชาติไทยมีสถิติที่เหนือกว่าในทุกประตู หลังเป็นฝ่ายเอาชนะสิงคโปร์ เอาชนะจีนได้ 5 ครั้งหลังสุด เรียกว่าไม่เคยแพ้ให้สิงคโปร์เลยนับตั้งแต่ปี 2012 หรือ 11 ปีที่แล้ว 

 

โดยชัยชนะครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเกม AFF Championship 2021 รอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งนัดนั้นทัพช้างศึกได้ เอเลียส ดอเลาะ และ ศุภชัย ใจเด็ด ยิงคนละประตูให้ทีมเอาชนะสิงคโปร์ 2-0

 

 

ทำไม 3 แต้มนัดนี้ถึงสำคัญระดับ ‘ชี้ชะตา’ ทัพช้างศึก?

 

ความพ่ายแพ้ต่อจีน (ในสนามราชมังฯ) ส่งผลให้ทีมไทยไร้แต้มจากการลงเล่นในบ้านตัวเอง ซึ่งถือว่าร้ายแรงมาก เพราะจะทำให้ทีมชาติไทยต้องหันไปโฟกัสกับการควานหาคะแนนจาก 5 เกมที่เหลืออยู่ในมือ ซึ่งแบ่งเป็นเหย้า 2 และเยือน 3 นัด

 

แน่นอนว่าการเล่นในบ้านด้วยฟอร์มอย่างที่เป็นในปัจจุบัน (เช่นในเกมกับจีน) ยังมีปัญหาให้ปรับปรุงเยอะขนาดนี้ เกมนอกบ้านทั้ง 3 เกมจะต้องเป็นงานหินของทีมไทยอย่างเลี่ยงไม่ได้

 

การบินไปเยือนสิงคโปร์นัดนี้ทีมชาติไทยในมือของ มาโน โพลกิง จึงจำเป็นต้องเน้นเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการเล่นเพื่อหวังเก็บ 3 แต้ม ไม่ใช่แค่ 1 แต้ม เพราะหากพลาดเสมอหรือแพ้ในเกมนี้ โอกาสการติด 1 ใน 2 ของกลุ่มเข้ารอบ 3 ของศึกคัดบอลโลกจะมืดหม่นกว่าเดิมอย่างไม่ต้องสงสัย

 

ดังนั้นเกมนัดนี้จึงเปรียบดั่งเกมชี้ชะตาของทัพช้างศึก ว่ามีดีพอจะเก็บ 3 แต้มเต็มเพื่อไปทำการบ้านเตรียมสู้รบปรบมือกับ 4 นัดที่เหลือในปี 2024 หรือไม่

 

ทั้งนี้ โปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทยจะพบกับทีมชาติสิงคโปร์ ที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย แฟนบอลสามารถรับชมผ่านการถ่ายทอดสดทางไทยรัฐทีวี (ช่องหมายเลข 32)

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X