ที่ทำเนียบรัฐบาลวันนี้ (6 มีนาคม) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และประธานการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้เปิดเผยหลังเข้าหารือกับคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในช่วงเช้าวันนี้ ในประเด็นการออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด-19
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ไม่ควรจะนำเอาประเด็นการออกมาตรการให้เงินช่วยเหลือชั่วคราวในระยะเวลา 2 เดือนมาเป็นประเด็นสำคัญ เพราะยังมีอีกหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคประชาชน, ภาคผู้ประกอบการ, SME และมาตรการภาษี โดยยืนยันว่ามาตรการการแจกเงินเป็นเพียงแค่มาตรการระยะสั้นเท่านั้น ซึ่งจะต้องคำนึงถึงผู้ที่มีรายได้น้อยด้วย
“ยืนยันว่าไม่ใช่การแจกเรื่อยเปื่อย ไม่ใช่ว่ารัฐบาลนี้มีแต่แจกเงินอย่างเดียว ต้องเห็นใจผู้ที่มีรายได้น้อยด้วย เพราะเขาก็ไม่มีรายได้ เช่นเดียวกับผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ค้าที่ค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
“การให้เงินประชาชน ถ้าเราดูมาตรการต่างประเทศ เขาก็ทำกัน แต่เราไม่ทำมากขนาดนั้น ดังนั้นสิ่งที่เราทำในวันนี้ไม่ใช่แค่บัตรสวัสดิการประชารัฐ เพราะจะต้องมีการขึ้นทะเบียนใหม่สำหรับประชาชนกลุ่มอื่นๆ อีกด้วย ดังนั้นก็ขอให้เข้าใจตรงนี้ มันไม่ได้ง่าย ไม่ใช่ว่ารัฐบาลทำอะไรไม่เป็นนอกจากแจกเงิน”
เบื้องต้น พล.อ. ประยุทธ์ เปิดเผยว่า การแจกเงินจะแจกไม่เกินคนละประมาณ 1,000 บาท เป็นระยะเวลา 2 เดือน (หรือประมาณคนละไม่เกินเดือนละ 1,000 บาท) โดย ณ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างหารือว่าจะทยอยแจกเงินด้วยวิธีไหน เนื่องจากยังมีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบและไม่ได้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการประชารัฐ แต่ยังไม่มีการเปิดเผยจำนวนประชาชนที่เข้าเกณฑ์การช่วยเหลือออกมา
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ออกมาตรการระยะสั้น 2 เดือนออกมาแล้ว นายกรัฐมนตรีบอกว่าก็จะต้องมีการหารือมาตรการช่วยเหลือในระยะต่อไปอย่างต่อเนื่อง
“วันนี้ต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคือมาตรการเร่งด่วนชั่วคราว 2 เดือน เพราะฉะนั้นบางส่วนจะไปอยู่ในการทำงานของรัฐบาลอยู่แล้ว อย่าลืมว่านี่คือมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 เรามีมาตการที่จะรองรับภัยแล้งอีกส่วน ทั้งผลกระทบทางตรงและอ้อม”
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกล่าวทิ้งท้ายว่า ตนและคณะรัฐมนตรีทุกคนพร้อมจะนำพาประเทศไทยและประชาชนทุกคนให้ผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาดที่กำลังเกิดขึ้นและส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจไปให้ได้ เพียงแต่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนด้วย
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า