เปลี่ยนบรรยากาศจำเจในย่านทองหล่อและเอกมัย แล้วมาสัมผัสรสชาติวัตถุดิบไทยสไตล์อินเตอร์ที่ Prelude Restaurant & Bar (พรีลูด เรสเตอรองต์ แอนด์ บาร์) ร้านอาหารน้องใหม่จากกลุ่มเพื่อนชาวสิงคโปร์และไต้หวัน ผู้จัดการร้าน ฮอลลี ชิว, เชฟใหญ่ ชอง เหวิน และบาร์เทนเดอร์ คัลวิน ฟง ที่ต้องการถ่ายทอดประสบการณ์ที่พวกเขาได้มาจากการท่องเที่ยวและศึกษาจากสถาบัน CIA (อ่านให้จบ) หรือ​ Culinary Institute of America และนำเสนอเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้ รับประทานได้ อีกทั้งมีเรื่องราวเบื้องหลังอันน่าสนใจไม่แพ้สิ่งที่อยู่ในจานเลยทีเดียว

The Vibe

ร้านอาหารตั้งอยู่ใน Arena 10 ชั้น 2 เมื่อก้าวออกจากลิฟต์ก็จะพบกับร้านโทนสีเขียวสบายตา แบ่งสัดส่วนที่นั่งกับครัวเปิดชัดเจน ส่วนด้านหลังเป็นบาร์สไตล์เรโทรไว้ให้แฮงเอาต์หลังจากดินเนอร์เสร็จเรียบร้อย

Prelude Restaurant & Bar นำเสนออาหารสไตล์โมเดิร์นเฟรนช์บิสโทร พร้อมลูกเล่นการหยิบจับวัตถุดิบท้องถิ่นของไทยมาครีเอตเป็นอาหารหน้าตาอินเตอร์ ประกอบกับเรื่องราวที่ร้อยเรียงในจาน รวมถึงการจับคู่รสชาติและการตีความอาหารให้สิ่งที่เห็นไม่ใช่สิ่งที่สัมผัส (ลิ้มรส) ผ่านเมนู 2 คอร์ส (750 บาท), 3 คอร์ส (850 บาท) หรือเทสติ้งเมนู 6 คอร์ส (1,200 บาท) พร้อมเลือกจับคู่กับไวน์ชั้นเยี่ยมจากทั่วโลก

The Dishes

ก่อนที่จะเริ่มมื้ออาหาร เชฟได้ครีเอตเมนูพิเศษให้ลองรับประทาน ซึ่งจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ และขึ้นอยู่กับวัตถุดิบในขณะนั้น ครั้งนี้เชฟนำเสนอ French Breakfast เซตอาหารเช้าแบบฝรั่งเศสที่แปลงโฉมซุปหอมใหญ่ให้อยู่ในเครื่องทำกาแฟ French Press จนดูเหมือนว่าจะเป็นเพียงกาแฟ มาพร้อมถ้วยเล็กๆ บรรจุของเหลวสีคล้ายนม แต่กลับเป็นครีมหอมใหญ่รสเข้มข้น เวลารับประทานให้เทซุปหอมใหญ่ใส่ถ้วยกาแฟ ตามด้วยครีมหอมใหญ่ จากนั้นลองกัดครัวซองต์น้ำปลาหวานตามเข้าไป

เริ่มต้นคอร์สแรกกับเมนูพิเศษตามเทศกาล Daikon ‘Scallop’ with Shrimp Hollandaise Sauce and Sea Grapes หัวไชเท้าที่ครีเอตให้เหมือนหอยเชลล์ ราดซอสฮอลลันเดสรสเปรี้ยว และยังมีฟัวกราส์ที่ทำจากมูสตับไก่เสิร์ฟบนถ้วยเมอแรงก์

จานถัดมา Sunchoke ที่ใช้ทุกส่วนของต้นทานตะวันให้เกิดประโยชน์ตั้งแต่รากไปจนถึงกลีบดอกไม้ เชฟนำแก่นตะวันไปทอด จากนั้นตกแต่งด้วยต้นอ่อนทานตะวัน กลีบดอกทานตะวัน และเมล็ดทานตะวันครัมเบิล พร้อมปรุงรสชาติด้วยเดรสซิ่งกระเทียมดำที่เชฟทำขึ้นด้วยตัวเอง และฮาลูมิพิวเร่ที่ทำจากชีสรสนุ่มส่งตรงจากเชียงใหม่ กับบีทรูตพิวเร่สีม่วงเข้ม

Risotto จากส่วนเกินของกระบวนการคัดเมล็ดข้าว เชฟได้พยายามนำเมล็ดข้าวหักเหล่านี้มาทำเป็นริซอตโตโดยนำไปตุ๋นกับน้ำสต๊อกผัก ผัดชีส Tomme de Chiang Rai เสิร์ฟพร้อมกุ้งแม่น้ำย่าง ต้นหอมญี่ปุ่น และแรดิช

Pork Neck คอหมูซูวีด์ย่างไฟแรงจับคู่กับแครอทจิ๋ว เพิ่มอโรมาให้กับอาหารด้วยน้ำมันโหระพา เครื่องเทศ และสมุนไพรที่สอดแทรกอยู่ในเครื่องปรุงรสทั้งสามเลเยอร์อย่าง พิวเร่แครอทกับยี่หร่า ซอสแครอทกับขิง และผงข่าอบแห้ง ช่วยเพิ่มรสชาติให้กับคอหมูและยังตัดเลี่ยนอีกด้วย

ก่อนที่จะจบคอร์สด้วยของหวานสองอย่าง Tomato มะเขือเทศวัตถุดิบที่มักพบในอาหารมากกว่าของหวาน แต่ครั้งนี้เชฟนำเสนอในรูปแบบของหวาน โดยใช้มะเขือเทศส่งจากฟาร์มในเชียงใหม่นำไปคอมเพรสกับขิงจนให้สัมผัสและรสฉ่ำ มาพร้อมกับเครื่องเคียงอย่างผลมะเดื่อสดโครงการหลวง โฮมเมดกราโนลา และคัสตาร์ดใบเตย รับประทานพร้อมกันทั้งหมดเพื่อสัมผัสรสชาติอันซับซ้อน

แล้วต่อด้วย Custard คัสตาร์ดอบควันเทียนส่งกลิ่นหอมเกินห้ามใจ มาในถ้วยพร้อมกรานิตาเสาวรส เมลอน ชมพู่สับละเอียด และขนมดอกจอก ก่อนรับประทานลองกะเทาะขนมดอกจอกให้แตกแล้วนำไปคลุกเคล้ากับส่วนผสมที่เหลือ แล้วคุณจะได้ของหวานที่รสสัมผัสกรุบกรอบ มีความสมดุลระหว่างหวานกับเปรี้ยว พร้อมกลิ่นควันเทียนหอมๆ ที่โชยออกมาเป็นระยะ

The Drinks

ด้านหลังร้านเป็นที่ตั้งของ The Pink Flamingo ค็อกเทลบาร์บรรยากาศเรโทรยุค 80s โดดเด่นด้วยเพลงและไฟนีออนรูปฟลามิงโก เช่นเดียวกับอาหาร เครื่องดื่มที่นี่ล้วนแต่มีส่วนผสมของวัตถุดิบท้องถิ่น รวมถึงโฮมเมดไซรัปจากผลไม้และสมุนไพรไทย ซึ่ง คัลวิน ฟง หัวหน้าบาร์เทนเดอร์เป็นผู้ออกแบบและสร้างสรรค์ ก่อนเริ่มมื้ออาหาร ลองมาแวะจิบเครื่องดื่มเบาๆ อย่าง Purple Rain (350 บาท) ค็อกเทลสีม่วงสดใสพร้อมฟองนุ่มๆ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเพลงของ Prince ที่ออกอัลบัมเมื่อปี 1984 แก้วนี้มีส่วนผสมของวอดก้า เหล้าอาร์ติโชก น้ำเชื่อมอัญชัน พร้อมสัมผัสอันเผ็ดร้อนที่ได้จากขิงและความหอมของตะไคร้

หรือหากมานั่งชิลล์ๆ หลังมื้ออาหาร แนะนำ Flamingo Sling (350 บาท) ค็อกเทลที่ทวิสต์มาจากค็อกเทล Singapore Sling อันโด่งดัง โดยเปลี่ยนจากเหล้า Bénédictine เป็น Fernet Branca เหล้าสมุนไพรที่ให้กลิ่นหอมและเพิ่มมิติโดยรวม ผสมน้ำสับปะรดและน้ำเชื่อมโฮมเมดเกรนาดีน จิบแล้วรู้สึกเย็นและสดชื่น นอกจากเครื่องดื่มแล้วยังมีขนมขบเคี้ยวเล็กๆ ไว้ให้รองท้องอย่าง Local Sandwich (190 บาท) ขนมปังแซนด์วิชโฮมเมดสอดไส้ลาบหมูสับกับต้นหอมซอย เป็นต้น

What You Should Know

• • ก่อนไปถึงคอร์สแรกจะมี amuse bouche ซึ่งเป็นอาหารชิ้นเล็กๆ ปรุงขึ้นตามใจเชฟ โดยจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ตามวัตถุดิบประจำวันและเทศกาล

• แม้ที่ดินบริเวณ Arena 10 จะถูกซื้อเพื่อไปทำคอนโดมิเนียม แต่ตัวอาคารซึ่งเป็นที่ตั้งของร้านยังคงเปิดให้บริการตามปกติไปอีก 3 ปี

Prelude Restaurant & Bar [ปิดกิจการแล้ว]

Open: เปิดวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 18.00-24.00 น.

Address: Arena 10 ซอยทองหล่อ 10 กรุงเทพฯ

Budget: เริ่มต้น 750 บาท

Contact: 06 1384 1067

Page: www.facebook.com/preludebkk

Map: