×

ประยุทธ์แจง หนี้สาธารณะเพิ่ม เพราะต้องใช้หนี้ให้โครงการรับจำนำข้าวด้วย ยืนยันติดต่อซื้อวัคซีนเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

โดย THE STANDARD TEAM
01.06.2021
  • LOADING...
หนี้สาธารณะ

วันนี้ (1 มิถุนายน) ที่ห้องประชุมสุริยัน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลุกขึ้นตอบข้อซักถามของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ใหม่ช่วงค่ำวันนี้ว่า งบประมาณประจำปี 2565 ทุกค่าใช้จ่ายที่รัฐบาลได้เสนอมานั้นได้นำสู่การไตร่ตรองและคัดกรองอย่างเข้มงวด 

 

สำหรับประเด็นเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ขณะนี้มียอดผู้ติดเชื้อที่ลดลงในวันนี้เหลือเพียง 2,230 คน โดยรัฐบาลพยายามที่จะแก้ปัญหาทั้งคลัสเตอร์ภายในเรือนจำและคนงานให้ได้โดยเร็วที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการบริหารเตียงสำหรับผู้ป่วยและโรงพยาบาลสนาม รวมถึงปรับเปลี่ยนวิธีในการเข้ารับการฉีดวัคซีน และสถานที่ในการฉีดวัคซีน 

 

“ทั้งนี้ การคำนวณในฐานะที่ผมเคยเป็นทหาร ถ้าเราสามารถจัดหาวัคซีนได้จำนวน 10 ล้านโดส จากเดือนนี้มิถุนายนไปจนถึงเดือนธันวาคม 2564 เราจะสามารถคุ้มครองประชาชนได้ประมาณ 70 ล้านคน ซึ่งหากได้รับวัคซีนจำนวน 9 ล้านโดส ก็จะสามารถคุ้มครองประชาชนได้ที่จำนวน 63 ล้านคน นี่คือจำนวนวัคซีนที่ได้คำนวณออกมาอย่างคร่าวๆ”

 

นอกจากนั้น กระทรวงสาธารณสุขได้พยายามติดต่อขอซื้อวัคซีนเพิ่มเติมจากยี่ห้ออื่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ประเทศไทยก็มีวัคซีนเข้ามาแล้วสองยี่ห้อคือ Sinovac และ AstraZeneca ตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป คาดว่าการบริหารจัดการวัคซีนจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ว่าจะมีวัคซีนยี่ห้ออื่นเข้ามาเสริม เช่น Sinopharm 

 

ทั้งนี้ คาดว่าวัคซีนของของ Pfizer จะเข้ามาในประเทศไทยได้ในไตรมาสที่ 3 และ 4 ซึ่งก็อยู่ในแผนบริหารจัดการของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่ปัญหาของวัคซีนในขณะนี้คือทุกประเทศในโลกต่างแย่งชิงกัน เป็นเรื่องที่แต่ละบริษัทจะต้องได้รับอนุมัติจากรัฐบาลก่อนที่จะส่งออกนอกประเทศ

 

ในส่วนของการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดซื้อวัคซีน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลได้ใช้งบประมาณพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมาทั้งในส่วนของ พ.ร.ก. กู้เงิน และงบกลาง จึงยืนยันว่าขณะนี้รัฐบาลไม่มีปัญหาในการจัดงบประมาณเพื่อจัดซื้อวัคซีนอย่างแน่นอน ซึ่งผู้ใดจะนำเข้าวัคซีนอย่างไรในอนาคตต้องผ่านการเจรจากับบริษัทผู้แทนภายในประเทศ 

 

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของคุณภาพของวัคซีน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในวันนี้ยังคงยืนยันว่าข้อมูลทุกอย่างมาจากสาธารณสุขและทีมแพทย์ โดยไม่ได้ใช้อำนาจในการพิจารณาของตนเพียงผู้เดียว โดยรัฐมนตรีเกือบทั้งหมดก็อยู่ในทีมของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ได้มีการปรึกษาหารือกันมาโดยตลอดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และบุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น ตนใช้ดุลยพินิจในการพิจารณาตัดสินใจจากตรงนั้น ไม่ใช่สั่งการโดยเอาแต่ใจอย่างที่หลายท่านกล่าวหา ท่านเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าไม่ทราบ เพราะฉะนั้น ยืนยันว่าวันนี้วัคซีนที่มีอยู่ของประเทศไทยมีขีดความสามารถป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ 

 

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้นว่า ส่วนหนึ่งเป็นการใช้หนี้ในโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลในชุดที่ผ่านมาด้วย โดยตนได้ใช้หนี้ให้รัฐบาลชุดที่ผ่านมากว่า 5 แสนล้านบาทแล้ว เหลือภาระหนี้อีก 2.8 แสนล้านบาท ก็ต้องทยอยใช้หนี้อีก 12 ปีถึงจะหมดภาระ

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising