การปฏิรูปคือหนึ่งในเหตุผลสำคัญในการสร้างความชอบธรรมของการรัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2557 ผ่านไปแล้ว 4 ปี เริ่มมีเสียงทวงถามความคืบหน้าว่าด้วยการปฏิรูป โดยหนึ่งในนั้นคือประธานกรรมการปฏิรูปคนสำคัญ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมา นายบวรศักดิ์ออกมายอมรับว่าการปฏิรูปอาจไม่สำเร็จ เพราะแผนการปฏิรูปทั้งหมดต้องให้ส่วนราชการซึ่งทำงานแบบค่อยเป็นค่อยไปมาขับเคลื่อน พร้อมบอกด้วยว่ารู้สึกเหนื่อย เพราะมองไม่เห็นว่าจะไปจบลงอย่างไร
วันนี้ (15 พ.ค.) หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีนี้ โดยสั่งให้คณะทำงานรวบรวมสิ่งที่ปฏิรูปสำเร็จแล้วมานำเสนอ พร้อมย้อนคำวิจารณ์นายบวรศักดิ์ว่า ถ้าพูดกันไม่รู้เรื่องแปลว่าเราพูดคนละภาษากัน
พล.อ. ประยุทธ์ พยายามอธิบายถึงการปฏิรูปที่ทำสำเร็จไปแล้วว่า ระยะที่ 1 เมื่อรัฐบาลเข้ามาแรกๆ ก็ปฏิรูปเรื่องความขัดแย้ง กระบวนการยุติธรรม ตอนนี้เป็นระยะที่ 2 ก็จะเกิดผลโดยรวมขึ้นมา เช่น เกษตรกรได้อะไร ผู้ยากจนมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างไร และการรื้อฟื้นกองทุนหมู่บ้านในลักษณะที่ไม่ได้ให้กู้เงินอย่างเดียว รวมถึงแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจต่างๆ
ส่วนข้อวิจารณ์ที่ให้ระบบราชการซึ่งล่าช้าเป็นผู้ปฏิบัตินั้น พล.อ. ประยุทธ์ ยืนยันว่าวันนี้ประเทศไทยข้าราชการยังคงมีบทบาทนำในการปฏิบัติ เพราะทุกอย่างวันนี้เรายังคงต้องใช้ข้าราชการในการขับเคลื่อน
นอกจากนี้ยังระบุด้วยว่าการปฏิรูปต้องอาศัยเวลา ไม่ใช่จะทำอะไรก็ได้เลย ถ้าจะให้ปฏิรูปทุกคนต้องร่วมมือกันตามเหตุผล เราอยากจะปฏิรูป แต่บางอย่างทำไม่ได้เพราะติดที่ประชาชน ตนไม่ได้โทษประชาชน แต่พอบังคับมากๆ ก็หาว่ารัฐบาลรังแกคนจน
“กำลังให้หน่วยงานสรุปการปฏิรูปทั้งหมดมา แต่ถ้ายังพูดกันไม่รู้เรื่องแปลว่าเราพูดคนละภาษากัน เพราะฉะนั้นใครจะพูดอะไรก็ตาม ในเมื่อจะทำงานร่วมกัน เพราะคณะทำงานทุกคณะก็ต้องปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลทั้งสิ้น” พล.อ. ประยุทธ์ กล่าว
