×

ประวิตรเตรียมเปิด ‘กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ’ ขอประชาชนมั่นใจ มีน้ำใช้ตลอดหน้าแล้ง

10.01.2020
  • LOADING...

ประธานเตรียมเปิดกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ โดยมีหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมด้วย พร้อมกล่าวมอบนโยบายการขับเคลื่อนการทำงานของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลมีความห่วงใยต่อสถานการณ์ภัยแล้งและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน 

 

สำหรับ ‘กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ’ เกิดขึ้นตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งได้เห็นชอบกรอบโครงสร้างกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ภายใต้ศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 เพื่ออำนวยการ บูรณาการ และประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงภาคเอกชน ในการควบคุมวิกฤตน้ำในภาวะรุนแรงหรือคาดการณ์ว่าจะรุนแรง (ระดับ 2) โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงภัยแล้ง ให้อยู่ในวงจำกัด ให้หน่วยงานด้านปฏิบัติในพื้นที่สามารถช่วยเหลือได้อย่างตรงจุด 

 

ทั้งนี้ มีผู้แทนจากหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ร่วมเป็นกรรมการ เช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ กรมเจ้าท่า การประปาภูมิภาค การประปานครหลวง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ฯลฯ มาปฏิบัติงานร่วมกัน 

 

โดยจะใช้ห้องประชุมชั้น 4 อาคารที่ทำการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นสถานที่ปฏิบัติงานของกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ซึ่งแบ่งการทำงานเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มอำนวยการ กลุ่มคาดการณ์ กลุ่มบริหารจัดการน้ำ กลุ่มแจ้งเตือนและประชาสัมพันธ์ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ข้อมูลต่างๆ รวมถึงการเข้าให้ความช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบมีความเป็นเอกภาพ ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบได้อย่างทันต่อสถานการณ์ ซึ่งกองอำนวยการน้ำแห่งชาติจะสรุปรายงานต่อ พล.อ. ประวิตร ในฐานะผู้บัญชาการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ และคณะรัฐมนตรี รับทราบเป็นระยะๆ

 

​ขณะเดียวกัน กองอำนวยการน้ำแห่งชาติยังทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์ผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ หากมีเกณฑ์เสี่ยงที่คาดว่าจะเข้าขั้นวิกฤต ก็จะต้องพิจารณาเสนอการกำหนดเขตภาวะน้ำแล้งอย่างรุนแรง หรือระดับความรุนแรง สถานการณ์ภาวะวิกฤตน้ำ (ระดับ 3) ให้นายกรัฐมนตรีออกประกาศตามมาตรา 58 หรือคำสั่งจัดตั้งศูนย์บัญชาการเฉพาะกิจ ตามมาตรา 24 แห่งพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. 2561 หากเกิดกรณีวิกฤตตามลำดับต่อไป 

 

นอกจากนี้ พล.อ. ประวิตร กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านน้ำ ได้บูรณาการจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี 2562/63 ไว้ล่วงหน้าในการจัดเตรียมแหล่งน้ำสนับสนุนในพื้นที่เสี่ยงจะขาดแคลนน้ำพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ ทั้งน้ำอุปโภคบริโภค สถานพยาบาล และน้ำเพื่อสนับสนุนพืชเศรษฐกิจ โดยปรับแผนการดำเนินงานของทุกหน่วยงานในปีงบประมาณ 2563 ที่จัดลำดับความสำคัญของโครงการที่สามารถตอบสนองความต้องการใช้น้ำของประชาชนในพื้นที่ที่คาดว่าจะประสบปัญหาภัยแล้งก่อนเป็นอันดับแรก เช่น การขุดเจาะบ่อบาดาล การซ่อมแซมระบบประปา เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายน้ำให้เข้าถึงประชาชนได้มากขึ้น ฯลฯ 

 

รวมถึงให้มีการเร่งรัดดำเนินการปรับปรุง ซ่อมแซมระบบน้ำ พัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ แก้มลิง ในกรอบวงเงินงบประมาณปี 2563 ควบคู่กันด้วย เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำได้ทันในฤดูฝนปี 2563 ด้วยเช่นกัน สำหรับพื้นที่ที่มีการปลูกข้าวนาปรังมากกว่าแผน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกระทรวงมหาดไทยต้องหามาตรการลดผลกระทบ ชดเชย หรือเยียวยา โดยให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง

 

“กองอำนวยการน้ำแห่งชาติจะมีการติดตาม ประเมินผล ผลการดำเนินงานของทุกหน่วยงานให้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ทั้งนี้รัฐบาลต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้ช่วยกันประหยัดน้ำ และใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อจะได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในทุกกิจกรรมไปตลอดแล้งนี้ และในช่วงฤดูฝนถัดไป” พล.อ. ประวิตร กล่าวปิดท้าย

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising