วานนี้ (15 สิงหาคม) พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยถึงปัญหาหนี้นอกระบบที่เป็นเหมือนทุกข์กองโตของประชาชน ทำให้หลายครอบครัวต้องใช้ชีวิตทนทุกข์จมกับกองหนี้มานาน สุดท้ายไม่เหลือแม้แต่บ้านเรือน ทรัพย์สิน และที่ดินทำกิน การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบจึงเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญสำหรับการบริหารประเทศของรัฐบาล ที่ต้องการลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและขาดโอกาส ที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากกลุ่มอิทธิพลมานาน โดยเฉพาะเจ้าหนี้นอกระบบ
พล.อ. ประวิตร กล่าวว่า ตนได้ประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายปกครอง และตำรวจ ลงไปช่วยดูแลแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนจากหนี้นอกระบบที่มีมากขึ้นจากกลุ่มนายทุนฉวยโอกาสปล่อยกู้เก็บดอกโหด และส่งแก๊งทวงหนี้เหิมเกริมข่มขู่และใช้ความรุนแรงกับลูกหนี้หาเช้ากินค่ำ เพื่อไม่ให้ซ้ำเติมบั่นทอนชีวิตครอบครัวผู้มีรายได้น้อย รวมถึงทุกภาคส่วนราชการที่พยายามขับเคลื่อนแก้ปัญหา ทั้งการเจรจาไกล่เกลี่ยและการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงทรัพย์สินของประชาชนของตำรวจ ซึ่งบังคับใช้กฎหมาย สามารถไกล่เกลี่ยและส่งคืนทรัพย์สินให้กับประชาชนได้จำนวนมาก
“เราต้องเข้าใจว่าปัญหาหนี้นอกระบบฝังรากลึกในสังคมไทยมาอย่างยาวนาน ทำให้ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่รอการช่วยเหลือ ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในทุกพื้นที่ยังคงต้องเร่งทำงาน เพื่อเดินหน้าเข้าไปปลดล็อกปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยกับดักความยากจนของสังคมที่สำคัญที่จำเป็นต้องติดตาม รวมทั้งประสานการให้โอกาสและการช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่องกันไปให้สามารถกลับมายืนเข้มแข็งไปด้วยกัน” พล.อ. ประวิตร กล่าว
นอกจากนี้ พล.อ. ประวิตร มองว่า การดำเนินการเพื่อปราบปรามเจ้าหนี้นอกระบบเพียงอย่างเดียวคงไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ตนจึงได้ประสานไปยังกระทรวงการคลังและกระทรวงแรงงาน เพื่อเข้าไปร่วมเสริมการจัดหาแหล่งทุนและพัฒนาทักษะอาชีพให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย ให้สามารถเข้าถึงโอกาสได้ เป็นการช่วยสร้างความเข้มแข็งของผู้มีรายได้น้อยและลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคมด้วย