×

สัมผัสรสชาติอาหารไทยร่วมสมัยในบรรยากาศโพสต์โมเดิร์นที่พรานกระต่าย – Prankratai Eaternity Jungle

27.07.2019
  • LOADING...
Prankratai Eaternity Jungle

HIGHLIGHTS

3 Mins. Read
  • ไทยร่วมสมัย คือคำจำกัดความของรูปแบบอาหารที่พรานกระต่าย ร่วมสมัยในที่นี้คือมีทั้งเมนูอาหารไทยโบราณ เมนูอาหารบ้านๆ ที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศกินมื้อเย็นกับครอบครัว หรือจะเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่สอดรับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันที่มีแต่ความเร่งรีบ จะเป็นอาหารชาววัง ชาวบ้าน หรือชาวเมืองก็มีครบครัน
  • ข้าวอบสับปะรด (300 บาท) ในฐานะเมนูข้าวที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมรับประทาน แต่คนไทยแทบไม่มีใครสั่ง ลองเปิดใจแล้วมากินที่พรานกระต่ายดู ข้าวผัดแห้งร่วน ใส่กุ้ง หมูหยอง พริกหวาน ลูกเกด มะม่วงหิมพานต์ และเนื้อสับปะรด จากนั้นตักข้าวผัดใส่ลูกสับปะรดที่คว้านเนื้อแล้ว และนำสับปะรดทั้งลูกไปเผาไฟให้ระอุ จนกระทั่งความฉ่ำและรสชาติของสับปะรดซึมเข้าไปทุกอณูในข้าวผัด 

พูดถึงถนนบรรทัดทอง หลายคนคงนึกถึงแหล่งเซียงกงอะไหล่รถเก่า หรือไม่ก็สตรีทฟู้ดเจ้าดังที่ชุกชุมไปด้วยผู้คนมากหน้าหลายตา ตั้งแต่พระอาทิตย์เริ่มโพล้เพล้ยาวไปจนถึงหลังเที่ยงคืน โดยเฉพาะเรื่องของกิน เพราะมีทั้งคาเฟ่ที่เปิดให้นิสิตนั่งถึงดึกๆ ดื่นๆ ร้านอาหารจีนเก่าแก่ถูกใจเหล่าอากงอาม่า ร้านข้าวต้มเป็ดและมาม่าทะเลรวมมิตรที่คิวยาวทุกวัน ร้านสเต๊กและเบอร์เกอร์ในตำนาน ร้านโรตีกรอบและชาชัก หรือร้านบัวลอยไว้ปิดท้ายมื้อดึกก่อนกลับบ้าน แต่ครั้งนี้ THE STANDARD จะพาไปกินข้าวที่จุฬาซอย 6 ข้าง Stadium One อันเป็นที่ตั้งของร้านอาหารไทยร่วมสมัย ที่บรรยากาศหลุดกรอบไปจากความบรรทัดทอง ชวนให้หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปเหลือเกิน

 

Prankratai Eaternity Jungle

 

The Vibe

‘พรานกระต่าย’ แค่ชื่อก็ชวนฉงนสงสัยว่าเพราะอะไร แล้วมีเมนูกระต่ายด้วยหรือเปล่า ซึ่ง ปุ๊ก-พัชรินทร์ พรพิพัฒน์กุล เจ้าของร้าน ได้เล่าให้ฟังถึงที่มาของชื่อร้าน ซึ่งกระต่ายนั้นมาจากปีนักษัตริย์ของปุ๊กนั่นเอง และที่เติมพรานนำหน้าก็เพื่อสื่อให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจนำเสนอของกินที่ดี เสิร์ฟตรงถึงโต๊ะ ไม่ต่างอะไรกับนายพรานที่เข้าป่าเสาะแสวงหาวัตถุดิบดีๆ แล้วกลับมานำเสนอให้คนทั่วไปได้รับรู้

 

Prankratai Eaternity Jungle

 

แม้ทำเลจะอยู่บนเส้นถนนบรรทัดทอง แต่อย่าคิดไปว่าร้านอาหารไทยแห่งนี้จะตกแต่งให้กลมกลืนหรือเป็นแค่ห้องแถวธรรมดา ด้วยโครงกระจกส่วนหน้าของร้านที่โดดเด่นสะดุดตาที่สุดในซอยจุฬา 6 หากมองผ่านๆ ดูเหมือนคาเฟ่ แต่เมื่อผลักประตูเข้ามาก็พบกับการตกแต่งที่ผสมผสานระหว่างความวินเทจ หรูหรา และความร่วมสมัย ค่อนไปทางโพสต์โมเดิร์น หยิบจับหลายสิ่งอย่างที่ขัดกันมาวางให้เข้าคู่ ไม่ว่าจะเป็นโครงอิฐ กำแพงกระจก โต๊ะหินอ่อน โซฟานวมสีน้ำเงิน แซมด้วยรูปปั้นกระต่ายเล็กๆ คล้าย Easter Egg ให้เราสังเกตและตามหาเล่นว่าซ่อนอยู่ที่มุมไหนของร้าน มีมุมถ่ายรูปกันเพลินระหว่างที่รออาหาร

 

Prankratai Eaternity Jungle

 

The Dishes 

ไทยร่วมสมัย คือคำจำกัดความของรูปแบบอาหารที่พรานกระต่าย ร่วมสมัยในที่นี้คือมีทั้งเมนูอาหารไทยโบราณ เมนูอาหารบ้านๆ ที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศกินมื้อเย็นกับครอบครัว หรือจะเป็นเมนูอาหารจานเดียวที่สอดรับไลฟ์สไตล์ยุคปัจจุบันที่มีแต่ความเร่งรีบ จะเป็นอาหารชาววัง ชาวบ้าน หรือชาวเมืองก็มีครบครัน และถ้านึกไม่ออกว่าแต่ละจานหน้าตาเป็นอย่างไรก็ขอดูเมนูใน iPad ได้

 

Prankratai Eaternity Jungle Prankratai Eaternity Jungle

หมี่กรอบส้มซ่า (160 บาท)

 

รองท้องด้วยของกินเล่นไทยโบราณอย่าง หมี่กรอบส้มซ่า (160 บาท) ที่ร้านทำหมี่กรอบเอง โดยทอดเส้นหมี่ให้ฟูกรอบ แยกพักน้ำมันไว้สักครู่ จากนั้นจึงผัดกับซอสสามรสจนเส้นหมี่เกาะเป็นแพ โรยผิวส้มซ่า เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ใบมะกรูด และพริกทอด ปั้นก้อนก่อนจัดลงจานเสิร์ฟ กินเล่นพอดีคำ ไม่เลอะเทอะ ส่วน ม้าฮ่อ (120 บาท) เป็นการจับคู่ระหว่างผลไม้กับเครื่องคาว สับปะรดชิ้นเล็กท็อปด้วยหมูสับ ไชโป๊ ถั่วลิสง ที่ผัดเข้ากันแล้วปั้นก้อน รับประทานพร้อมกันทั้งหมดเพื่อเรียกน้ำย่อยและเตรียมพร้อมสำหรับอาหารจานต่อไป

 

Prankratai Eaternity Jungle Prankratai Eaternity Jungle

ม้าฮ่อ (120 บาท) 

 

ข้าวสวยร้อนๆ สักจานกับ ไก่ห่อใบเตย (200 บาท) ก็ดูเข้าท่า สะโพกไก่หมักรากผักชี กระเทียม พริกไทย น้ำมันงา และสารพัดเครื่องเทศ เมื่อได้ที่แล้วจึงห่อใบเตย แล้วลงทอดในกระทะพร้อมกัน ได้ทั้งความนุ่ม ความหอมของใบเตย และรสชาติเข้มข้นจากเครื่องเทศซึมลึกถึงเนื้อใน ลองจิ้มกับซอสหวานดูก็อร่อยไปอีกแบบ

 

Prankratai Eaternity Jungle

ไก่ห่อใบเตย (200 บาท)

 

เมื่อเป็นอาหารไทย หากไม่มีน้ำพริกในมื้ออาหารก็คงไม่ใช่ เราเลือกน้ำพริกเบสิกอย่าง น้ำพริกกะปิ (260 บาท) น้ำพริกกะปิที่นี่ใส่มะอึกด้วย เพื่อให้มีความหวานอมเปรี้ยวแบบธรรมชาติ มาพร้อมปลาทูทอดจากแม่กลอง ไข่ชะอม และผักลวกราดกะทิสด

 

Prankratai Eaternity Jungle Prankratai Eaternity Jungle

น้ำพริกกะปิ (260 บาท)

 

เมื่อครั้งอดีตหากทำน้ำพริกแล้วเหลือ แม่ครัวก็จะดัดแปลงน้ำพริกส่วนที่เหลือให้เป็นเมนูอาหารใหม่ เช่นเดียวกับน้ำพริกกะปิที่ต่อยอดครีเอตเป็น แกงรัญจวนซี่โครงหมูอ่อน (280 บาท) เพิ่มตะไคร้ซอย หอมแดง ข่า มะเขือพวง และใบโหระพา เสิร์ฟแบบแห้ง แยกซุปรัญจวนให้เทผสมเองที่โต๊ะ

 

Prankratai Eaternity Jungle

แกงรัญจวนซี่โครงหมูอ่อน (280 บาท) 

 

ในส่วนของอาหารจานเดียว เราคงคุ้นเคยกับ ข้าวอบสับปะรด (300 บาท) ในฐานะเมนูข้าวที่นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมรับประทาน แต่คนไทยแทบไม่มีใครสั่ง ลองเปิดใจแล้วมากินที่พรานกระต่ายดู ข้าวผัดแห้งร่วน ใส่กุ้ง หมูหยอง พริกหวาน ลูกเกด มะม่วงหิมพานต์ และเนื้อสับปะรด จากนั้นตักข้าวผัดใส่ลูกสับปะรดที่คว้านเนื้อแล้ว และนำสับปะรดทั้งลูกไปเผาไฟให้ระอุ จนกระทั่งความฉ่ำและรสชาติของสับปะรดซึมเข้าไปทุกอณูในข้าวผัด แต่เมื่อเสิร์ฟแล้วไม่แฉะอย่างที่คิด ได้รสชาติของสับปะรดเต็มคำเลยทีเดียว

 

Prankratai Eaternity Jungle

ข้าวอบสับปะรด (300 บาท)

 

ก่อนที่จะตบท้ายด้วย ฟักทองแกงบวด (100 บาท) ขนมหวานเรียบง่ายที่มีเพียงฟักทอง กะทิสด เกลือ และน้ำตาล รสกลมกล่อม บาลานซ์ระหว่างความหวานกับเค็ม อิ่มท้องแบบไม่เลี่ยน

 

Prankratai Eaternity Jungle

ฟักทองแกงบวด (100 บาท)

 

พรานกระต่าย

Open: ทุกวัน 11.00-14.30 น., 17.00-22.00 น.

Address: ซอยจุฬา 6 ถนนบรรทัดทอง

Budget: 300-500 บาท

Contact: 09 8632 5353

Website: www.facebook.com/prankratai.bkk

Map: 

 

 

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising