(20 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 4 มาตรการ
1. ค่าน้ำ-ไฟไม่เกินเกณฑ์ ใช้ฟรี 10 เดือน
มาตรการแรกคือผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จากการสอบถามพบว่ามีความเดือดร้อน 2 เรื่องคือค่าน้ำและค่าไฟ กระทรวงการคลังจึงเสนอให้ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาทต่อเดือน และใช้น้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อเดือน ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำและค่าไฟ
แต่วิธีการใช้คือเมื่อไปจ่ายค่าน้ำและค่าไฟ ถ้าอยู่ในกรอบวงเงินที่กำหนดก็สามารถนำบิลไปชำระที่การประปาและการไฟฟ้า ซึ่งเมื่อชื่อผู้ใช้ตรงกับชื่อผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินตามที่ชำระคืนกลับเข้าไปในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของท่าน
อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ จะต้องใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาทต่อเดือน และน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อเดือนจึงจะได้รับสิทธิ์ ทั้งนี้รัฐคิดถึงหลักการใช้จ่ายอย่างประหยัด หากให้ทุกคนได้รับสิทธิ์หมดก็จะใช้น้ำและไฟกันอย่างไม่ประหยัด เพราะถือว่ารัฐจ่ายเงินสนับสนุนให้ส่วนหนึ่งแล้ว
สำหรับมาตรการนี้จะเริ่มใช้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ถึงกันยายน 2562 รวมระยะเวลา 10 เดือน
2. แจกเงินโบนัส 500 บาทต่อคนในเดือนธันวาคม
ส่วนมาตรการที่ 2 เนื่องจากช่วงปลายปีพี่น้องประชาชนมีรายจ่ายมาก จึงจะเพิ่มเงินเข้าไปในบัตรอีก 500 บาทต่อคน แต่เป็นแบบจ่ายครั้งเดียวในเดือนธันวาคม
3. อัดฉีดค่าเช่าบ้าน-โบนัสผู้สูงอายุ
ขณะที่อีก 2 มาตรการเป็นการเพิ่มเติมสิทธิ์ให้กับผู้สูงอายุที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ
ผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปีจะได้รับเงิน 1,000 บาทต่อคน ซึ่งจะได้รับครั้งเดียวในเดือนธันวาคม
ส่วนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ต้องเช่าที่อยู่อาศัยจะได้เงินเพิ่ม 400 บาทสำหรับค่าเช่าที่อยู่อาศัย เริ่มใช้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 ถึงกันยายน 2562 รวมระยะเวลา 10 เดือน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์