จอห์น เลเจนด์ เกิดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 1978 ที่เมืองสปริงฟีลด์ รัฐโอไฮโอ เติบโตมาในครอบครัวนักดนตรีที่มีคุณพ่อเป็นมือกลองและคุณแม่เป็นนักร้องในคณะประสานเสียงของโบสถ์ ทำให้จอห์นได้ซึมซับและฝึกร้องเพลงในโบสถ์ตั้งแต่อายุ 4 ขวบ และเล่นเปียโนครั้งแรกตอนอายุ 7 ขวบ
นอกจากพรสวรรค์ด้านดนตรี จอห์นยังเป็นนักเรียนดีเด่นในช่วงไฮสคูล ทำให้มีข้อเสนอจากมหาวิทยาลัยชั้นนำหลายแห่ง และทันทีที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย จอห์นก็เริ่มต้นไล่ตามความฝันที่อยากเป็นนักร้องด้วยการอัดเดโมเพื่อนำไปเสนอค่ายเพลงต่างๆ จนกระทั่งในปี 2001 เขาก็ได้รับข้อเสนอให้มาทำเพลงกับ คานเย เวสต์ และเซ็นสัญญากับค่ายเพลง GOOD Music ในเวลาต่อมา
จอห์นปล่อยเดบิวต์อัลบั้มอย่าง Get Lifted ออกมาในปี 2004 ซึ่งสามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 7 บนชาร์ต US Billboard 200 และทำยอดขายได้กว่า 8.5 แสนก๊อบปี้ทั่วโลก และทำให้จอห์นที่แม้จะเป็นศิลปินหน้าใหม่ แต่สามารถคว้ารางวัลแกรมมี่ในสาขา Best New Artist, Best R&B Album และ Best Male R&B Vocal Performance (ในเพลง Ordinary People) มาได้สำเร็จ
หลังจากนั้นจอห์นก็ยังทำผลงานเพลงคุณภาพและกวาดรางวัลอย่างต่อเนื่อง กระทั่งสตูดิโออัลบั้มที่ 4 อย่าง Love in the Future ที่มีเพลง All of Me กลายเป็นเพลงระดับปรากฏการณ์ ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 เบียดแซงเพลง Happy ของ ฟาร์เรลล์ วิลเลียมส์ ที่ครองตำแหน่งมาก่อนหน้านานถึง 10 สัปดาห์ และล่าสุดมีคนกดเข้าไปดูมิวสิกวิดีโอนี้ถึง 1.5 พันล้านครั้ง
นอกจากวงการดนตรีแล้ว จอห์นยังมีผลงานโดดเด่นในฐานะโปรดิวเซอร์ละครเวทีเรื่อง Jitney ในปี 2017 ซึ่งสามารถชนะรางวัล Best Revival of Play จากเวที Tony Awards หรือใน Jesus Christ Superstar Live in Concert (2018) มิวสิคัลที่เขาร่วมแสดงและเป็นผู้อำนวยการสร้างก็คว้า Emmy Awards สาขา Outstanding Variety Special (Live)
รวมทั้งการคว้ารางวัลออสการ์สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเพลง Glory ที่ประกอบภาพยนตร์เรื่อง Selma (2015) ทำให้เขากลายเป็นศิลปินแอฟริกัน-อเมริกันชายคนแรกที่สามารถกวาดรางวัลใหญ่จากเวทีแต่ละแขนงของวงการบันเทิง (Emmy, Grammy, Oscar, Tony) ได้ครบทั้งหมด
ภาพ: Virginia Sherwood / NBC / NBCU Photo Bank via Getty Images