×

Pokémon พิมพ์การ์ด 9 พันล้านใบในปีที่ผ่านมา โดย ‘นักเก็งกำไร’ บางคนสามารถไปขายต่อได้เพิ่มขึ้น 350 เท่าจาก ‘การ์ดหายาก’

10.07.2022
  • LOADING...
Pokémon

ประมาณ 30% ของการ์ด Pokémon ที่สร้างจากแอนิเมชันญี่ปุ่นที่มีชื่อเดียวกัน และซื้อขายตั้งแต่ปี 1997 ถูกพิมพ์ออกมาในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังคือ ‘นักเก็งกำไร’

 

ปีที่แล้วบริษัท Pokémon ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Nintendo และอีก 2 บริษัทที่จัดการผลิตภัณฑ์ Pokémon ทั้งหมด กล่าวว่า “เราตระหนักดีว่าแฟนๆ บางคนกำลังประสบปัญหาในการซื้อผลิตภัณฑ์ Pokémon (การ์ดเกม) เนื่องจากมีความต้องการสูงมาก ” และสัญญาว่าจะพิมพ์ซ้ำ ‘ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับผลกระทบในปริมาณสูงสุด’

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

 


 

ในเดือนมิถุนายน Pokémon ได้ออกมาเผยว่า การพิมพ์ซ้ำปริมาณสูงสุดหมายถึงอะไร โดยได้เปิดเผยว่า บริษัทได้พิมพ์การ์ดเกม 9 พันล้านใบระหว่างเดือนมีนาคม 2021 – มีนาคม 2022 ซึ่งมากกว่า 2 เท่าของปริมาณที่พิมพ์เมื่อปีก่อน และสูงกว่าค่าเฉลี่ยประจำปีที่ 1 พันล้านใบ

 

จนถึงปัจจุบัน Pokémon ได้พิมพ์การ์ดเกมประมาณ 43.2 พันล้านใบตั้งแต่เปิดตัว

 

“การพิมพ์ซ้ำนั้นได้ผล” Charlie Hurlocker ที่ปรึกษาอาวุโสของ CGC บริษัทที่ประเมินคุณภาพของการ์ดก่อนการประมูล บอกกับ Polygon Hurlocker กล่าวพร้อมเสริมว่า แม้แต่การ์ดทั่วไปส่วนใหญ่ก็ยังขายได้ในราคา 6 เซนต์ในช่วงที่ความนิยมของ Pokémon สูงในปีที่แล้ว

 

สิ่งที่น่าสนใจคือตลอดปี 2021 นักลงทุนรายย่อยใช้เงินสดหุ้นในลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ด้วยความหวังว่าจะได้รับผลตอบแทนจำนวนมากอย่างรวดเร็ว ในขณะที่บางคนตัดสินใจลงทุนในการ์ด Pokémon

 

ปกติแล้วการ์ด Pokémon จำหน่ายเป็นแพ็กในราคาเท่ากันที่ 4 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 150 บาท ซึ่งประกอบด้วยการ์ดทั่วไปและการ์ดหายาก ซึ่ง ‘การ์ดหายาก’ สามารถทำราคาได้สูงสำหรับผู้ที่โชคดี

 

ในเดือนเมษายนปี 2021 ลูกค้ารายหนึ่งสามารถเปิดได้การ์ด ‘Shiny Charizard VMAX’ ซึ่งสามารถขายต่อได้ในราคา 350 เท่า หรือ 1,400 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 50,000 บาท) แม้แต่การ์ดที่เก่ากว่าและหายากกว่าก็สามารถขายได้เป็นเงินมหาศาล เมื่อต้นปีที่แล้วการ์ดโฮโลแกรม Charizard จากปี 1999 ขายบน eBay ในราคา 311,800 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 11 ล้านบาท 

 

ความโชคดีที่อาจเกิดขึ้นทำให้นักสะสมต่างแห่ไปซื้อการ์ด Pokémon ด้วยหวังว่าจะได้การ์ดหายากที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำเข้ากระเป๋า ซึ่งความสนใจในการซื้อขายการ์ด Pokémon ในฐานะสินทรัพย์เพิ่มขึ้นสูงมากในปีที่แล้ว ทำให้ต้องเข้าคิวรอจากบริษัทตรวจสอบถึง 10 เดือนเลยทีเดียวเพื่อประเมินมูลค่าการ์ด

 

กระนั้นดูเหมือนการคลั่งไคล้จะเย็นลงแล้ว รวมไปถึงการลงทุนอื่นๆ เช่น NFT สินทรัพย์ประเภทนี้มีมูลค่าลดลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนบางส่วนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising