ครูลูกกอล์ฟ ในรายการ We Need To Talk เอพิโสดที่แล้ว เล่าเรื่องชีวิตและการงาน มาเอพิโสดนี้ เล่าเรื่องชีวิตรัก ซึ่งเราอาจเคยฟังไปบ้างแล้วตามสื่อต่างๆ แต่นี่จะเป็นครั้งแรกที่จะได้ฟังในภาษาอังกฤษ และฟังแบบช่วยกันเล่าจากปากของทั้งสองเอง ครูลูกกอล์ฟ และ พอล เบอร์เจสส์
มีมาฝากทั้งความสนุกสนานและแรงบันดาลใจ ตามสไตล์ครูลูก และตามสไตล์ We Need To Talk Podcast ด้วยเช่นกัน ถ้าภาษาอังกฤษยังไม่แข็งแรงมาก เราขอแนะนำให้เริ่มจากอ่านโชว์โน้ตก่อนจะไปกดฟังพอดแคสต์ แต่ถ้าใครอยากท้าทายความสามารถในการฟังของตัวเองดู ก็ไปฟังก่อนเลยก็ได้ แล้วค่อยกลับมาอ่านว่าได้ใจความคล้ายกันหรือเปล่า
01:11
เมื่อสองคนที่ไม่เคยศรัทธาในเรื่องความสัมพันธ์มาพบกัน
ลูกกอล์ฟ: เมื่อปี 2009 เราไปเรียนต่อที่อังกฤษด้าน Theatre Directing ที่ University of Sussex ประเทศอังกฤษ แล้ววันหนึ่งได้ไปดูละครของเขา คือพอลก็ทำงานในวงการละครเหมือนกัน สิ่งแรกที่คิดตอนได้เจอกันเป็นครั้งแรกเหรอคะ “ดี” (หัวเราะ)
เราไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็น relationship person คือไม่เคยคิดว่าจะอยู่ในความสัมพันธ์กับใครได้ยาวๆ เลย และพอลก็เหมือนกันนะ
พอล: ตอนแรกผมไม่คิดเลยครับว่าจะคบกันรอด (หัวเราะ) อย่างที่ลูกกอล์ฟบอก ผมก็เป็นคนประเภทเดียวกัน ไม่คิดว่าจะคบใครได้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ผมว่านั่นกลายเป็นข้อดี เพราะมันเลยไม่มีความคาดหวังหรือความกดดันอะไร
03:27
คบฝรั่ง ภาษาอังกฤษต้องแข็งแรงแค่ไหน
ลูกกอล์ฟ: เราเคยพูดไว้ว่า “ถ้าอยากเข้าไปให้ถึงหัวใจใครสักคน ต้องทลายกำแพงภาษาลงเสียก่อน” แม้ว่าที่จริงแล้วเราจะเชื่อว่า คนที่เขาอยากเข้าใจเรา เขาก็จะพยายามเข้าใจเราจนได้แหละ ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร สายตา ภาษากาย มันมีหลายวิธี แต่ถ้าอยากเข้าใจกันจริงๆ อย่างลึกซึ้ง มันต้องเรียนรู้ “ภาษาของเขา” นะ เช่นถ้าอยากถกกันในเรื่องที่ลึกซึ้งหน่อย มองตามันไม่พอแล้วไง มันต้องใช้คำในการสื่อสารแล้ว หรือแม้แต่ตอนทะเลาะกัน ซึ่งที่จริงเราสองคนก็ไม่ค่อยทะเลาะกันเท่าไรเนอะ (หันไปถาม)
พอล: เรา “เห็นต่างกันอย่างสุภาพ” มากกว่าครับ ผมเห็นด้วยกับที่ลูกกอล์ฟพูดนะ แต่ทางฝั่งผมปัญหาคือ ตั้งแต่เราอยู่ด้วยกันมา ภาษาอังกฤษของเขาดีจนไม่มีเหตุผลที่ผมต้องพยายามศึกษาภาษาไทยเลย (หัวเราะ) การเรียนภาษาไทยของผมแย่มากครับ แต่เขาก็พยายามสอนนะ
ลูกกอล์ฟ: แต่เราเป็นครูสอนภาษาไทยที่ไม่ดีเลย เพราะไปๆ มาๆ ก็คือพูดภาษาอังกฤษกับเขาตลอดเวลา วันก่อนเพิ่งสอนนี่ไป “นอนกินบ้านกินเมือง”
พอล: ซึ่งเป็นการสอนสำนวนโดยยกตัวอย่างน้องชายของเขาเองครับ (หัวเราะ)
ลูกกอล์ฟ: ภาษาอังกฤษของเราก็ไม่ใช่จะดีที่สุด เพราะอย่างไรต้องยอมรับว่าภาษาอังกฤษของเรามันไม่มีทางจะดีไปกว่าภาษาไทยของเราอยู่แล้ว และเราก็บอกพอลให้ช่วยจับผิดไปเลย ตรงไหนเราพูดผิดให้แก้ทันที แล้วก็ทำให้หลายครั้งเวลาคุยกับพอลจะประหม่าเพราะสมองเราจะบอกว่า พอลฟังอยู่นะ พอลฟังอยู่ เขาได้ยินทุกคำพูด อย่าพูดผิดแม้แต่คำเดียวนะ แล้วพอเราพยายามจะไม่ผิด เราก็จะพูดผิด บ้าไหมล่ะ (หัวเราะ) ตอนนี้เลยกลับมาบอกตัวเองอีกรอบว่าอย่าคิดหรือกังวลมากเกินไป
พอล: แต่ผมไม่คิดว่าการพูดผิดเป็นเรื่องใหญ่เลยนะครับ มันเป็นเรื่องปกติมาก แม้แต่เจ้าของภาษาก็ตามที
07:37
ทำอย่างไรรักทางไกลถึงจะรอด
พอล: ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกว่ามันต้องกลายเป็นการคบกันแบบทางไกลเพราะเขาต้องกลับเมืองไทย แต่พอเริ่มต้องซื้อตั๋วบินไปบินมาเราก็เริ่มเห็นภาพแล้ว แต่ที่จริงผมว่าเราไม่ได้คุยกันมากมายในเรื่องนี้นะครับ เพราะถ้าคิดเยอะเกินไปมันจะรู้สึกยากไปหมด
ลูกกอล์ฟ: สำหรับเรา มันคือคำเดียวเลยแหละ “ความเชื่อใจ”
พอล: ความเชื่อใจกันเป็นพื้นฐานที่สำคัญครับ แต่นอกจากนั้น ผมว่าเราสองคนยังโชคดีที่เราไม่ได้ทำงานแบบ 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น วันจันทร์-วันศุกร์ และมีวันหยุดแค่ไม่กี่วัน เราออกแบบเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นได้ ตอนไม่ได้อยู่ด้วยกันเราก็ตั้งใจทำงานของเราให้เต็มที่และดีที่สุด เพื่อที่จะได้กลับมาใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่และมีคุณภาพเช่นเดียวกัน
13:55
ถ้าคุณหมดหวังในความรัก และคิดว่าชาตินี้คงต้องอยู่คนเดียว
พอล: สำหรับคนที่อยากมีความสัมพันธ์จริงๆ อย่าเพิ่งรีบหมดหวังครับ เพื่อนของพ่อแม่ผมเพิ่งแต่งงานเป็นครั้งแรกในชีวิตตอนอายุ 60 กว่า แต่ผมก็อยากบอกว่า การอยู่คนเดียวมันก็ไม่ได้ผิดอะไร อย่าให้ใครมาตัดสินเราแค่เพราะเราไม่มีใคร
ลูกกอล์ฟ: อยู่คนเดียวก็ได้นะ ไม่เห็นต้องรู้สึกแย่ แล้วก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรเลย และของอย่างนี้บางทีมันจะมาตอนเราไม่ได้มองหานั่นแหละ
พอล: และสำหรับ LGBTQ ทุกคน ผมอยากบอกว่า ความเป็นเพศหลากหลายไม่ได้เกี่ยวอะไรกับความสามารถในการมีความรักความสัมพันธ์ใดๆ ทั้งสิ้นนะครับ มันไม่เกี่ยวกัน และมันไม่ต่างกัน ไม่ว่าจะสเตรทหรือเกย์
15:59
ทำอย่างไรให้ทั้ง lucky in game และ lucky in love เหมือนพี่ลูกกอล์ฟ
ลูกกอล์ฟ: เราไม่ต้องมีหมดก็ได้ และไม่ต้องมาเหมือนพี่ก็ได้ อย่าคิดว่า “อยากเป็นแบบพี่ลูกกอล์ฟ” หรือ “อยากมั่นใจในตัวเองแบบพี่ลูกกอล์ฟ” ไม่เอา มั่นใจในตัวเองแบบตัวของคุณเองสิ ถามตัวเองดีๆ ว่าเราต้องการอะไร ไม่ต้องดูจากคนอื่น ถ้าคุยกับตัวเองแล้วพบว่าเราชอบอยู่คนเดียว ได้เลย อยู่คนเดียวก็ดีและมีความสุขได้
พอล: ไม่ใช่ว่าห้ามอยากได้อยากมีนะครับ แต่หมายถึงว่า คุณไม่จำเป็นต้องอยากได้อยากมี “เหมือนคนอื่น” เท่านั้นเอง
21:03
ถ้าให้เข้าห้างไปซื้ออะไรก็ได้ คิดว่าอีกคนจะซื้ออะไรบ้าง
พอล: ถ้าเป็นสักสองสามปีก่อนเขาจะซื้อกระเป๋าครับ แต่ถ้าตอนนี้น่าจะเป็นหมวก (หัวเราะ) อย่างที่สอง น่าจะเป็นซื้อของกินเลี้ยงนักเรียน และอย่างสุดท้าย อืม…
ลูกกอล์ฟ: ซื้อเสื้อผ้าให้พอล (หัวเราะ) แต่สำหรับพอล ง่ายมากเลย หนึ่ง หนังสือ สอง หนังสือ และสาม หนังสือ (หัวเราะ)
ติดตาม We Need To Talk Podcast ได้ทางหน้าเว็บไซต์ที่ TheStandard.Co/Podcast หรือถ้าคุณฟังพอดแคสต์อยู่แล้ว ไม่ว่าจะด้วย iOS หรือ Android ไม่ว่าจะใช้แอปฯ อะไรฟังอยู่ ใช้แอปฯ นั้นๆ เสิร์ชได้เลยว่า we need to talk หรือเสิร์ช THE STANDARD ก่อน แล้วดูลิสต์รายการพอดแคสต์ทั้งหมดในเครือ เมื่อเจอแล้วก็ Follow หรือ Subscribe เอาไว้ได้เลย
Credits
The Host สาวิตรี สุทธิชานนท์
The Guest คณาธิป สุนทรรักษ์, พอล เบอร์เจสส์
Show Creator ภูมิชาย บุญสินสุข
Episode Producers ภูมิชาย บุญสินสุข, อธิษฐาน กาญจนะพงศ์, ปวริศา ตั้งตุลานนท์
Episode Editor ภูมิชาย บุญสินสุข
Sound Designer & Engineer ศุภณัฐ เดชะอำไพ
Coordinator & Admin อภิสิทธิ์ หรรษาภิรมย์โชค
Art Director อนงค์นาฎ วิวัฒนานนท์
Proofreader ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
Webmaster จินตนา ประชุมพันธ์
Photographer สลัก แก้วเชื้อ
Music Westonemusic
- เรียนภาษาอังกฤษแบบได้ผลที่สุด และได้หัวเราะมากที่สุด (เราไม่เคยไปนั่งเรียน แต่มั่นใจว่าจะเป็นอย่างนั้น) ที่ Ankriz
- หนังสือสำนวนภาษาอังกฤษแจ๋วๆ ของพอล ชื่อ Monkey Business หาซื้อได้ตามร้านหนังสือทั่วไป หรือที่ ankriz.com ก็ได้